วิธีทำให้บ้านเย็น ไม่ต้องง้อแอร์ให้เปลืองค่าไฟ

วิธีทำให้บ้านเย็น

วิธีทำให้บ้านเย็น ไม่ต้องง้อแอร์ให้เปลืองค่าไฟ

     ประเทศไทยเราเรียกได้ว่าอาจจะเป็นหน้าร้อนตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้จะมีช่วงเวลาที่เป็นหน้าหนาวกับหน้าฝนเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น แล้ววันนี้เราจึงจะนำพาทุกท่านมาพบกับเทคนิคลดความร้อนภายในบ้านไม่ว่าจะช่วงหน้าร้อนหรือช่วงหน้าไหนหากรู้สึกบ้านร้อนอยู่ไม่ได้สามารถนำไปใช้ได้เลย รับประกันเลยว่าเมื่อท่านอ่านบทความจบแล้วจะสามารถนำเทคนิคการลดความร้อนภายในบ้านไปใช้ได้จริง

อยากให้บ้านเย็นต้องเริ่มตั้งแต่การวางโครงสร้างและภูมิทัศน์

1.การวางผังบ้านให้บ้านเย็น

ทิศใต้ ทิศตะวันตก แดดเยอะที่สุด

ทิศเหนือ ทิศตะวันออก แดดน้อย

จัดวางให้ห้องแต่ละห้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานให้อยู่ในทิศที่แดดน้อย

จัดห้องที่ต้องการความร้อนช่วยจัดการความชื้น มาไว้ในทางทิศที่โดนแดดเยอะ เช่น ห้องน้ำ โซนซักล้าง ห้องครัว

เพื่อเราจะได้ใช้ห้องแต่ละห้องอย่างมีความสุขที่สุด และยังใช้แสงแดดให้เกิดประโยชน์ด้วย

2.ทิศทางลม 

ทิศทางลมในแต่ละฤดู

  1. ฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ลมจะพัดมาทางทิศใต้ ถือว่าเป็นลมที่ดี ช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้

การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศใต้ ถือเป็นทิศที่ดี เพราะเป็นทิศที่มีลมพัดเข้าบ้านตลอด จึงควรจัดให้มีช่องลม หน้าต่าง หรือประตูที่ให้ลมเข้า เพื่อดึงลมเข้าบ้านให้มากที่สุด รวมทั้งไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่บังหน้าบ้าน เพราะจะเป็นการบังทิศทางลม หากพื้นที่หน้าบ้านกว้างควรขุดบ่อน้ำ หรือทำสระน้ำไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ลดพัดความเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน.

  1. ฤดูฝน (ช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน) ลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมนี้เรียกว่า “ลมมรสุม”

การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้รับอิทธิพลของลมมากที่สุด หากในแง่ของการวางทิศบ้านให้ถูกทิศทางลมแล้ว ถือว่าทิศนี้รับลมได้ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือบ้านตั้งอยู่ในแนวลมมรสุม ซึ่งเสี่ยงต่อการที่บ้านจะเสียหายจากลมพายุได้ง่ายเมื่อเกิดพายุฝน ควรหาต้นไม้ใหญ่หรือแนวกำแพงเพื่อป้องกันลมมรสุมในทิศนี้แต่ต้องเว้นระยะห่างจากตัวบ้านด้วย.

  1. ฤดูหนาว (ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์) ทิศทางลมจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า “ลมหนาว”

แนะนำเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนจนเกินไป ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา และรับลมเย็นในช่วงหน้าหนาว.

3.จัดการเรื่องหลังคา

   ใส่ฟอยด์กันความร้อนหลังคา

   ใส่ฉนวนกันความร้อน

  • EPS

  • PU

  • Glasswool

  • Rockwool

จัดการให้มีระบบระบายอากาศ ให้ลมเย็นหรือลมดีเข้าด้านล่างหรือตัวบ้าน ดึงลมร้อนขึ้นด้านบนใต้หลังตา และเพิ่มตัวระบายความร้อนที่ใต้หลังคาออกจากตัวบ้าน ด้วยตัวดูดอากาศหรือลูกหมุน

 

4.เลือกวัสดุในการสร้างบ้าน วัสดุหลังคา วัสดุผนัง ผนังมวลเบา ผนังโฟม  สีทาบ้าน กระจกกันความร้อน ปัจจุบันมีวัสดุที่ออกแบบมาเพื่อการกันความร้อนค่อนข้างเยอะ เราสามารถเลือกวัสดุที่จะมาใช้ได้หลากหลาย เช่น สีทาบ้านกันความร้อน กระจกกันความร้อน วัสดุผนังต่างๆทั้งนี้ก็เลือกให้เหมาะสมกับ งบประมาณ และความพอใจของเราได้เลย

5.ปลูกต้นไม้บังแดด ไม่ให้แดดมาโดนตัวบ้านโดยตรง ช่วยเพิ่มความร่มลื่นและความสวยงามให้กับตัวบ้านแล้ว ยังช่วยลดความร้อนได้เป็นอย่างดี

6.เสริมระแนงกันแดด เพื่อช่วยกันความร้อนในบริเวณที่โดนแดดมาก 

หากทำตาม 6 ข้อด้านบนแล้วมั่นใจได้เลยว่าจะช่วยลดความร้อนลงอย่างน้อย  3-5 องศา ได้แน่นอน

ทีนี้หากเราอยากติดเครื่องปรับอากาศ ในบ้านก็จะไม่ต้องเปิดบ่อยๆ ไม่เปลืองไฟ หรือถ้าบ้านใครสามารถจัดการความร้อนได้ดีๆ อาจจะใช้แค่พัดลมก็เพียงพอแล้ว

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES
วิธีทำให้บ้านเย็น

วิธีทำให้บ้านเย็น ไม่ต้องง้อแอร์ให้เปลืองค่าไฟ

     ประเทศไทยเราเรียกได้ว่าอาจจะเป็นหน้าร้อนตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้จะมีช่วงเวลาที่เป็นหน้าหนาวกับหน้าฝนเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น แล้ววันนี้เราจึงจะนำพาทุกท่านมาพบกับเทคนิคลดความร้อนภายในบ้านไม่ว่าจะช่วงหน้าร้อนหรือช่วงหน้าไหนหากรู้สึกบ้านร้อนอยู่ไม่ได้สามารถนำไปใช้ได้เลย รับประกันเลยว่าเมื่อท่านอ่านบทความจบแล้วจะสามารถนำเทคนิคการลดความร้อนภายในบ้านไปใช้ได้จริง

อยากให้บ้านเย็นต้องเริ่มตั้งแต่การวางโครงสร้างและภูมิทัศน์

1.การวางผังบ้านให้บ้านเย็น

ทิศใต้ ทิศตะวันตก แดดเยอะที่สุด

ทิศเหนือ ทิศตะวันออก แดดน้อย

จัดวางให้ห้องแต่ละห้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานให้อยู่ในทิศที่แดดน้อย

จัดห้องที่ต้องการความร้อนช่วยจัดการความชื้น มาไว้ในทางทิศที่โดนแดดเยอะ เช่น ห้องน้ำ โซนซักล้าง ห้องครัว

เพื่อเราจะได้ใช้ห้องแต่ละห้องอย่างมีความสุขที่สุด และยังใช้แสงแดดให้เกิดประโยชน์ด้วย

2.ทิศทางลม 

ทิศทางลมในแต่ละฤดู

  1. ฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ลมจะพัดมาทางทิศใต้ ถือว่าเป็นลมที่ดี ช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้

การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศใต้ ถือเป็นทิศที่ดี เพราะเป็นทิศที่มีลมพัดเข้าบ้านตลอด จึงควรจัดให้มีช่องลม หน้าต่าง หรือประตูที่ให้ลมเข้า เพื่อดึงลมเข้าบ้านให้มากที่สุด รวมทั้งไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่บังหน้าบ้าน เพราะจะเป็นการบังทิศทางลม หากพื้นที่หน้าบ้านกว้างควรขุดบ่อน้ำ หรือทำสระน้ำไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ลดพัดความเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน.

  1. ฤดูฝน (ช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน) ลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมนี้เรียกว่า “ลมมรสุม”

การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้รับอิทธิพลของลมมากที่สุด หากในแง่ของการวางทิศบ้านให้ถูกทิศทางลมแล้ว ถือว่าทิศนี้รับลมได้ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือบ้านตั้งอยู่ในแนวลมมรสุม ซึ่งเสี่ยงต่อการที่บ้านจะเสียหายจากลมพายุได้ง่ายเมื่อเกิดพายุฝน ควรหาต้นไม้ใหญ่หรือแนวกำแพงเพื่อป้องกันลมมรสุมในทิศนี้แต่ต้องเว้นระยะห่างจากตัวบ้านด้วย.

  1. ฤดูหนาว (ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์) ทิศทางลมจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า “ลมหนาว”

แนะนำเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนจนเกินไป ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา และรับลมเย็นในช่วงหน้าหนาว.

3.จัดการเรื่องหลังคา

   ใส่ฟอยด์กันความร้อนหลังคา

   ใส่ฉนวนกันความร้อน

  • EPS

  • PU

  • Glasswool

  • Rockwool

จัดการให้มีระบบระบายอากาศ ให้ลมเย็นหรือลมดีเข้าด้านล่างหรือตัวบ้าน ดึงลมร้อนขึ้นด้านบนใต้หลังตา และเพิ่มตัวระบายความร้อนที่ใต้หลังคาออกจากตัวบ้าน ด้วยตัวดูดอากาศหรือลูกหมุน

4.เลือกวัสดุในการสร้างบ้าน วัสดุหลังคา วัสดุผนัง ผนังมวลเบา ผนังโฟม  สีทาบ้าน กระจกกันความร้อน ปัจจุบันมีวัสดุที่ออกแบบมาเพื่อการกันความร้อนค่อนข้างเยอะ เราสามารถเลือกวัสดุที่จะมาใช้ได้หลากหลาย เช่น สีทาบ้านกันความร้อน กระจกกันความร้อน วัสดุผนังต่างๆทั้งนี้ก็เลือกให้เหมาะสมกับ งบประมาณ และความพอใจของเราได้เลย

5.ปลูกต้นไม้บังแดด ไม่ให้แดดมาโดนตัวบ้านโดยตรง ช่วยเพิ่มความร่มลื่นและความสวยงามให้กับตัวบ้านแล้ว ยังช่วยลดความร้อนได้เป็นอย่างดี

6.เสริมระแนงกันแดด เพื่อช่วยกันความร้อนในบริเวณที่โดนแดดมาก 

หากทำตาม 6 ข้อด้านบนแล้วมั่นใจได้เลยว่าจะช่วยลดความร้อนลงอย่างน้อย  3-5 องศา ได้แน่นอน

    ทีนี้หากเราอยากติดเครื่องปรับอากาศ ในบ้านก็จะไม่ต้องเปิดบ่อยๆ ไม่เปลืองไฟ หรือถ้าบ้านใครสามารถจัดการความร้อนได้ดีๆ อาจจะใช้แค่พัดลมก็เพียงพอแล้ว

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ Rustic

15 ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ Rustic

สำหรับคนที่กำลังจะสร้างบ้านหรือสร้างบ้านเรียบร้อยแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกตกแต่งบ้านสไตล์ไหนดี วันนี้เรามีสไตล์การตกแต่งบ้านอีกหนึ่งรูปแบบมาแนะนำให้กับทุกท่าน เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่มาในแนวอบอุ่นเรียบง่ายแต่มีความสวยงามแฝงอยู่ในการตกแต่งในสไตล์นี้ โดยการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะดึงเอาความโดดเด่นของตัวบ้านที่มีความสวยงามตามธรรมชาติและกาลเวลามาเป็นจุดเด่นในการตกแต่งบ้าน เพื่อให้บ้านได้สไตล์ที่ตรงใจที่สุดและตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยมากที่สุด บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์การตกแต่งบ้านที่ถือว่าได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก

 

บ้านไตล์ Rustic (1)

พามารู้จักการแต่งบ้านแบบ rustic คืออะไร

การตกแต่งบ้านหรือการสร้างบ้านในสไตล์ rustic เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ไม่รู้จักกับบ้านในสไตล์นี้ บอกเลยว่าเป็นสไตล์ของบ้านที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก โดยการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติความอบอุ่นของตัวบ้าน เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในวันที่เหนื่อยล้าจะให้ความรู้สึกได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างลงตัว โดยการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้จะเน้นในโทนอบอุ่นหรือการจับคู่สีที่ใช้โทนขาวน้ำตาลเป็นหลัก

 

ไอเดียการแต่งบ้านให้สวยงามตามธรรมชาติและกาลเวลา

กาลเวลาผ่านไปความสวยงามก็ยังคงอยู่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม รวมไปถึงบ้านก็เช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงอยากให้ท่านมาดึงจุดความสวยงามของบ้านให้เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่ตรงใจของท่านที่สุด บอกเลยว่าเมื่อได้ตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้นมีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น บ้านทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพจิตดีและมีความสุขไปด้วยในตัว ดังนั้นก็อย่ารอช้ามาหาสไตล์การตกแต่งบ้านที่ชื่นชอบ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยไปพร้อมกันกับเราได้เลย

พาส่องไอเดียการแต่งบ้านสไตล์ rustic อบอุ่นเรียบง่ายได้สไตล์ที่แตกต่าง

อบอุ่นเรียบง่ายได้สไตล์ที่แตกต่างกับการตกแต่งบ้านในสไตล์ rustic เพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวบ้าน ไอเดียการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะมีในรูปแบบไหนบ้างนั้นตามไปดูกับเราได้เลยกับ 15 ไอเดียที่ไม่ควรพลาด

 

1.การตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้

การตกแต่งบ้านโดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้มาสร้างมนต์เสน่ห์ให้กับบ้านของผู้อยู่อาศัย โดยเราจะแนะนำให้เน้นใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติเพื่อเป็นองค์ประกอบในการตกแต่ง เราที่เวลาใช้งานจะได้รู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติได้โดยแท้จริง

2.การตกแต่งบ้านด้วยโซฟาผ้า

การตกแต่งบ้านในรูปแบบนี้จะเป็นการดึงจุดเด่นที่สร้างความอบอุ่นด้วยการใช้โซฟาในรูปแบบผ้า โดยสีที่เราแนะนำให้ใช้จะเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีเทา เพราะจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและจะทำให้รู้สึกนุ่มสบายในตอนที่ใช้งาน

3.การตกแต่งบ้านด้วยกำแพงหิน

การเพิ่มจุดสนใจภายในบ้านโดยใช้ก้อนหินหรือก้อนอิฐที่มีโทนสีเทามาใช้ในการตกแต่งบ้าน จะช่วยให้บ้านมีความน่าหลงใหลและมีมิติมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

4.ออกแบบ ไอเดียแต่งบ้าน rustic โดยใช้โคมไฟแขวน

เพิ่มความอบอุ่นด้วยโคมไฟแขวนที่มาในรูปแบบคลาสสิก ไอเดียแต่งบ้าน rustic โดยการติดตั้งโคมไฟในรูปแบบนี้นอกจากจะเพิ่มความสว่างไสวภายในบ้านแล้วนั้น ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอบอุ่นใจและสบายตาทุกครั้งที่ได้มองอีกด้วย แนะนำว่าไฟที่ใช้กับโคมไฟรูปแบบนี้ควรเป็นไฟในโทนสีส้มเหลืองของหลอดไฟ ทำให้ได้รับความรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างดี

5.การตกแต่งบ้านโดยใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อน

การตกแต่งบ้านเพิ่มเติมโดยใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อนไม่ว่าจะเป็นตู้ลิ้นชัก หรือเก้าอี้ในห้องรับแขกถ้าเป็นโทนสีอ่อนเช่นสีเทาอ่อนหรือสีครีมอ่อนจะช่วยให้ความรู้สึกภายในบ้านมีความอบอุ่นเช่นเดียวกัน และจะทำให้บ้านรู้สึกน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

6.การตกแต่งบ้านโดยการเพิ่มชั้นลอย

การเพิ่มชั้นลอยภายในบ้านนอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้านแล้วนั้น ยังทำให้บ้านดูมีพื้นที่ใช้สอยและทำให้อบอุ่นน่าอยู่น่าใช้งานเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยในการเพิ่มชั้นลอยนั้นควรใช้วัสดุที่เป็นจากธรรมชาติเพราะจะช่วยให้บ้านดูมีสไตล์และมีความอบอุ่น

 

บ้านไตล์ Rustic (4)

7.การตกแต่งบ้านด้วยกันเพิ่มผนังปูนเปลือยดิบ

ปูนเปลือยดิบนอกจากจะสื่อความเป็นโมเดิร์นของตัวบ้านได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น ปูนเปลือยดิบยังช่วยให้การตกแต่งบ้านในสไตล์รัสติคมีความละมุนมากยิ่งขึ้นดูมีอะไรมากยิ่งขึ้น ทำให้มีความน่าหลงใหลและมีมนต์เสน่ห์ในตัวบ้านเป็นอย่างมาก แนะนำว่าการตกแต่งในรูปแบบนี้ควรเลือกตกแต่งเพียงผนังด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

8.การตกแต่งบ้านด้วยชั้นวางไม้ที่มีรูปลักษณะเป็นธรรมชาติ

การเพิ่มชั้นวางที่ทำมาจากไม้ที่มีรูปลักษณะเป็นธรรมชาติจะช่วยทำให้บ้านมีกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น มีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้นในตัว แม้จะดูเป็นอุปกรณ์ตกแต่งที่แสนธรรมดาแต่บอกเลยว่าการนี้อุปกรณ์ชิ้นนี้วางอยู่ภายในบ้านนั้นจะทำให้บ้านดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

9.การตกแต่งบ้านโดยการดึงความดิบของวัตถุ

โดยส่วนใหญ่กันตกแต่งบ้านโดยการใช้การดึงความดิบของวัตถุนั้นจะใช้กับวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นสังกะสี หรือผังที่เป็นกระถางต้นไม้ เขาจะช่วยให้บ้านดูมีความคลาสสิกดูมีความน่าค้นหามากยิ่งขึ้น โดยสื่อถึงความเป็นธรรมชาติและกาลเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน

บ้านไตล์ Rustic (5)

10.การตกแต่งบ้านโดยใช้ดอกไม้แห้ง

ดอกไม้แห้งที่นำมาใช้ตกแต่งบ้าน บอกเลยว่าจะสื่อถึงความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น สื่อถึงว่าไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ดอกไม้ก็ยังคงงดงามในรูปแบบของมันอยู่เสมอ โดยเมื่อนำดอกไม้มาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้บอกเลยว่ายิ่งทำให้บ้านดูอบอุ่น ดูน่าอยู่มากขึ้นหลายเท่าตัว

11.การตกแต่งบ้านโดยใช้ดอกไม้และใบไม้สีเขียวตัด

นอกจากการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะนำดอกไม้แห้งมาใช้ในการจัดตกแต่งแล้วนั้น การมีดอกไม้หรือใบไม้สีเขียวมาเป็นตัวช่วยตัดจะทำให้บ้านดูมีความเรียบง่ายมากขึ้นและไม่ซับซ้อน หากเป็นในแนวสีเดียวมากเกินไปอาจทำให้การตกแต่งบ้านนั้นดูน่าเบื่อ

12.การตกแต่งบ้านด้วยการใช้โคมไฟหรือแจกันเป็นสีขาว

เมื่อมีสีขาวมาเป็นส่วนช่วยในการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้ ดูมีความน่าค้นหาและมีอะไรมากยิ่งขึ้น ทำให้มองไปแล้วมีอะไรสะดุดตาไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ยิ่งใช้แจกันสีขาวตัดกับต้นไม้หรือดอกไม้สีเขียวยิ่งช่วยให้บ้านดูอบอุ่นและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นไปอีก

13.การตกแต่งบ้านด้วยการสร้างหลังคาบ้านให้สูงและโปร่งโล่ง

เรียกได้ว่านี่คือหนึ่งรูปแบบวิธีการออกแบบและการตกแต่งบ้าน โดยการทำหลังคาให้สูงและโปร่งโล่งจะทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ไม่ดูอุดอู้มากเกินไปทำให้ได้รับกลิ่นอายธรรมชาติและฟิลจากธรรมชาติได้อย่างเต็มร้อย

14.การตกแต่งบ้านโดยการนำท่อนไม้เก่ามาทำเป็นชั้นวางหนังสือ

มุมหนังสือสักมุมภายในบ้านเพิ่มความอบอุ่นความเรียบหรูและความมีสไตล์ โดยการนำท่อนไม้เก่ามาทำเป็นชั้นวางหนังสือ ให้มีกิมมิคภายในบ้านเล็กน้อยทำในบ้านดูมีความน่าค้นหาและทำให้มุมอ่านหนังสือของท่านน่าอ่านมากยิ่งขึ้น

15.ตกแต่งบ้านด้วยหินกับไม้ขัดลาย

การเลือกตกแต่งโดยใช้วัสดุอุปกรณ์นี้จะทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างหินและไม้ ลักษณะการตกแต่งที่ออกมาจะทำให้ดูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดดึงดูดศูนย์กลางของบ้านได้เป็นอย่างดี โดยหากจะเลือกใช้การตกแต่งในรูปแบบนี้พอเลือกตกแต่งโดยใช้ผนังท่านใดข้างหนึ่งเท่านั้น

 

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

15 ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ Rustic

สำหรับคนที่กำลังจะสร้างบ้านหรือสร้างบ้านเรียบร้อยแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกตกแต่งบ้านสไตล์ไหนดี วันนี้เรามีสไตล์การตกแต่งบ้านอีกหนึ่งรูปแบบมาแนะนำให้กับทุกท่าน เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่มาในแนวอบอุ่นเรียบง่ายแต่มีความสวยงามแฝงอยู่ในการตกแต่งในสไตล์นี้ โดยการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะดึงเอาความโดดเด่นของตัวบ้านที่มีความสวยงามตามธรรมชาติและกาลเวลามาเป็นจุดเด่นในการตกแต่งบ้าน เพื่อให้บ้านได้สไตล์ที่ตรงใจที่สุดและตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยมากที่สุด บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์การตกแต่งบ้านที่ถือว่าได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก

บ้านไตล์ Rustic (1)

พามารู้จักการแต่งบ้านแบบ rustic คืออะไร

การตกแต่งบ้านหรือการสร้างบ้านในสไตล์ rustic เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ไม่รู้จักกับบ้านในสไตล์นี้ บอกเลยว่าเป็นสไตล์ของบ้านที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก โดยการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติความอบอุ่นของตัวบ้าน เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในวันที่เหนื่อยล้าจะให้ความรู้สึกได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างลงตัว โดยการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้จะเน้นในโทนอบอุ่นหรือการจับคู่สีที่ใช้โทนขาวน้ำตาลเป็นหลัก

ไอเดียการแต่งบ้านให้สวยงามตามธรรมชาติและกาลเวลา

กาลเวลาผ่านไปความสวยงามก็ยังคงอยู่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม รวมไปถึงบ้านก็เช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงอยากให้ท่านมาดึงจุดความสวยงามของบ้านให้เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่ตรงใจของท่านที่สุด บอกเลยว่าเมื่อได้ตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้นมีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น บ้านทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพจิตดีและมีความสุขไปด้วยในตัว ดังนั้นก็อย่ารอช้ามาหาสไตล์การตกแต่งบ้านที่ชื่นชอบ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยไปพร้อมกันกับเราได้เลย

พาส่องไอเดียการแต่งบ้านสไตล์ rustic อบอุ่นเรียบง่ายได้สไตล์ที่แตกต่าง

อบอุ่นเรียบง่ายได้สไตล์ที่แตกต่างกับการตกแต่งบ้านในสไตล์ rustic เพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวบ้าน ไอเดียการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะมีในรูปแบบไหนบ้างนั้นตามไปดูกับเราได้เลยกับ 15 ไอเดียที่ไม่ควรพลาด

1.การตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้

การตกแต่งบ้านโดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้มาสร้างมนต์เสน่ห์ให้กับบ้านของผู้อยู่อาศัย โดยเราจะแนะนำให้เน้นใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติเพื่อเป็นองค์ประกอบในการตกแต่ง เราที่เวลาใช้งานจะได้รู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติได้โดยแท้จริง

2.การตกแต่งบ้านด้วยโซฟาผ้า

การตกแต่งบ้านในรูปแบบนี้จะเป็นการดึงจุดเด่นที่สร้างความอบอุ่นด้วยการใช้โซฟาในรูปแบบผ้า โดยสีที่เราแนะนำให้ใช้จะเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีเทา เพราะจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและจะทำให้รู้สึกนุ่มสบายในตอนที่ใช้งาน

3.การตกแต่งบ้านด้วยกำแพงหิน

การเพิ่มจุดสนใจภายในบ้านโดยใช้ก้อนหินหรือก้อนอิฐที่มีโทนสีเทามาใช้ในการตกแต่งบ้าน จะช่วยให้บ้านมีความน่าหลงใหลและมีมิติมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

4.ออกแบบ ไอเดียแต่งบ้าน rustic โดยใช้โคมไฟแขวน

เพิ่มความอบอุ่นด้วยโคมไฟแขวนที่มาในรูปแบบคลาสสิก ไอเดียแต่งบ้าน rustic โดยการติดตั้งโคมไฟในรูปแบบนี้นอกจากจะเพิ่มความสว่างไสวภายในบ้านแล้วนั้น ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอบอุ่นใจและสบายตาทุกครั้งที่ได้มองอีกด้วย แนะนำว่าไฟที่ใช้กับโคมไฟรูปแบบนี้ควรเป็นไฟในโทนสีส้มเหลืองของหลอดไฟ ทำให้ได้รับความรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างดี

5.การตกแต่งบ้านโดยใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อน

การตกแต่งบ้านเพิ่มเติมโดยใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อนไม่ว่าจะเป็นตู้ลิ้นชัก หรือเก้าอี้ในห้องรับแขกถ้าเป็นโทนสีอ่อนเช่นสีเทาอ่อนหรือสีครีมอ่อนจะช่วยให้ความรู้สึกภายในบ้านมีความอบอุ่นเช่นเดียวกัน และจะทำให้บ้านรู้สึกน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

6.การตกแต่งบ้านโดยการเพิ่มชั้นลอย

การเพิ่มชั้นลอยภายในบ้านนอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้านแล้วนั้น ยังทำให้บ้านดูมีพื้นที่ใช้สอยและทำให้อบอุ่นน่าอยู่น่าใช้งานเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยในการเพิ่มชั้นลอยนั้นควรใช้วัสดุที่เป็นจากธรรมชาติเพราะจะช่วยให้บ้านดูมีสไตล์และมีความอบอุ่น

บ้านไตล์ Rustic (4)

7.การตกแต่งบ้านด้วยกันเพิ่มผนังปูนเปลือยดิบ

ปูนเปลือยดิบนอกจากจะสื่อความเป็นโมเดิร์นของตัวบ้านได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น ปูนเปลือยดิบยังช่วยให้การตกแต่งบ้านในสไตล์รัสติคมีความละมุนมากยิ่งขึ้นดูมีอะไรมากยิ่งขึ้น ทำให้มีความน่าหลงใหลและมีมนต์เสน่ห์ในตัวบ้านเป็นอย่างมาก แนะนำว่าการตกแต่งในรูปแบบนี้ควรเลือกตกแต่งเพียงผนังด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

8.การตกแต่งบ้านด้วยชั้นวางไม้ที่มีรูปลักษณะเป็นธรรมชาติ

การเพิ่มชั้นวางที่ทำมาจากไม้ที่มีรูปลักษณะเป็นธรรมชาติจะช่วยทำให้บ้านมีกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น มีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้นในตัว แม้จะดูเป็นอุปกรณ์ตกแต่งที่แสนธรรมดาแต่บอกเลยว่าการนี้อุปกรณ์ชิ้นนี้วางอยู่ภายในบ้านนั้นจะทำให้บ้านดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

9.การตกแต่งบ้านโดยการดึงความดิบของวัตถุ

โดยส่วนใหญ่กันตกแต่งบ้านโดยการใช้การดึงความดิบของวัตถุนั้นจะใช้กับวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นสังกะสี หรือผังที่เป็นกระถางต้นไม้ เขาจะช่วยให้บ้านดูมีความคลาสสิกดูมีความน่าค้นหามากยิ่งขึ้น โดยสื่อถึงความเป็นธรรมชาติและกาลเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน

 

บ้านไตล์ Rustic (5)

10.การตกแต่งบ้านโดยใช้ดอกไม้แห้ง

ดอกไม้แห้งที่นำมาใช้ตกแต่งบ้าน บอกเลยว่าจะสื่อถึงความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น สื่อถึงว่าไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ดอกไม้ก็ยังคงงดงามในรูปแบบของมันอยู่เสมอ โดยเมื่อนำดอกไม้มาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้บอกเลยว่ายิ่งทำให้บ้านดูอบอุ่น ดูน่าอยู่มากขึ้นหลายเท่าตัว

11.การตกแต่งบ้านโดยใช้ดอกไม้และใบไม้สีเขียวตัด

นอกจากการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะนำดอกไม้แห้งมาใช้ในการจัดตกแต่งแล้วนั้น การมีดอกไม้หรือใบไม้สีเขียวมาเป็นตัวช่วยตัดจะทำให้บ้านดูมีความเรียบง่ายมากขึ้นและไม่ซับซ้อน หากเป็นในแนวสีเดียวมากเกินไปอาจทำให้การตกแต่งบ้านนั้นดูน่าเบื่อ

12.การตกแต่งบ้านด้วยการใช้โคมไฟหรือแจกันเป็นสีขาว

เมื่อมีสีขาวมาเป็นส่วนช่วยในการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้ ดูมีความน่าค้นหาและมีอะไรมากยิ่งขึ้น ทำให้มองไปแล้วมีอะไรสะดุดตาไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ยิ่งใช้แจกันสีขาวตัดกับต้นไม้หรือดอกไม้สีเขียวยิ่งช่วยให้บ้านดูอบอุ่นและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นไปอีก

13.การตกแต่งบ้านด้วยการสร้างหลังคาบ้านให้สูงและโปร่งโล่ง

เรียกได้ว่านี่คือหนึ่งรูปแบบวิธีการออกแบบและการตกแต่งบ้าน โดยการทำหลังคาให้สูงและโปร่งโล่งจะทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ไม่ดูอุดอู้มากเกินไปทำให้ได้รับกลิ่นอายธรรมชาติและฟิลจากธรรมชาติได้อย่างเต็มร้อย

14.การตกแต่งบ้านโดยการนำท่อนไม้เก่ามาทำเป็นชั้นวางหนังสือ

มุมหนังสือสักมุมภายในบ้านเพิ่มความอบอุ่นความเรียบหรูและความมีสไตล์ โดยการนำท่อนไม้เก่ามาทำเป็นชั้นวางหนังสือ ให้มีกิมมิคภายในบ้านเล็กน้อยทำในบ้านดูมีความน่าค้นหาและทำให้มุมอ่านหนังสือของท่านน่าอ่านมากยิ่งขึ้น

15.ตกแต่งบ้านด้วยหินกับไม้ขัดลาย

การเลือกตกแต่งโดยใช้วัสดุอุปกรณ์นี้จะทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างหินและไม้ ลักษณะการตกแต่งที่ออกมาจะทำให้ดูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดดึงดูดศูนย์กลางของบ้านได้เป็นอย่างดี โดยหากจะเลือกใช้การตกแต่งในรูปแบบนี้พอเลือกตกแต่งโดยใช้ผนังท่านใดข้างหนึ่งเท่านั้น

 

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

ฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายร่างกายมากกว่าที่เราคิด วิธีจัดการฝุ่น PM 2.5 ในบ้าน

วิธีจัดการฝุ่น PM 2.5 ในบ้าน

ภัยคุกคามทางด้านอากาศได้เข้ามาถึงตัวทุกท่านแล้ว บอกเลยว่าทุกวันนี้นอกจากจะมีปัญหาเรื่องมลภาวะและปัญหาโลกร้อนมากมาย สิ่งที่ตามมาอีกหนึ่งอย่างที่เราเห็นกันได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือฝุ่น PM 2.5 ออกจากบ้านแค่แป๊บเดียวเข้ามาก็สามารถติดตัวเราได้แล้ว โดยส่วนนี้เป็นฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้คนเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางเว็บไซต์ของเราจึงจะมาแนะนำวิธีการจัดการฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้านให้กับทุกท่าน แม้ภายนอกบ้านจะไม่ปลอดภัยแต่ภายในบ้านปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า รวมทุกวิธีการป้องกันฝุ่น PM 2.5 มาให้ทุกท่านในกระทู้นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฝุ่นPM2.5

ฝุ่นจิ๋วมลพิษทางอากาศที่ไม่อาจเลี่ยงได้แต่ป้องกันได้

มลพิษทางอากาศที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แต่สามารถป้องกันได้ด้วยตัวของท่านเอง ไม่รู้ว่าแต่ละวันต้องพบเจอกับปัญหาอะไรบ้างหรือมลภาวะอะไรบ้าง แต่บอกเลยว่าการที่เราสามารถป้องกันการเกิดผลเสียในภายหลังไว้ก่อนจะดีที่สุด การป้องกันไม่ให้เรากระทบกับฝุ่น PM 2.5 โดยตรงก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันที่ควรทำเป็นอย่างมาก เพราะฝุ่น PM 2.5 นี้มีผลระยะยาวในการใช้ชีวิต อาจลงปอดจนก่อให้เกิดมะเร็ง หรือในบางรายเกิดอาการระคายเคืองคัดจมูกหายใจไม่สะดวก และหายใจติดขัด ไม่รู้ว่าภัยร้ายจะมาถึงตัวเราเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นการป้องกันเอาไว้จึงดีที่สุดต่อชีวิต

ฝุ่น PM 2.5 เกิดมาจากอะไร หลายคนคงสงสัยว่า ฝุ่นเกิดมาจากอะไรทำไมจึงมีปริมาณมากขนาดนี้และส่งผลกับการใช้ชีวิตของผู้คนขนาดนี้ ฝุ่น PM 2.5 ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ จึงก่อให้เกิดเป็นฝุ่น PM 2.5 ในบางส่วนไม่ว่าจะเป็น การใช้มอเตอร์จนเกิดการเผาไหม้ของมอเตอร์ การผลิตไฟฟ้าเพื่อมาให้ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวัน ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็จะมีการปล่อยฝุ่น PM 2.5 ออกมาในอากาศ นอกจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แล้วนั้นพฤติกรรมทั่วไปของคนเช่นการจุดธูป การสูบบุหรี่ การขับรถบนถนนก็เป็นการปล่อย PM 2.5 มาสู่อากาศเช่นเดียวกัน ผลที่เกิดขึ้นนอกจากเป็นที่มนุษย์สร้างขึ้นยังเกิดมาจากธรรมชาติได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นควันจะไฟป่า ฝุ่นที่เกิดมาจากลม และอื่นๆ อีกมากมาย

พามารู้จักข้อเสียของฝุ่น PM 2.5 และวิธีการลดฝุ่นภายในบ้าน

สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้จักกับเจ้า PM 2.5 และคิดว่าเป็นแค่ฝุ่นละอองธรรมดา วันนี้เราจะนำพาทุกท่านไปรู้จักกับฝุ่น PM 2.5 ให้ดีมากยิ่งขึ้น พาทุกท่านมารู้จักข้อดีข้อเสียและวิธีการลดฝุ่นภายในบ้าน เพื่อให้เซฟตัวเองมากที่สุดและป้องกันตัวเองได้มากที่สุดในการใช้ชีวิตประจำวัน

  • สำหรับข้อเสียของ pm 2.5 ในบ้าน ที่ทุกท่านไม่อาจมองข้าม

PM 2.5 ฝุ่นละอองจิ๋วขนาดเล็กบอกเลยว่าหาข้อดีของตัวนี้ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่พบแต่ข้อเสียทั้งนั้น pm 2.5 ในบ้าน ดังนั้นทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ไม่ควรจะมองข้ามข้อเสียของฝุ่น PM 2.5 เราจะพาท่านไปรู้จักข้อเสียของฝุ่นชนิดนี้ให้ดีมากยิ่งขึ้น

  1. ส่งผลให้เกิดอาการไออาการจาม โดยอาการประเภทนี้เป็นแค่อาการเริ่มต้นของข้อเสียเมื่อได้สัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น โดยในบางท่านอาจจะมีอาการระคายเคืองผิวหนังหรือคัดจมูกร่วมตามไปด้วย
  2. ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองในดวงตาทำให้ตาแดงแสบตา ฝุ่นชนิดนี้เป็นฝุ่นขนาดเล็กจึงสามารถเข้าไปภายในบริเวณดวงตาได้ง่ายและเป็นเชื้อโรคสะสมทำให้ดวงตาระคายเคืองหรืออาจก่อให้เกิดอาการอักเสบได้
  3. เสี่ยงที่จะทำให้หัวใจและหลอดเลือดตีบสมองตีบเกิดสภาวะความดันโลหิตสูงเมื่อได้รับในระยะเวลาที่ยาว และที่สำคัญยังเสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันอีกด้วย
  4. เสี่ยงในด้านของระบบทางเดินหายใจซึ่งอาจจะเป็นโรคปอดอุดตันเรื้อรังหรือเป็นโรคหอบหืดก็สามารถเป็นได้
  5. เสี่ยงที่สุดคือการเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพราะเมื่อได้รับฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะเวลานานปอดอาจจะทำงานหนักและอาจจะก่อให้เกิดความผิดปกติจนเกิดเป็นมะเร็งเลยก็ว่าได้
  6. สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการแท้งการคลอดก่อนกำหนด หรือแม้กระทั่งความเสี่ยงในเรื่องที่ไปกระทบต่อพัฒนาการของเด็กภายในท้องอีกด้วย

ทุกอย่างล้วนเป็นผลกระทบในการใช้ชีวิตทั้งสิ้น ดังนั้นหากเลี่ยงได้ควรเลี่ยง หากป้องกันได้ควรป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตของท่านนั่นเอง

  •  

 

  • วิธีลดฝุ่นภายในบ้าน วิธีจัดการ pm 2.5 สะอาดไว้ก่อนห่างไกลโรค

เมื่อรู้จักกับข้อเสียของฝุ่นละอองจิ๋วแล้วเราจะมาแนะนำให้ท่านรู้จักกับ วิธีจัดการ pm 2.5 สะอาดไว้ก่อนรับรองห่างไกลโรคอย่างแน่นอน วิธีการลดฝุ่นภายในบ้านจะมีวิธีไหนบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

  1. งดการเผาขยะและการจุดธูปภายในบ้าน โดยการงดเผาขยะและการจุดธูปจะช่วยลดการเกิดฝุ่นและควันและฝุ่นละอองภายในอากาศได้เป็นอย่างดี โดยในเรื่องของการเผาขยะจะแนะนำให้ท่านทำการแยกขยะให้ถูกประเภทและทิ้งให้ถูกประเภทเพื่อที่จะนำไปผ่านกระบวนการหรือนำไปย่อยสลายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  2. พยายามปัดกวาดเช็ดถูอยู่เสมอ อยู่ภายในบ้านเราไม่รู้ว่าแต่ละคนไปเจออะไรมาบ้างไม่ว่าจะฝุ่นหรือควันหรืออาจนำพาเชื้อโรคเข้ามาภายในบ้าน ดังนั้นควรพยายามปัดกวาดเช็ดถูบ้านอยู่เสมอจะทำให้บ้านสะอาดและมีฝุ่นละอองน้อยลง
  3. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้าน ตอนนี้ต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยให้บ้านมีฝุ่นละอองภายในบ้านลดลง ทำให้อากาศภายในบ้านสดชื่นมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำว่าต้นไม้ที่ใช้ปลูกเป็นต้นไม้ฟอกอากาศขนาดเล็กไม่ควรเป็นต้นไม้ใหญ่มากเกินไป และไม่ควรนำไปไว้ในห้องนอน
  4. ควรมีเครื่องฟอกอากาศติดตั้งภายในบ้าน การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยให้ลดฝุ่นภายในบ้านได้ดีมากยิ่งขึ้นทำให้อากาศมีความสะอาดและบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในบ้านไม่ต้องปะทะกับฝุ่น PM 2.5 แบบจังๆ
  5. หมั่นทำความสะอาดและล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ แอร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เป็นที่สะสมฝุ่นละอองขนาดเล็กเลยก็ว่าได้ เนื่องจากตัวแอร์นั้นจะมีชั้นกรองฝุ่นเพื่อให้เป็นการลดฝุ่นละอองให้น้อยลงและทำให้แอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ควรมีการทำความสะอาดและล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ

วิธีการลดฝุ่นภายในบ้านที่เรามาแนะนำให้กับทุกท่านนั้นสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของท่านได้จริง และบอกเลยว่าช่วยลดฝุ่นภายในบ้านและยังช่วยให้คุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยของท่านดีขึ้นได้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวอีกด้วย

ฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายร่างกายมากกว่าที่เราคิด

ฝุ่น PM 2.5 นั้นเป็นฝุ่นละอองขนาดจิ๋วบอกเลยว่าสามารถทำร้ายร่างกายของเราได้มากกว่าที่เราคิดเสียอีก ดังนั้นเมื่อเราสามารถหลีกเลี่ยงได้และป้องกันตัวเองได้ควรจะมีการหลีกเลี่ยงและเซฟตัวเองไว้จะดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้าน การลดพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองตามขึ้นมาภายหลัง นอกจากจะช่วยเซฟตัวเองยังเป็นการช่วยลด PM 2.5 ได้ดีอีกด้วย หากไม่อยากพบเจอผลกระทบกับชีวิตและร่างกายในระยะยาวดังนั้นเราควรป้องกันไว้ก่อนจะแก้ได้เลย

PM 2.5 ฝุ่นละอองจิ๋วตัวร้ายป้องกันเอาไว้ดีที่สุด

เรื่องของฝุ่นละออง PM 2.5 บอกเลยว่าเป็นปัญหากันทุกปี bezenceramictiles.com เราจึงรวมทุกวิธีการป้องกันจากเจ้าฝุ่นจิ๋วตัวร้ายมาแนะนำให้กับทุกท่าน เพื่อให้ส่งผลกระทบในทางสุขภาพน้อยที่สุด หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการป้องกันฝุ่นละอองจิ๋วตัวร้าย PM 2.5 สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราได้เลย พร้อมแนะนำทุกขั้นตอนในการป้องกันจากฝุ่นละออง เพื่อให้ได้มีสุขภาพชีวิตที่ดีมีกำลังกายกำลังใจที่แข็งแรงพร้อมสู้ต่อในทุกวัน ใครว่าเรื่องฝุ่นละอองเป็นเรื่องที่ไกลตัวบอกเลยนี่คือเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดที่ท่านควรป้องกันและควรหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ หากมีวิธีที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หลีกเลี่ยงไว้จะดีที่สุด ชีวิตของเรามีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นไม่ต้องไปเสี่ยงกับอะไรที่ไม่จำเป็นทั้งสิ้น

 

วิธีจัดการฝุ่น PM 2.5 ในบ้าน

   ภัยคุกคามทางด้านอากาศได้เข้ามาถึงตัวทุกท่านแล้ว บอกเลยว่าทุกวันนี้นอกจากจะมีปัญหาเรื่องมลภาวะและปัญหาโลกร้อนมากมาย สิ่งที่ตามมาอีกหนึ่งอย่างที่เราเห็นกันได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือฝุ่น PM 2.5 ออกจากบ้านแค่แป๊บเดียวเข้ามาก็สามารถติดตัวเราได้แล้ว โดยส่วนนี้เป็นฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้คนเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางเว็บไซต์ของเราจึงจะมาแนะนำวิธีการจัดการฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้านให้กับทุกท่าน แม้ภายนอกบ้านจะไม่ปลอดภัยแต่ภายในบ้านปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า รวมทุกวิธีการป้องกันฝุ่น PM 2.5 มาให้ทุกท่านในกระทู้นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฝุ่นPM2.5

ฝุ่นจิ๋วมลพิษทางอากาศที่ไม่อาจเลี่ยงได้แต่ป้องกันได้

   มลพิษทางอากาศที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แต่สามารถป้องกันได้ด้วยตัวของท่านเอง ไม่รู้ว่าแต่ละวันต้องพบเจอกับปัญหาอะไรบ้างหรือมลภาวะอะไรบ้าง แต่บอกเลยว่าการที่เราสามารถป้องกันการเกิดผลเสียในภายหลังไว้ก่อนจะดีที่สุด การป้องกันไม่ให้เรากระทบกับฝุ่น PM 2.5 โดยตรงก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันที่ควรทำเป็นอย่างมาก เพราะฝุ่น PM 2.5 นี้มีผลระยะยาวในการใช้ชีวิต อาจลงปอดจนก่อให้เกิดมะเร็ง หรือในบางรายเกิดอาการระคายเคืองคัดจมูกหายใจไม่สะดวก และหายใจติดขัด ไม่รู้ว่าภัยร้ายจะมาถึงตัวเราเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นการป้องกันเอาไว้จึงดีที่สุดต่อชีวิต

ฝุ่น PM 2.5 เกิดมาจากอะไร หลายคนคงสงสัยว่า ฝุ่นเกิดมาจากอะไรทำไมจึงมีปริมาณมากขนาดนี้และส่งผลกับการใช้ชีวิตของผู้คนขนาดนี้ ฝุ่น PM 2.5 ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ จึงก่อให้เกิดเป็นฝุ่น PM 2.5 ในบางส่วนไม่ว่าจะเป็น การใช้มอเตอร์จนเกิดการเผาไหม้ของมอเตอร์ การผลิตไฟฟ้าเพื่อมาให้ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวัน ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็จะมีการปล่อยฝุ่น PM 2.5 ออกมาในอากาศ นอกจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แล้วนั้นพฤติกรรมทั่วไปของคนเช่นการจุดธูป การสูบบุหรี่ การขับรถบนถนนก็เป็นการปล่อย PM 2.5 มาสู่อากาศเช่นเดียวกัน ผลที่เกิดขึ้นนอกจากเป็นที่มนุษย์สร้างขึ้นยังเกิดมาจากธรรมชาติได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นควันจะไฟป่า ฝุ่นที่เกิดมาจากลม และอื่นๆ อีกมากมาย

พามารู้จักข้อเสียของฝุ่น PM 2.5 และวิธีการลดฝุ่นภายในบ้าน

   สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้จักกับเจ้า PM 2.5 และคิดว่าเป็นแค่ฝุ่นละอองธรรมดา วันนี้เราจะนำพาทุกท่านไปรู้จักกับฝุ่น PM 2.5 ให้ดีมากยิ่งขึ้น พาทุกท่านมารู้จักข้อดีข้อเสียและวิธีการลดฝุ่นภายในบ้าน เพื่อให้เซฟตัวเองมากที่สุดและป้องกันตัวเองได้มากที่สุดในการใช้ชีวิตประจำวัน

สำหรับข้อเสียของ pm 2.5 ในบ้าน ที่ทุกท่านไม่อาจมองข้าม

   PM 2.5 ฝุ่นละอองจิ๋วขนาดเล็กบอกเลยว่าหาข้อดีของตัวนี้ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่พบแต่ข้อเสียทั้งนั้น pm 2.5 ในบ้าน ดังนั้นทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ไม่ควรจะมองข้ามข้อเสียของฝุ่น PM 2.5 เราจะพาท่านไปรู้จักข้อเสียของฝุ่นชนิดนี้ให้ดีมากยิ่งขึ้น

   • ส่งผลให้เกิดอาการไออาการจาม โดยอาการประเภทนี้เป็นแค่อาการเริ่มต้นของข้อเสียเมื่อได้สัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น โดยในบางท่านอาจจะมีอาการระคายเคืองผิวหนังหรือคัดจมูกร่วมตามไปด้วย

   • ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองในดวงตาทำให้ตาแดงแสบตา ฝุ่นชนิดนี้เป็นฝุ่นขนาดเล็กจึงสามารถเข้าไปภายในบริเวณดวงตาได้ง่ายและเป็นเชื้อโรคสะสมทำให้ดวงตาระคายเคืองหรืออาจก่อให้เกิดอาการอักเสบได้

   • เสี่ยงที่จะทำให้หัวใจและหลอดเลือดตีบสมองตีบเกิดสภาวะความดันโลหิตสูงเมื่อได้รับในระยะเวลาที่ยาว และที่สำคัญยังเสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันอีกด้วย

   • เสี่ยงในด้านของระบบทางเดินหายใจซึ่งอาจจะเป็นโรคปอดอุดตันเรื้อรังหรือเป็นโรคหอบหืดก็สามารถเป็นได้

   • เสี่ยงที่สุดคือการเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพราะเมื่อได้รับฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะเวลานานปอดอาจจะทำงานหนักและอาจจะก่อให้เกิดความผิดปกติจนเกิดเป็นมะเร็งเลยก็ว่าได้

   • สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการแท้งการคลอดก่อนกำหนด หรือแม้กระทั่งความเสี่ยงในเรื่องที่ไปกระทบต่อพัฒนาการของเด็กภายในท้องอีกด้วย

ทุกอย่างล้วนเป็นผลกระทบในการใช้ชีวิตทั้งสิ้น ดังนั้นหากเลี่ยงได้ควรเลี่ยง หากป้องกันได้ควรป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตของท่านนั่นเอง

  •  

วิธีลดฝุ่นภายในบ้าน วิธีจัดการ pm 2.5 สะอาดไว้ก่อนห่างไกลโรค

เมื่อรู้จักกับข้อเสียของฝุ่นละอองจิ๋วแล้วเราจะมาแนะนำให้ท่านรู้จักกับ วิธีจัดการ pm 2.5 สะอาดไว้ก่อนรับรองห่างไกลโรคอย่างแน่นอน วิธีการลดฝุ่นภายในบ้านจะมีวิธีไหนบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

   • งดการเผาขยะและการจุดธูปภายในบ้าน โดยการงดเผาขยะและการจุดธูปจะช่วยลดการเกิดฝุ่นและควันและฝุ่นละอองภายในอากาศได้เป็นอย่างดี โดยในเรื่องของการเผาขยะจะแนะนำให้ท่านทำการแยกขยะให้ถูกประเภทและทิ้งให้ถูกประเภทเพื่อที่จะนำไปผ่านกระบวนการหรือนำไปย่อยสลายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

   • พยายามปัดกวาดเช็ดถูอยู่เสมอ อยู่ภายในบ้านเราไม่รู้ว่าแต่ละคนไปเจออะไรมาบ้างไม่ว่าจะฝุ่นหรือควันหรืออาจนำพาเชื้อโรคเข้ามาภายในบ้าน ดังนั้นควรพยายามปัดกวาดเช็ดถูบ้านอยู่เสมอจะทำให้บ้านสะอาดและมีฝุ่นละอองน้อยลง

   • ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้าน ตอนนี้ต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยให้บ้านมีฝุ่นละอองภายในบ้านลดลง ทำให้อากาศภายในบ้านสดชื่นมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำว่าต้นไม้ที่ใช้ปลูกเป็นต้นไม้ฟอกอากาศขนาดเล็กไม่ควรเป็นต้นไม้ใหญ่มากเกินไป และไม่ควรนำไปไว้ในห้องนอน

   • ควรมีเครื่องฟอกอากาศติดตั้งภายในบ้าน การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยให้ลดฝุ่นภายในบ้านได้ดีมากยิ่งขึ้นทำให้อากาศมีความสะอาดและบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในบ้านไม่ต้องปะทะกับฝุ่น PM 2.5 แบบจังๆ

   • หมั่นทำความสะอาดและล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ แอร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เป็นที่สะสมฝุ่นละอองขนาดเล็กเลยก็ว่าได้ เนื่องจากตัวแอร์นั้นจะมีชั้นกรองฝุ่นเพื่อให้เป็นการลดฝุ่นละอองให้น้อยลงและทำให้แอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ควรมีการทำความสะอาดและล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ

วิธีการลดฝุ่นภายในบ้านที่เรามาแนะนำให้กับทุกท่านนั้นสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของท่านได้จริง และบอกเลยว่าช่วยลดฝุ่นภายในบ้านและยังช่วยให้คุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยของท่านดีขึ้นได้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวอีกด้วย

ฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายร่างกายมากกว่าที่เราคิด

ฝุ่น PM 2.5 นั้นเป็นฝุ่นละอองขนาดจิ๋วบอกเลยว่าสามารถทำร้ายร่างกายของเราได้มากกว่าที่เราคิดเสียอีก ดังนั้นเมื่อเราสามารถหลีกเลี่ยงได้และป้องกันตัวเองได้ควรจะมีการหลีกเลี่ยงและเซฟตัวเองไว้จะดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้าน การลดพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองตามขึ้นมาภายหลัง นอกจากจะช่วยเซฟตัวเองยังเป็นการช่วยลด PM 2.5 ได้ดีอีกด้วย หากไม่อยากพบเจอผลกระทบกับชีวิตและร่างกายในระยะยาวดังนั้นเราควรป้องกันไว้ก่อนจะแก้ได้เลย

PM 2.5 ฝุ่นละอองจิ๋วตัวร้ายป้องกันเอาไว้ดีที่สุด

เรื่องของฝุ่นละออง PM 2.5 บอกเลยว่าเป็นปัญหากันทุกปี bezenceramictiles.com เราจึงรวมทุกวิธีการป้องกันจากเจ้าฝุ่นจิ๋วตัวร้ายมาแนะนำให้กับทุกท่าน เพื่อให้ส่งผลกระทบในทางสุขภาพน้อยที่สุด หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการป้องกันฝุ่นละอองจิ๋วตัวร้าย PM 2.5 สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราได้เลย พร้อมแนะนำทุกขั้นตอนในการป้องกันจากฝุ่นละออง เพื่อให้ได้มีสุขภาพชีวิตที่ดีมีกำลังกายกำลังใจที่แข็งแรงพร้อมสู้ต่อในทุกวัน ใครว่าเรื่องฝุ่นละอองเป็นเรื่องที่ไกลตัวบอกเลยนี่คือเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดที่ท่านควรป้องกันและควรหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ หากมีวิธีที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หลีกเลี่ยงไว้จะดีที่สุด ชีวิตของเรามีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นไม่ต้องไปเสี่ยงกับอะไรที่ไม่จำเป็นทั้งสิ้น

 

โครงสร้าง เหล็ก vs คอนกรีต อะไรดีกว่ากัน? (ตอบทุกข้อสงสัย)

โครงสร้าง เหล็ก vs คอนกรีต อะไรดีกว่ากันตอบทุกข้อสงสัย

โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต

การเลือกโครงสร้างแบบเหล็กและแบบคอนกรีตอะไรดีกว่ากัน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำข้อดีและข้อเสียในการเลือกโครงสร้างแต่ละรูปแบบให้กับทุกท่านเพื่อการเปรียบเทียบการใช้งานว่าตรงตามความต้องการที่ท่านเลือกหรือไม่ เพื่อให้ได้โครงสร้างบ้านที่โดนใจและควบคุมงบประมาณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น บอกเลยว่าทั้ง 2 โครงสร้างทั้งแบบเหล็กและแบบคอนกรีตนั้นสามารถนำมาใช้ในการสร้างบ้านหรืออาคารได้ทุกรูปแบบแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป

 

ก่อนวางแผนจะสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านควรเลือกโครงสร้างให้ดี

อยากมั่นใจในการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านควรจะมีการวางแผนในการสร้างบ้านหรือการต่อเติมให้พรุ่งนี้ อีกทางเลือกคุณภาพของวัสดุให้ตรงตามความต้องการกับการใช้งานของเราอีกด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ในการสร้างบ้านเป็นไปตามความต้องการและงบประมาณไม่บานปลายขึ้นไปดังนั้นควรมีการวางแผนการต่อเติมบ้านและการเลือกโครงสร้างให้ดีก่อนทุกครั้ง เพราะในปัจจุบันนั้นวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างบ้านค่อนข้างมีราคาที่เพิ่มขึ้นสูง การวางแผนในการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านนั้นนอกจากจะเป็นการควบคุมงบประมาณเรายังสามารถควบคุมระยะเวลาการทำงานได้ด้วย

การวางแผนสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านในการเลือกโครงสร้างนั้นควรมีการวางแผนในเรื่องใดบ้างวันนี้เราจะมาแนะนำการวางแผนการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านให้กับทุกท่านก่อนการเลือกโครงสร้างแบบเหล็กและแบบคอนกรีต

การวางแผนในเรื่องงบประมาณ

บอกเลยว่านี่คือข้อสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างบ้านหรือการต่อเติมบ้านดังนั้นควรมีการวางแผนในเรื่องงบประมาณของเราให้ดีเพื่อที่ทำให้การสร้างบ้านของท่านนั้นไม่งบประมาณบานปลายมากเกินไปและสามารถควบคุมงบประมาณได้ในระดับที่ดี

การวางแผนในเรื่องระยะเวลา

นอกจากงบประมาณที่เราวางแผนเอาไว้ระยะเวลาก็ต้องอยู่ในแผนการเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าหากระยะเวลาเกินเลยมากเกินไปก็อาจจะทำให้งบประมาณนั้นบานไปตามไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหาการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านนั้นกินเวลาไปนั้นเราอาจจะต้องจ่ายเพิ่มในด้านค่าแรงของคนงานที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต03

การวางแผนในการเลือกวัสดุให้ตอบโจทย์การใช้งาน

หนึ่งในการวางแผนการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านมันก็คือการวางแผนการเลือกวัสดุให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดเพื่อที่จะทำให้การทำงานนั้นเสร็จในรวดเดียวโดยที่ไม่ต้องมาแก้ไขหรือซ่อมแซมเพิ่มเติมอีกหลายรอบ

วางแผนการเลือกโครงสร้างว่าต้องการรูปแบบไหน

การเลือกโครงสร้างก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยและรูปแบบการสร้างบ้านและต่อเติมบ้างการวางแผนการเลือกโครงสร้างนั้นก็จะช่วยเรามีการประมาณการงบประมาณในการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านเพิ่มได้

ข้อดีและข้อเสียการเลือก โครงสร้างเหล็ก vs คอนกรีต

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเลือกโครงสร้างแบบเหล็กและแบบคอนกรีตว่ามีข้อดีข้อเสียและความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ท่านตัดสินใจนำไปใช้ในการสร้างบ้านของท่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต04

โครงสร้างแบบเหล็ก

โครงสร้างแบบเหล็กถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากว่าตัววัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเหล็กนั้นมีทางเลือกให้กับผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงนิยมนำมาใช้เป็นโครงสร้างในการสร้างบ้าน

ข้อดีของการเลือกโครงสร้างบ้านแบบเหล็ก

  • โครงสร้างบ้านแบบเหล็กนั้นใช้เวลาในการทำโครงสร้างน้อยเนื่องจากมีวัสดุอุปกรณ์ที่สำเร็จรูปมาประกอบการทำโครงสร้างจึงสามารถนำมาใช้งานและทำโครงสร้างได้เลยในทันที ไม่ต้องเสียเวลาใช้ส่วนผสมเหมือนกับโครงสร้างแบบคอนกรีต

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นมีความยืดหยุ่นในการออกแบบเป็นอย่างมากเพราะสามารถยึดพับแบบงอได้ตามความต้องการของเรา

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นมีความแข็งแรงทนทานสูงมากและยังสามารถรับน้ำหนักได้เป็นจำนวนมากอีกด้วยหากเปรียบเทียบกับโครงสร้างแบบคอนกรีตโครงสร้างแบบเหล็กนั้นค่อนข้างมีความทนทานสูงกว่าเล็กน้อย

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นสามารถเข้าถึงพื้นที่การสร้างบ้านหรือการต่อเติมบ้านที่มีข้อจำกัดในเรื่องความสูงหรือหนทางในการเข้าถึงพื้นที่

  • โครงสร้างแบบเหล็กทำให้ภายในบ้านนั้นจัดวางองค์ประกอบได้ง่ายมีพื้นที่ในการใช้งานที่สูงมากยิ่งขึ้น

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของช่างไม่ว่าจะเป็นช่างเดินท่อประปาหรือช่างที่ทำไว้เพราะสามารถเดินร้อยท่อได้ง่ายและสามารถบำรุงรักษาได้ง่ายเช่นเดียวกัน

ข้อเสียของการเลือกโครงสร้างบ้านแบบเหล็ก

  • โครงสร้างบ้านแบบเหล็กนั้นค่อนข้างมีต้นทุนในด้านของราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงกว่าในรูปแบบคอนกรีต
  • การทำโครงสร้างในรูปแบบเหล็กต้องใช้ช่างผู้มีความชำนาญการเพื่อให้งานออกมาได้มาตรฐานและสามารถใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ที่ออกแบบไว้เป็นอย่างดี

  • โครงสร้างบ้านแบบเหล็กบางประเภทต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดสนิมหรืออาจเกิดการกัดกร่อนของตัวโครงสร้างได้ ดังนั้นวิธีการป้องกันคือการเลือกเหล็กให้มีความทนทานและมีการเคลือบพื้นผิวของตัวเหล็กก่อนการนำมาทำเป็นโครงสร้าง
โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต01

โครงสร้างแบบคอนกรีต

     โครงสร้างแบบคอนกรีตนั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการเลือกใช้เป็นโครงสร้างในการสร้างบ้านในปัจจุบันเนื่องจากว่าหาซื้อได้ง่ายและมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าโครงสร้างแบบเหล็ก ตามมาดูข้อดีข้อเสียการเลือกโครงสร้างในรูปแบบคอนกรีตกัน

ข้อดีของโครงสร้างบ้านแบบคอนกรีต

  • โครงสร้างบ้านแบบคอนกรีตนั้นสามารถจัดทำเป็นโครงสร้างได้ง่ายและเลือกทั้งผู้มีความชำนาญการได้ง่ายเนื่องจากว่าคงสร้างบ้านแบบคอนกรีตนั้นเป็นที่นิยมในไทยมาอย่างยาวนาน จึงทำให้มีช่างฝีมือนี้ที่สามารถทำงานเกี่ยวกับโครงสร้างในรูปแบบคอนกรีตให้เลือกเยอะ

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นค่อนข้างมีความแข็งแรงทนทานสูงเป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับการเลือกโครงสร้างในรูปแบบเหล็กนั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกันเลยก็ว่าได้

  • การเลือกโครงสร้างในรูปแบบคอนกรีตนั้นสามารถหาส่วนผสมได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นหินกรวดซึ่งมีราคาถูกกว่าโครงสร้างในรูปแบบเหล็ก

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นสามารถดูแลรักษาได้ง่ายไม่ต้องมีการเคลือบพื้นผิวหรือการบำรุงรักษาและไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดสนิมหรือเกิดการกัดกร่อนเหมือนพื้นผิวโครงสร้างแบบเหล็ก

ข้อเสียของโครงสร้างบ้านแบบคอนกรีต

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นค่อนข้างใช้แรงงานและช่างเป็นจำนวนมากเพราะต้องมีทั้งการผสมตัวคอนกรีตอาจทำให้ต้องใช้แรงคนที่เพิ่มขึ้น

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นต้องใช้วัสดุหลายชนิดมาประกอบกันจึงจะทำให้ได้โครงสร้างบ้านแบบคอนกรีต ซึ่งหากวัสดุบางตัวขาดไปก็อาจจะต้องเสียเวลาในการตามหาวัสดุนั้นซึ่งอาจต้องใช้เวลานั้นมากขึ้นไปอีก

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นค่อนข้างทิ้งฝุ่นไว้เป็นจำนวนมากดังนั้นหากเลือกโครงสร้างบ้านแบบคอนกรีตนั้นในครั้งแรกที่จัดทำโครงสร้างต้องมีการทำความสะอาดให้ดี

  • โครงสร้างบ้านรูปแบบคอนกรีตนั้นมีน้ำหนักค่อนข้างสูงจำเป็นต้องใช้เสาเข็มเป็นจำนวนมากซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มต้นทุนในด้านค่าวัสดุและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

โครงสร้าง เหล็ก vs คอนกรีต อะไรดีกว่ากันตอบทุกข้อสงสัย

โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต

     บอกเลยว่านี่คือข้อคำถามและความสงสัยสำหรับผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่หรือคิดจะต่อเติมบ้าน การเลือกโครงสร้างแบบเหล็กและแบบคอนกรีตอะไรดีกว่ากัน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำข้อดีและข้อเสียในการเลือกโครงสร้างแต่ละรูปแบบให้กับทุกท่านเพื่อการเปรียบเทียบการใช้งานว่าตรงตามความต้องการที่ท่านเลือกหรือไม่ เพื่อให้ได้โครงสร้างบ้านที่โดนใจและควบคุมงบประมาณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น บอกเลยว่าทั้ง 2 โครงสร้างทั้งแบบเหล็กและแบบคอนกรีตนั้นสามารถนำมาใช้ในการสร้างบ้านหรืออาคารได้ทุกรูปแบบแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป

 

ก่อนวางแผนจะสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านควรเลือกโครงสร้างให้ดี

อยากมั่นใจในการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านควรจะมีการวางแผนในการสร้างบ้านหรือการต่อเติมให้พรุ่งนี้ อีกทางเลือกคุณภาพของวัสดุให้ตรงตามความต้องการกับการใช้งานของเราอีกด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ในการสร้างบ้านเป็นไปตามความต้องการและงบประมาณไม่บานปลายขึ้นไปดังนั้นควรมีการวางแผนการต่อเติมบ้านและการเลือกโครงสร้างให้ดีก่อนทุกครั้ง เพราะในปัจจุบันนั้นวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างบ้านค่อนข้างมีราคาที่เพิ่มขึ้นสูง การวางแผนในการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านนั้นนอกจากจะเป็นการควบคุมงบประมาณเรายังสามารถควบคุมระยะเวลาการทำงานได้ด้วย

การวางแผนสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านในการเลือกโครงสร้างนั้นควรมีการวางแผนในเรื่องใดบ้างวันนี้เราจะมาแนะนำการวางแผนการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านให้กับทุกท่านก่อนการเลือกโครงสร้างแบบเหล็กและแบบคอนกรีต

 

การวางแผนในเรื่องงบประมาณ

บอกเลยว่านี่คือข้อสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างบ้านหรือการต่อเติมบ้านดังนั้นควรมีการวางแผนในเรื่องงบประมาณของเราให้ดีเพื่อที่ทำให้การสร้างบ้านของท่านนั้นไม่งบประมาณบานปลายมากเกินไปและสามารถควบคุมงบประมาณได้ในระดับที่ดี

การวางแผนในเรื่องระยะเวลา

นอกจากงบประมาณที่เราวางแผนเอาไว้ระยะเวลาก็ต้องอยู่ในแผนการเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าหากระยะเวลาเกินเลยมากเกินไปก็อาจจะทำให้งบประมาณนั้นบานไปตามไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหาการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านนั้นกินเวลาไปนั้นเราอาจจะต้องจ่ายเพิ่มในด้านค่าแรงของคนงานที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต03

การวางแผนในการเลือกวัสดุให้ตอบโจทย์การใช้งาน

หนึ่งในการวางแผนการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านมันก็คือการวางแผนการเลือกวัสดุให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดเพื่อที่จะทำให้การทำงานนั้นเสร็จในรวดเดียวโดยที่ไม่ต้องมาแก้ไขหรือซ่อมแซมเพิ่มเติมอีกหลายรอบ

วางแผนการเลือกโครงสร้างว่าต้องการรูปแบบไหน

การเลือกโครงสร้างก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยและรูปแบบการสร้างบ้านและต่อเติมบ้างการวางแผนการเลือกโครงสร้างนั้นก็จะช่วยเรามีการประมาณการงบประมาณในการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านเพิ่มได้

ข้อดีและข้อเสียการเลือก โครงสร้างเหล็ก vs คอนกรีต

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเลือกโครงสร้างแบบเหล็กและแบบคอนกรีตว่ามีข้อดีข้อเสียและความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ท่านตัดสินใจนำไปใช้ในการสร้างบ้านของท่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต04

โครงสร้างแบบเหล็ก

โครงสร้างแบบเหล็กถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากว่าตัววัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเหล็กนั้นมีทางเลือกให้กับผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงนิยมนำมาใช้เป็นโครงสร้างในการสร้างบ้าน

ข้อดีของการเลือกโครงสร้างบ้านแบบเหล็ก

  • โครงสร้างบ้านแบบเหล็กนั้นใช้เวลาในการทำโครงสร้างน้อยเนื่องจากมีวัสดุอุปกรณ์ที่สำเร็จรูปมาประกอบการทำโครงสร้างจึงสามารถนำมาใช้งานและทำโครงสร้างได้เลยในทันที ไม่ต้องเสียเวลาใช้ส่วนผสมเหมือนกับโครงสร้างแบบคอนกรีต

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นมีความยืดหยุ่นในการออกแบบเป็นอย่างมากเพราะสามารถยึดพับแบบงอได้ตามความต้องการของเรา

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นมีความแข็งแรงทนทานสูงมากและยังสามารถรับน้ำหนักได้เป็นจำนวนมากอีกด้วยหากเปรียบเทียบกับโครงสร้างแบบคอนกรีตโครงสร้างแบบเหล็กนั้นค่อนข้างมีความทนทานสูงกว่าเล็กน้อย

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นสามารถเข้าถึงพื้นที่การสร้างบ้านหรือการต่อเติมบ้านที่มีข้อจำกัดในเรื่องความสูงหรือหนทางในการเข้าถึงพื้นที่

  • โครงสร้างแบบเหล็กทำให้ภายในบ้านนั้นจัดวางองค์ประกอบได้ง่ายมีพื้นที่ในการใช้งานที่สูงมากยิ่งขึ้น

  • โครงสร้างแบบเหล็กนั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของช่างไม่ว่าจะเป็นช่างเดินท่อประปาหรือช่างที่ทำไว้เพราะสามารถเดินร้อยท่อได้ง่ายและสามารถบำรุงรักษาได้ง่ายเช่นเดียวกัน

ข้อเสียของการเลือกโครงสร้างบ้านแบบเหล็ก

  • โครงสร้างบ้านแบบเหล็กนั้นค่อนข้างมีต้นทุนในด้านของราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงกว่าในรูปแบบคอนกรีต
  • การทำโครงสร้างในรูปแบบเหล็กต้องใช้ช่างผู้มีความชำนาญการเพื่อให้งานออกมาได้มาตรฐานและสามารถใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ที่ออกแบบไว้เป็นอย่างดี

  • โครงสร้างบ้านแบบเหล็กบางประเภทต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดสนิมหรืออาจเกิดการกัดกร่อนของตัวโครงสร้างได้ ดังนั้นวิธีการป้องกันคือการเลือกเหล็กให้มีความทนทานและมีการเคลือบพื้นผิวของตัวเหล็กก่อนการนำมาทำเป็นโครงสร้าง
โครงสร้างเหล็กโครงสร้างคอนกรีต01

โครงสร้างแบบคอนกรีต

     โครงสร้างแบบคอนกรีตนั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการเลือกใช้เป็นโครงสร้างในการสร้างบ้านในปัจจุบันเนื่องจากว่าหาซื้อได้ง่ายและมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าโครงสร้างแบบเหล็ก ตามมาดูข้อดีข้อเสียการเลือกโครงสร้างในรูปแบบคอนกรีตกัน

ข้อดีของโครงสร้างบ้านแบบคอนกรีต

  • โครงสร้างบ้านแบบคอนกรีตนั้นสามารถจัดทำเป็นโครงสร้างได้ง่ายและเลือกทั้งผู้มีความชำนาญการได้ง่ายเนื่องจากว่าคงสร้างบ้านแบบคอนกรีตนั้นเป็นที่นิยมในไทยมาอย่างยาวนาน จึงทำให้มีช่างฝีมือนี้ที่สามารถทำงานเกี่ยวกับโครงสร้างในรูปแบบคอนกรีตให้เลือกเยอะ

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นค่อนข้างมีความแข็งแรงทนทานสูงเป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับการเลือกโครงสร้างในรูปแบบเหล็กนั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกันเลยก็ว่าได้

  • การเลือกโครงสร้างในรูปแบบคอนกรีตนั้นสามารถหาส่วนผสมได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นหินกรวดซึ่งมีราคาถูกกว่าโครงสร้างในรูปแบบเหล็ก

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นสามารถดูแลรักษาได้ง่ายไม่ต้องมีการเคลือบพื้นผิวหรือการบำรุงรักษาและไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดสนิมหรือเกิดการกัดกร่อนเหมือนพื้นผิวโครงสร้างแบบเหล็ก

ข้อเสียของโครงสร้างบ้านแบบคอนกรีต

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นค่อนข้างใช้แรงงานและช่างเป็นจำนวนมากเพราะต้องมีทั้งการผสมตัวคอนกรีตอาจทำให้ต้องใช้แรงคนที่เพิ่มขึ้น

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นต้องใช้วัสดุหลายชนิดมาประกอบกันจึงจะทำให้ได้โครงสร้างบ้านแบบคอนกรีต ซึ่งหากวัสดุบางตัวขาดไปก็อาจจะต้องเสียเวลาในการตามหาวัสดุนั้นซึ่งอาจต้องใช้เวลานั้นมากขึ้นไปอีก

  • โครงสร้างบ้านในรูปแบบคอนกรีตนั้นค่อนข้างทิ้งฝุ่นไว้เป็นจำนวนมากดังนั้นหากเลือกโครงสร้างบ้านแบบคอนกรีตนั้นในครั้งแรกที่จัดทำโครงสร้างต้องมีการทำความสะอาดให้ดี

  • โครงสร้างบ้านรูปแบบคอนกรีตนั้นมีน้ำหนักค่อนข้างสูงจำเป็นต้องใช้เสาเข็มเป็นจำนวนมากซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มต้นทุนในด้านค่าวัสดุและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

8 เรื่องฮวงจุ้ยกับพื้นที่หน้าบ้าน (เสริมพลังบวก อยู่แล้วมีความสุข)

8 เรื่องฮวงจุ้ยกับพื้นที่หน้าบ้าน (เสริมพลังบวก อยู่แล้วมีความสุข)

การสร้างบ้านนอกจากจะตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานความสะดวกสบายต่อผู้อยู่อาศัยและสื่อถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในแต่ละบ้านนั้น การจัดบ้านให้ถูกหลัก ฮวงจุ้ย ก็เป็นการส่งเสริมให้กับผู้ที่อยู่อาศัยเป็นการเพิ่มพลังงานในบ้านให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้นและช่วยส่งเสริมไม่ว่าจะเป็นด้านโชคลาภ ความก้าวหน้า บารมี เงินทอง และการประสบความสำเร็จในชีวิต หากถามว่าการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านนั้นดีอย่างไรข้อหลักคือเป็นการปรับสภาพแวดล้อมให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้รับแต่สิ่งที่ดี

ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน

ฮวงจุ้ย คืออะไรทำไมต้องมีการจัดฮวงจุ้ยให้ถูกตามหลัก

ฮวงจุ้ยคืออะไรทำไมต้องมีการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านให้ถูกตามหลัก การจัดฮวงจุ้ยนั้นก็คือการจัดสภาพแวดล้อมให้มีการสอดคล้องกับผู้อยู่อาศัย เป็นหนึ่งในศาสตร์ที่ผสมผสานทั้งวิทยาศาสตร์และธรรมชาติในเวลาเดียวกันการจัดหลักฮวงจุ้ยนะตอนนั้นสิ่งรอบตัวมาผสมผสานกันและจัดให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยนั่นเอง ซึ่งจะดูในข้อหลักคือการไหลเวียนของอากาศน้ำและทิศทางของลมและพระอาทิตย์นั่นเอง โดยเชื่อว่าการจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบนี้จะช่วยเสริมพลังและบารมีและมีพลังงานที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในทุกด้านนั่นเอง

การปรับ ฮวงจุ้ย หน้าบ้านให้ถูกตามหลักเรียกทรัพย์แน่นอน

แนะนำวิธีจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านเรียกทรัพย์ได้เป็นอย่างดีและเป็นสิริมงคลต่อผู้อยู่อาศัย อยากให้เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสายบอกเลยว่าจัดฮวงจุ้ยตามวิธีที่เราแนะนำมานี้ได้ผลดีแน่นอน จะมีหลักการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านอย่างไรให้เรียกทรัพย์และเป็นสิริมงคลสำหรับผู้อยู่อาศัยตามไปดูกับเราได้เลยในตอนนี้

บริเวณหน้าบ้านจากรั้วถึงประตูควรมีพื้นที่หน้าบ้านที่โล่งกว้าง

 

ในบริเวณหน้าบ้านเริ่มจากรั้วไปจนถึงประตูบ้านควรมีพื้นที่โล่งกว้างไม่มีสิ่งใดมากีดขวางเพราะจะช่วยเรียกทรัพย์จากภายนอกให้ได้เป็นอย่างนี้ โดยเชื่อกันว่าหากมีพื้นที่หน้าบ้านที่โล่งและกว้างจะเป็นพื้นที่ที่รวมตัวของทรัพย์สินก่อนการไหลเข้าบ้านนั้นเอง

ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน03

บริเวณ ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน นั้นควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงส่องสว่างได้ตลอดเวลา

สำหรับหน้าบ้านที่ดีที่มีฮวงจุ้ยที่ถูกต้องตามหลักขณะนั้นตอนในช่วงกลางวันควรได้รับแสงส่องตลอดเวลา เพราะแสงสว่างเรียกได้ว่าเป็นพลังอย่างที่จะชักจูงนำพลังงานที่ดีมาส่งเสริมความสำเร็จให้ผู้อยู่อาศัย และที่สำคัญแสงสว่างเย็นเป็นพลังที่มีความมงคลเป็นอย่างมากไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูง

บริเวณหน้าบ้านควรมีอ่างน้ำพุเล็กๆ หรือจะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กไว้ด้วยก็ดี

การที่บริเวณหน้าบ้านนั้นมีอ่างน้ำพุหรือบ่อน้ำขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นกันหมุนเวียนการเคลื่อนไหวและยังนำพาโชคลาภเงินทองมาให้ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย โดยน้ำจะสื่อถึงความร่มเย็นและความรู้สึกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดีดังนั้นการมีบ่อน้ำพุหรือบ่อน้ำขนาดเล็กไว้หน้าบ้านจะยิงเป็นตัวช่วยเรียกทรัพย์โชคลาภเงินทองมาให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างมหาศาล

ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน01

บริเวณหน้าบ้านควรมีความร่มรื่นและความสะอาด

การจัดฮวงจุ้ยในบริเวณหน้าบ้านนอกจากจะคำนึงตามหลักการจัดฮวงจุ้ยแล้วนั้นบริเวณหน้าบ้านควรจะมีความร่มรื่นและมีความสะอาด เพราะจะช่วยดึงดูดพลังงานดีเข้าสู่บ้านได้ แนะนำว่าไม่ให้มีขยะตรงหน้าบ้านพร้อมเมื่อมีขยะตรงหน้าบ้านจะส่งกลิ่นเหม็นและเรียกได้ว่าเป็นพลังงานที่ไม่ดีทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องเสียสุขภาพไปในเวลาเดียวกัน

ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน02

บริเวณหน้าบ้านควรมีการปลูกต้นไม้ที่เขียวชอุ่มและมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี

บริเวณหน้าบ้านที่มีการปลูกต้นไม้นั้นควรมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีให้ต้นไม้มีความเขียวชอุ่มตลอดทั้งปีทำให้ต้นไม้ตายและแห้งเฉา เพราะบ้านที่มีต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาและแห้งตายในบ้านนั้นถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดีและถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่เป็นมงคลเป็นอย่างมาก

ประตูบริเวณหน้าบ้านไม่ควรโปร่งโล่งเกินไป

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วประตูบริเวณหน้าบ้านควรมีความทึบประมาณ 50 ถึง 70% ไม่ควรเป็นประตูทิพย์โป่งมากเกินไปนอกจากประตูที่มีความทุกข์นั้นจะช่วยกักเก็บพลังงานที่เป็นมงคลกับพลังงานที่ดีแล้วยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ประตู ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน จะต้องเป็นประตูเปิดเข้าไม่ใช่ประตูเปิดออก

การเลือกประตูหน้าบ้านนั้นต้องเป็นประตูเปิดเข้าภายในบ้านไม่ใช่ประตูเปิดออกเพราะเชื่อกันว่าหากเลือกเป็นประตูที่เปิดออกจะเป็นการผลักพลังงานที่ดีออกจากในบ้าน

พื้นหน้าบ้านไม่ควรต่ำกว่าระดับถนน

ระดับพื้นหน้าบ้านแนะนำเลยว่าห้ามต่ำกว่าระดับถนนเพราะอาจจะทำให้พลังงานที่ไม่ดีไหลเข้าสู่บ้านได้ง่าย แล้วที่สำคัญยังส่งผลในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพการเงินหรือด้านการทำงานอีกด้วย

ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำให้กับทุกท่านนี้คือการจัดพื้นที่บริเวณหน้าบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยเพื่อให้เรียกทรัพย์ได้และที่สำคัญยังส่งเสริมความเป็นมงคลให้กับผู้อยู่อาศัย ให้มีความประสบความสำเร็จทางด้านการงานการเงินโชคลาภและด้านอื่นที่ต้องการได้อีกด้วย เพราะหากบ้านที่เราอยู่อาศัยนั้นมีพลังงานที่ดีก็จะส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยนั้นประสบความสำเร็จได้ในทุกด้าน

จัดฮวงจุ้ยให้รับทรัพย์ ส่งเสริมความสำเร็จตลอดปี

จัดฮวงจุ้ยให้รับทรัพย์ได้ตลอดปีและตลอดไปวันนี้เรามาแนะนำข้อสำคัญในการจัดฮวงจุ้ยเป็นหลักการในการจัดฮวงจุ้ยที่ควรรู้เอาไว้ เพราะแต่ละบ้านมีภูมิศาสตร์ในการก่อสร้างและการอยู่อาศัยที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นการจัดฮวงจุ้ยนั้นก็จะมีการจัดที่แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกันดังนั้นหากอยากรับทรัพย์ตลอดทั้งปีควรจัดฮวงจุ้ยตามหลักการดังต่อไปนี้

 

  1. การจัดฮวงจุ้ยตามลักษณะภูมิศาสตร์ การจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบนี้พูดที่อยู่อาศัยจะต้องคำนึงถึงทิศทางลมแสงแดดและภูมิศาสตร์โดยรวมของตัวบ้าน แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดฮวงจุ้ยของบ้านที่เราต้องการอยู่อาศัยในแต่ละพื้นที่ได้
  2. การจัดฮวงจุ้ยตามลักษณะการใช้งาน แต่ละบ้านก็จะมีการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นการจัดฮวงจุ้ยก็สามารถทำได้ตามลักษณะฟังก์ชันการใช้งานเพียงแค่เลือกทำเลที่ตั้งให้สอดคล้องกับลักษณะตามภูมิศาสตร์เพียงเท่านั้นเอง
  3. การจัดฮวงจุ้ยตามวิถีชีวิต หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าปัจจุบันแต่ละสังคมแต่ละชุมชนจะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นศาสตร์และศิลป์ในการจัดฮวงจุ้ยนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปอีกด้วย แต่ที่สำคัญที่ควรคำนึงถึงมันก็คือการรับพลังงานล้มผิดทางของฮวงจุ้ยเช่นเดียวกับการจัดฮวงจุ้ยตามลักษณะการใช้งาน

 

อยากรับทรัพย์ตลอดปีเพียงแค่จัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านก็ช่วยส่งเสริมความสำเร็จให้ท่านได้ตลอดปีและตลอดไป การจัดฮวงจุ้ยถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่นำเอาทางวิทยาศาสตร์และธรรมชาติมาผสมผสานกัน ในทุกหลักการของการจัดฮวงจุ้ยนั้นย่อมมีข้อดีแอบแฝงไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพสำหรับผู้อยู่อาศัยการใช้งานที่สะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย ดังนั้นหากอยากรับทรัพย์ตลอดปีมาเริ่มจัดฮวงจุ้ยได้เลยตั้งแต่วันนี้พร้อมส่งเสริมความสำเร็จให้ท่านได้อย่างดีแน่นอน

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

8 เรื่องฮวงจุ้ยกับพื้นที่หน้าบ้าน (เสริมพลังบวก อยู่แล้วมีความสุข)

การสร้างบ้านนอกจากจะตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานความสะดวกสบายต่อผู้อยู่อาศัยและสื่อถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในแต่ละบ้านนั้น การจัดบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ยก็เป็นการส่งเสริมให้กับผู้ที่อยู่อาศัยเป็นการเพิ่มพลังงานในบ้านให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้นและช่วยส่งเสริมไม่ว่าจะเป็นด้านโชคลาภ ความก้าวหน้า บารมี เงินทอง และการประสบความสำเร็จในชีวิต หากถามว่าการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านนั้นดีอย่างไรข้อหลักคือเป็นการปรับสภาพแวดล้อมให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้รับแต่สิ่งที่ดี

ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน

ฮวงจุ้ยคืออะไรทำไมต้องมีการจัดฮวงจุ้ยให้ถูกตามหลัก

ฮวงจุ้ยคืออะไรทำไมต้องมีการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านให้ถูกตามหลัก การจัดฮวงจุ้ยนั้นก็คือการจัดสภาพแวดล้อมให้มีการสอดคล้องกับผู้อยู่อาศัย เป็นหนึ่งในศาสตร์ที่ผสมผสานทั้งวิทยาศาสตร์และธรรมชาติในเวลาเดียวกันการจัดหลักฮวงจุ้ยนะตอนนั้นสิ่งรอบตัวมาผสมผสานกันและจัดให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยนั่นเอง ซึ่งจะดูในข้อหลักคือการไหลเวียนของอากาศน้ำและทิศทางของลมและพระอาทิตย์นั่นเอง โดยเชื่อว่าการจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบนี้จะช่วยเสริมพลังและบารมีและมีพลังงานที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในทุกด้านนั่นเอง

การปรับฮวงจุ้ยหน้าบ้านให้ถูกตามหลักเรียกทรัพย์แน่นอน

แนะนำวิธีจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านเรียกทรัพย์ได้เป็นอย่างดีและเป็นสิริมงคลต่อผู้อยู่อาศัย อยากให้เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสายบอกเลยว่าจัดฮวงจุ้ยตามวิธีที่เราแนะนำมานี้ได้ผลดีแน่นอน จะมีหลักการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านอย่างไรให้เรียกทรัพย์และเป็นสิริมงคลสำหรับผู้อยู่อาศัยตามไปดูกับเราได้เลยในตอนนี้

บริเวณหน้าบ้านจากรั้วถึงประตูควรมีพื้นที่หน้าบ้านที่โล่งกว้าง

ในบริเวณหน้าบ้านเริ่มจากรั้วไปจนถึงประตูบ้านควรมีพื้นที่โล่งกว้างไม่มีสิ่งใดมากีดขวางเพราะจะช่วยเรียกทรัพย์จากภายนอกให้ได้เป็นอย่างนี้ โดยเชื่อกันว่าหากมีพื้นที่หน้าบ้านที่โล่งและกว้างจะเป็นพื้นที่ที่รวมตัวของทรัพย์สินก่อนการไหลเข้าบ้านนั้นเอง

ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน03

บริเวณ ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน นั้นควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงส่องสว่างได้ตลอดเวลา

สำหรับหน้าบ้านที่ดีที่มีฮวงจุ้ยที่ถูกต้องตามหลักขณะนั้นตอนในช่วงกลางวันควรได้รับแสงส่องตลอดเวลา เพราะแสงสว่างเรียกได้ว่าเป็นพลังอย่างที่จะชักจูงนำพลังงานที่ดีมาส่งเสริมความสำเร็จให้ผู้อยู่อาศัย และที่สำคัญแสงสว่างเย็นเป็นพลังที่มีความมงคลเป็นอย่างมากไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูง

บริเวณหน้าบ้านควรมีอ่างน้ำพุเล็กๆ หรือจะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กไว้ด้วยก็ดี

การที่บริเวณหน้าบ้านนั้นมีอ่างน้ำพุหรือบ่อน้ำขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นกันหมุนเวียนการเคลื่อนไหวและยังนำพาโชคลาภเงินทองมาให้ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย โดยน้ำจะสื่อถึงความร่มเย็นและความรู้สึกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดีดังนั้นการมีบ่อน้ำพุหรือบ่อน้ำขนาดเล็กไว้หน้าบ้านจะยิงเป็นตัวช่วยเรียกทรัพย์โชคลาภเงินทองมาให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างมหาศาล

ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน01

บริเวณหน้าบ้านควรมีความร่มรื่นและความสะอาด

การจัดฮวงจุ้ยในบริเวณหน้าบ้านนอกจากจะคำนึงตามหลักการจัดฮวงจุ้ยแล้วนั้นบริเวณหน้าบ้านควรจะมีความร่มรื่นและมีความสะอาด เพราะจะช่วยดึงดูดพลังงานดีเข้าสู่บ้านได้ แนะนำว่าไม่ให้มีขยะตรงหน้าบ้านพร้อมเมื่อมีขยะตรงหน้าบ้านจะส่งกลิ่นเหม็นและเรียกได้ว่าเป็นพลังงานที่ไม่ดีทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องเสียสุขภาพไปในเวลาเดียวกัน

ฮวงจุ้ย หน้าบ้าน02

บริเวณหน้าบ้านควรมีการปลูกต้นไม้ที่เขียวชอุ่มและมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี

บริเวณหน้าบ้านที่มีการปลูกต้นไม้นั้นควรมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีให้ต้นไม้มีความเขียวชอุ่มตลอดทั้งปีทำให้ต้นไม้ตายและแห้งเฉา เพราะบ้านที่มีต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาและแห้งตายในบ้านนั้นถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดีและถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่เป็นมงคลเป็นอย่างมาก

ประตูบริเวณหน้าบ้านไม่ควรโปร่งโล่งเกินไป

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วประตูบริเวณหน้าบ้านควรมีความทึบประมาณ 50 ถึง 70% ไม่ควรเป็นประตูทิพย์โป่งมากเกินไปนอกจากประตูที่มีความทุกข์นั้นจะช่วยกักเก็บพลังงานที่เป็นมงคลกับพลังงานที่ดีแล้วยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ประตู ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน จะต้องเป็นประตูเปิดเข้าไม่ใช่ประตูเปิดออก

การเลือกประตูหน้าบ้านนั้นต้องเป็นประตูเปิดเข้าภายในบ้านไม่ใช่ประตูเปิดออกเพราะเชื่อกันว่าหากเลือกเป็นประตูที่เปิดออกจะเป็นการผลักพลังงานที่ดีออกจากในบ้าน

พื้นหน้าบ้านไม่ควรต่ำกว่าระดับถนน

ระดับพื้นหน้าบ้านแนะนำเลยว่าห้ามต่ำกว่าระดับถนนเพราะอาจจะทำให้พลังงานที่ไม่ดีไหลเข้าสู่บ้านได้ง่าย แล้วที่สำคัญยังส่งผลในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพการเงินหรือด้านการทำงานอีกด้วย

     ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำให้กับทุกท่านนี้คือการจัดพื้นที่บริเวณหน้าบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยเพื่อให้เรียกทรัพย์ได้และที่สำคัญยังส่งเสริมความเป็นมงคลให้กับผู้อยู่อาศัย ให้มีความประสบความสำเร็จทางด้านการงานการเงินโชคลาภและด้านอื่นที่ต้องการได้อีกด้วย เพราะหากบ้านที่เราอยู่อาศัยนั้นมีพลังงานที่ดีก็จะส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยนั้นประสบความสำเร็จได้ในทุกด้าน

จัดฮวงจุ้ยให้รับทรัพย์ ส่งเสริมความสำเร็จตลอดปี

     จัดฮวงจุ้ยให้รับทรัพย์ได้ตลอดปีและตลอดไปวันนี้เรามาแนะนำข้อสำคัญในการจัดฮวงจุ้ยเป็นหลักการในการจัดฮวงจุ้ยที่ควรรู้เอาไว้ เพราะแต่ละบ้านมีภูมิศาสตร์ในการก่อสร้างและการอยู่อาศัยที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นการจัดฮวงจุ้ยนั้นก็จะมีการจัดที่แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกันดังนั้นหากอยากรับทรัพย์ตลอดทั้งปีควรจัดฮวงจุ้ยตามหลักการดังต่อไปนี้

     1. การจัดฮวงจุ้ยตามลักษณะภูมิศาสตร์ การจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบนี้พูดที่อยู่อาศัยจะต้องคำนึงถึงทิศทางลมแสงแดดและภูมิศาสตร์โดยรวมของตัวบ้าน แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดฮวงจุ้ยของบ้านที่เราต้องการอยู่อาศัยในแต่ละพื้นที่ได้

     2.การจัดฮวงจุ้ยตามลักษณะการใช้งาน แต่ละบ้านก็จะมีการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นการจัดฮวงจุ้ยก็สามารถทำได้ตามลักษณะฟังก์ชันการใช้งานเพียงแค่เลือกทำเลที่ตั้งให้สอดคล้องกับลักษณะตามภูมิศาสตร์เพียงเท่านั้นเอง

     3.การจัดฮวงจุ้ยตามวิถีชีวิต หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าปัจจุบันแต่ละสังคมแต่ละชุมชนจะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นศาสตร์และศิลป์ในการจัดฮวงจุ้ยนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปอีกด้วย แต่ที่สำคัญที่ควรคำนึงถึงมันก็คือการรับพลังงานล้มผิดทางของฮวงจุ้ยเช่นเดียวกับการจัดฮวงจุ้ยตามลักษณะการใช้งาน

     อยากรับทรัพย์ตลอดปีเพียงแค่จัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านก็ช่วยส่งเสริมความสำเร็จให้ท่านได้ตลอดปีและตลอดไป การจัดฮวงจุ้ยถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่นำเอาทางวิทยาศาสตร์และธรรมชาติมาผสมผสานกัน ในทุกหลักการของการจัดฮวงจุ้ยนั้นย่อมมีข้อดีแอบแฝงไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพสำหรับผู้อยู่อาศัยการใช้งานที่สะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย ดังนั้นหากอยากรับทรัพย์ตลอดปีมาเริ่มจัดฮวงจุ้ยได้เลยตั้งแต่วันนี้พร้อมส่งเสริมความสำเร็จให้ท่านได้อย่างดีแน่นอน

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

กฎหมายการร่นระยะ ที่ทุกคนควรทำความเข้าใจก่อนการสร้างบ้าน

กฎหมายการร่นระยะ ที่ทุกคนควรทำความเข้าใจก่อนการสร้างบ้าน

กฎหมายการร่นระยะ01

การสร้างบ้านอาคารหรือแม้แต่การต่อเติมบ้านนั้นก็ต้องมีกฎหมายที่เป็นข้อบังคับใช้เพื่อให้มีการปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำกฎหมายการร่นระยะที่ทุกคนควรรู้ควรทำความเข้าใจก่อนการสร้างบ้าน การสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะช่วยให้เราไม่มีปัญหาที่ยืดยาวในการสร้างบ้านไม่ว่าจะเป็นปัญหากับเพื่อนบ้านหรือการลดค่าใช้จ่ายที่ต้องรื้อถอนหากทำผิดกฎอีกด้วย แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่ากฎหมายหลายคนคงมีความรู้สึกว่ายากเกินที่จะเข้าใจวันนี้เราจึงนำมาสรุปไว้ให้เข้าใจง่ายกับทุกท่าน


กฎหมายการร่นระยะคืออะไร กฎหมายการร่นระยะคือข้อบังคับที่เกี่ยวกับการก่อสร้างบ้านหรือการต่อเติมบ้านโดยมีการประกาศใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 โดยต้องยึดถือและปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมีกฎและบทลงโทษสำหรับผู้ที่สร้างบ้านนั้นเอง ดังนั้นหากท่านกำลังจะมีการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านควรมีการศึกษากฎหมายให้ดีและที่สำคัญคือควรดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

สร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายมีอะไรบ้าง? รายละเอียดมากมายที่ควรรู้

การสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นมีรายละเอียดมากมายที่หลายท่านนั้นควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเรื่องระยะอาคารการเว้นที่ว่างและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ในบทความนี้เราจะพูดถึงการร่นระยะให้ถูกต้องตามกฎหมายคือการวัดระยะห่างจากตำแหน่งบนทางที่เป็นสาธารณะจนมาถึงเขตก่อสร้างหรือแนวอาคารของเรา โดยการร่นระยะนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามประเภทอาคารการก่อสร้างที่เราต้องการนั่นเอง

กฎหมายที่เกี่ยวกับการร่นระยะเมื่อสร้างบ้าน

กฎหมายการร่นระยะเมื่อทางบ้านเราสรุปมาให้ดังนี้ รับประกันว่าเข้าใจได้ง่ายพร้อมนำไปปรับแผนการสร้างบ้านของท่านได้เลยในทันที อย่าลืมว่ากฎหมายนี้คือข้อบังคับที่ต้องนำไปใช้ดังนั้นต้องทำให้ถูกต้องถูกหลักจะได้สร้างบ้านได้อย่างสบายใจและไม่ต้องเสี่ยงในเรื่องของการโดนบทลงโทษต่างๆ

กฎหมายการร่นระยะ02

การร่นระยะ กฎหมาย ระยะ ร่น ของแนวเขตที่ดินคนอื่น

หากพูดถึง กฎหมาย ระยะ ร่น บอกเลยว่าการเลื่อนระยะของแนวเขตที่ดินคนอื่นนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบที่ได้ใช้บ่อยเป็นอย่างมากเพราะมีการก่อสร้างบ้านเรือนอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายการร่นระยะจากบ้านและแนวเขตที่ดินของคนอื่นอีกด้วยโดยกฎหมายนี้จะมีอย่างไรตามไปดูกันเลย

 

  1. การก่อสร้างบ้านที่สูงไม่เกิน 9 เมตรต้องมีการร่นระยะจากแนวเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตรขึ้นไปและควรมีช่องเปิดระบายอากาศเป็นช่องลมรับแสงหรือหน้าต่าง
  2. การก่อสร้างบ้านที่สูง 9 เมตรขึ้นไปแต่ไม่เกิน 23 เมตร การช่างในรูปแบบนี้ต้องมีการร่นระยะจากเขตที่ดินอย่างน้อย 3 เมตรและควรมีช่องเปิดรับลมเป็นช่องรับแสงหรือหน้าต่างเช่นเดียวกัน
  3. การก่อสร้างบ้านที่สูงไม่เกิน 15 เมตรการสร้างบ้านในรูปแบบนี้ต้องมีการลดระยะจากเขตที่ดินอย่างน้อย 0.5 เมตรและที่สำคัญจะต้องได้รับการยินยอมจะเพื่อนบ้านเป็นลายลักษณ์อักษรอีกด้วย
  4. การก่อสร้างบ้านที่สูง 15 เมตรแต่ไม่เกิน 23 เมตรการสร้างบ้านในรูปแบบนี้ต้องลดระยะจากเขตที่ดิน 0.5 เมตรในทุกกรณี
กฎหมายการร่นระยะ03

การร่นระยะจากแหล่งน้ำ

นอกจากการร่นระยะในเขตแนวที่ดินคนอื่นกฎหมายยังมีการบังคับใช้การเริ่มย้ายจากแหล่งน้ำอีกด้วยโดยการร่นระยะจากแหล่งน้ำแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันออกไปวันนี้เราจึงมีมาแนะนำให้

  1. การร่นระยะจากแหล่งน้ำที่มีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร จะต้องมีการร่นระยะอย่างน้อย 3 เมตรจากแนวเขตที่ดิน
  2. การร่นระยะจากแหล่งน้ำที่มีความกว้างมากกว่า 10 เมตร จะต้องมีการร่นระยะอย่างน้อย 6 เมตรขึ้นไปจากแนวเขตที่ดิน

การร่นระยะจากทะเลสาบหรือบึงขนาดใหญ่ จะต้องมีการเริ่มระยะจากแนวเขตที่ดินมากกว่า 12 เมตร

กฎหมายการร่นระยะ04

การร่นระยะ กฎหมาย ระยะ ร่น บ้าน จากถนนสาธารณะ

การสร้างบ้านและ กฎหมาย ระยะ ร่น บ้าน จากพื้นที่สาธารณะก็บอกเลยว่าต้องได้ใช้บ่อยและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นอย่างมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่สร้างบ้านนั้นก็ต้องการความสะดวกสบายในการสัญจรไปมาดังนั้นการสร้างบ้านใกล้กับถนนสาธารณะจึงได้รับความนิยมสูง ดังนั้นก่อนการก่อสร้างบ้านไกลถนนสาธารณะก็มีข้อควรรู้ดังนี้

 

  1. หากถนนมีความกว้างน้อยกว่า 6 เมตร ตัวบ้านต้องร่นระยะจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 3 เมตร
  2. หากถนนมีความกว้างมากกว่า 10 เมตร ตัวบ้านต้องร่นระยะจากแนวกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 6 เมตร
  3. หากถนนมีความกว้าง 10 เมตรถึง 20 เมตร ตัวบ้านต้องร่นระยะจากแนวกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 1 ใน 10 ของความกว้างถนน
  4. หากถนนกว้างมากกว่า 20 เมตรขึ้นไป ตัวบ้านต้องร่นระยะจากแนวเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร

 

ทั้งหมดนี้คือกฎหมายการร่นระยะที่เป็นข้อควรรู้ก่อนการสร้างบ้านดังนั้นก่อนการสร้างบ้านทุกครั้งหากท่านยังไม่มั่นใจสามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้านแบบมืออาชีพได้เลย เพื่อการสร้างบ้านที่ถูกต้องตามกฎหมายและสบายใจในการก่อสร้างอีกด้วย

รอบรู้เรื่องกฎหมายเพื่อการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านที่สบายใจ

รอบรู้เรื่องกฎหมายเพื่อการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านที่สบายใจ หากถามว่าทำไมจึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการร่นระยะในการสร้างบ้านมีข้อดีในด้านไหนวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับข้อดีของการบังคับใช้กฎหมายการร่นระยะกัน

 

  • เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเมื่อเกิดอัคคีภัยจะสามารถเข้าช่วยเหลือได้ในทันทีและที่สำคัญคืออยากช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ได้ดีอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการร่นระยะอาคารเพื่อเว้นว่างไว้ให้มีการเข้าถึงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  • เพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้อยู่อาศัยการที่มีกฎหมายลดระยะนั้นก็เพื่อที่ผู้อยู่อาศัยแต่ละบ้านนั้นจะได้ไม่อยู่ติดกันมากเกินไปและป้องกันการรบกวนทำให้เสียสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นด้านแสงสีเสียงหรือกลิ่น ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย
  • เพื่อการซ่อมแซมและก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในส่วนนี้บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะกฎหมายการระยะนั้นจะช่วยให้การสร้างบ้านต่อเติมบ้านหรือซ่อมแซมบ้านนั้นเป็นไปอย่างง่ายและที่สำคัญคือไม่รบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้อยู่อาศัยในรอบข้างอีกด้วย
  • เพื่อการเข้าช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินไหมว่าจะเป็นเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินเจ็บป่วยการเข้าถึงจะได้สะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย เพราะมีการร่นระยะและมีหนทางเข้าออกที่สะดวกสบายจึงสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้ง่ายหากทำตามกฎหมายการระยะ

 

ทั้งหมดนี้คือข้อดีของการที่มีกฎหมายบังคับใช้ในการร่นระยะดังนั้นก่อนการสร้างบ้านทุกครั้งต้องมีการศึกษากฎหมายให้ดีเพื่อการต่อเติมบ้านหรือสร้างบ้านที่สบายใจ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรื้อและสร้างใหม่ทำให้ค่าใช้จ่ายนั้นบานปลายเกินงบประมาณ

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

กฎหมายการร่นระยะ ที่ทุกคนควรทำความเข้าใจก่อนการสร้างบ้าน

กฎหมายการร่นระยะ01

การสร้างบ้านอาคารหรือแม้แต่การต่อเติมบ้านนั้นก็ต้องมีกฎหมายที่เป็นข้อบังคับใช้เพื่อให้มีการปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำกฎหมายการร่นระยะที่ทุกคนควรรู้ควรทำความเข้าใจก่อนการสร้างบ้าน การสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะช่วยให้เราไม่มีปัญหาที่ยืดยาวในการสร้างบ้านไม่ว่าจะเป็นปัญหากับเพื่อนบ้านหรือการลดค่าใช้จ่ายที่ต้องรื้อถอนหากทำผิดกฎอีกด้วย แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่ากฎหมายหลายคนคงมีความรู้สึกว่ายากเกินที่จะเข้าใจวันนี้เราจึงนำมาสรุปไว้ให้เข้าใจง่ายกับทุกท่าน


กฎหมายการร่นระยะคืออะไร กฎหมายการร่นระยะคือข้อบังคับที่เกี่ยวกับการก่อสร้างบ้านหรือการต่อเติมบ้านโดยมีการประกาศใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 โดยต้องยึดถือและปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมีกฎและบทลงโทษสำหรับผู้ที่สร้างบ้านนั้นเอง ดังนั้นหากท่านกำลังจะมีการสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านควรมีการศึกษากฎหมายให้ดีและที่สำคัญคือควรดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

สร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายมีอะไรบ้าง? รายละเอียดมากมายที่ควรรู้

การสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นมีรายละเอียดมากมายที่หลายท่านนั้นควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเรื่องระยะอาคารการเว้นที่ว่างและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ในบทความนี้เราจะพูดถึงการร่นระยะให้ถูกต้องตามกฎหมายคือการวัดระยะห่างจากตำแหน่งบนทางที่เป็นสาธารณะจนมาถึงเขตก่อสร้างหรือแนวอาคารของเรา โดยการร่นระยะนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามประเภทอาคารการก่อสร้างที่เราต้องการนั่นเอง

กฎหมายที่เกี่ยวกับการร่นระยะเมื่อสร้างบ้าน

กฎหมายการร่นระยะเมื่อทางบ้านเราสรุปมาให้ดังนี้ รับประกันว่าเข้าใจได้ง่ายพร้อมนำไปปรับแผนการสร้างบ้านของท่านได้เลยในทันที อย่าลืมว่ากฎหมายนี้คือข้อบังคับที่ต้องนำไปใช้ดังนั้นต้องทำให้ถูกต้องถูกหลักจะได้สร้างบ้านได้อย่างสบายใจและไม่ต้องเสี่ยงในเรื่องของการโดนบทลงโทษต่างๆ

กฎหมายการร่นระยะ02

การร่นระยะ กฎหมาย ระยะ ร่น ของแนวเขตที่ดินคนอื่น

หากพูดถึง กฎหมาย ระยะ ร่น บอกเลยว่าการเลื่อนระยะของแนวเขตที่ดินคนอื่นนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบที่ได้ใช้บ่อยเป็นอย่างมากเพราะมีการก่อสร้างบ้านเรือนอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายการร่นระยะจากบ้านและแนวเขตที่ดินของคนอื่นอีกด้วยโดยกฎหมายนี้จะมีอย่างไรตามไปดูกันเลย

     1. การก่อสร้างบ้านที่สูงไม่เกิน 9 เมตรต้องมีการร่นระยะจากแนวเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตรขึ้นไปและควรมีช่องเปิดระบายอากาศเป็นช่องลมรับแสงหรือหน้าต่าง

     2.การก่อสร้างบ้านที่สูง 9 เมตรขึ้นไปแต่ไม่เกิน 23 เมตร การช่างในรูปแบบนี้ต้องมีการร่นระยะจากเขตที่ดินอย่างน้อย 3 เมตรและควรมีช่องเปิดรับลมเป็นช่องรับแสงหรือหน้าต่างเช่นเดียวกัน

     3.การก่อสร้างบ้านที่สูงไม่เกิน 15 เมตรการสร้างบ้านในรูปแบบนี้ต้องมีการลดระยะจากเขตที่ดินอย่างน้อย 0.5 เมตรและที่สำคัญจะต้องได้รับการยินยอมจะเพื่อนบ้านเป็นลายลักษณ์อักษรอีกด้วย

     4.การก่อสร้างบ้านที่สูง 15 เมตรแต่ไม่เกิน 23 เมตรการสร้างบ้านในรูปแบบนี้ต้องลดระยะจากเขตที่ดิน 0.5 เมตรในทุกกรณี

กฎหมายการร่นระยะ03

การร่นระยะจากแหล่งน้ำ

นอกจากการร่นระยะในเขตแนวที่ดินคนอื่นกฎหมายยังมีการบังคับใช้การเริ่มย้ายจากแหล่งน้ำอีกด้วยโดยการร่นระยะจากแหล่งน้ำแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันออกไปวันนี้เราจึงมีมาแนะนำให้

     1.การร่นระยะจากแหล่งน้ำที่มีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร จะต้องมีการร่นระยะอย่างน้อย 3 เมตรจากแนวเขตที่ดิน

     2.การร่นระยะจากแหล่งน้ำที่มีความกว้างมากกว่า 10 เมตร จะต้องมีการร่นระยะอย่างน้อย 6 เมตรขึ้นไปจากแนวเขตที่ดิน

การร่นระยะจากทะเลสาบหรือบึงขนาดใหญ่ จะต้องมีการเริ่มระยะจากแนวเขตที่ดินมากกว่า 12 เมตร

กฎหมายการร่นระยะ04

การร่นระยะ กฎหมาย ระยะ ร่น บ้าน จากถนนสาธารณะ

การสร้างบ้านและ กฎหมาย ระยะ ร่น บ้าน จากพื้นที่สาธารณะก็บอกเลยว่าต้องได้ใช้บ่อยและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นอย่างมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่สร้างบ้านนั้นก็ต้องการความสะดวกสบายในการสัญจรไปมาดังนั้นการสร้างบ้านใกล้กับถนนสาธารณะจึงได้รับความนิยมสูง ดังนั้นก่อนการก่อสร้างบ้านไกลถนนสาธารณะก็มีข้อควรรู้ดังนี้

     1.หากถนนมีความกว้างน้อยกว่า 6 เมตร ตัวบ้านต้องร่นระยะจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 3 เมตร

     2.หากถนนมีความกว้างมากกว่า 10 เมตร ตัวบ้านต้องร่นระยะจากแนวกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 6 เมตร

     3.หากถนนมีความกว้าง 10 เมตรถึง 20 เมตร ตัวบ้านต้องร่นระยะจากแนวกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 1 ใน 10 ของความกว้างถนน

     4.หากถนนกว้างมากกว่า 20 เมตรขึ้นไป ตัวบ้านต้องร่นระยะจากแนวเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร

ทั้งหมดนี้คือกฎหมายการร่นระยะที่เป็นข้อควรรู้ก่อนการสร้างบ้านดังนั้นก่อนการสร้างบ้านทุกครั้งหากท่านยังไม่มั่นใจสามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้านแบบมืออาชีพได้เลย เพื่อการสร้างบ้านที่ถูกต้องตามกฎหมายและสบายใจในการก่อสร้างอีกด้วย

รอบรู้เรื่องกฎหมายเพื่อการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านที่สบายใจ

รอบรู้เรื่องกฎหมายเพื่อการสร้างบ้านและต่อเติมบ้านที่สบายใจ หากถามว่าทำไมจึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการร่นระยะในการสร้างบ้านมีข้อดีในด้านไหนวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับข้อดีของการบังคับใช้กฎหมายการร่นระยะกัน

     1.เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเมื่อเกิดอัคคีภัยจะสามารถเข้าช่วยเหลือได้ในทันทีและที่สำคัญคืออยากช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ได้ดีอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการร่นระยะอาคารเพื่อเว้นว่างไว้ให้มีการเข้าถึงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

     2.เพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้อยู่อาศัยการที่มีกฎหมายลดระยะนั้นก็เพื่อที่ผู้อยู่อาศัยแต่ละบ้านนั้นจะได้ไม่อยู่ติดกันมากเกินไปและป้องกันการรบกวนทำให้เสียสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นด้านแสงสีเสียงหรือกลิ่น ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย

     3.เพื่อการซ่อมแซมและก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในส่วนนี้บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะกฎหมายการระยะนั้นจะช่วยให้การสร้างบ้านต่อเติมบ้านหรือซ่อมแซมบ้านนั้นเป็นไปอย่างง่ายและที่สำคัญคือไม่รบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้อยู่อาศัยในรอบข้างอีกด้วย

     4.เพื่อการเข้าช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินไหมว่าจะเป็นเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินเจ็บป่วยการเข้าถึงจะได้สะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย เพราะมีการร่นระยะและมีหนทางเข้าออกที่สะดวกสบายจึงสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้ง่ายหากทำตามกฎหมายการระยะ

ทั้งหมดนี้คือข้อดีของการที่มีกฎหมายบังคับใช้ในการร่นระยะดังนั้นก่อนการสร้างบ้านทุกครั้งต้องมีการศึกษากฎหมายให้ดีเพื่อการต่อเติมบ้านหรือสร้างบ้านที่สบายใจ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรื้อและสร้างใหม่ทำให้ค่าใช้จ่ายนั้นบานปลายเกินงบประมาณ

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

7 ไอเดียจัดสวน ให้บ้านสวยถูกใจไม่มีเบื่อ

7 ไอเดียจัดสวนหน้าบ้าน

7 ไอเดียจัดสวน
การจัดสวนพื้นที่หน้าบ้านจะช่วยเพิ่มให้บ้านดูมีความน่าอยู่และทำให้บ้านมีความร่มรื่นมากยิ่งขึ้น
วันนี้เว็บไซต์ของเราจึงได้รวมไอเดียการจัดสวนหน้าบ้านมาเป็นแนวทางการจัดสวนให้ทุกท่าน
บอกเลยว่าพื้นที่กว้างหรือพื้นที่แคบก็สามารถจัดสวนได้
การจัดสวนยังเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าหลังการทำงานได้อีกด้วย
เพราะเมื่อได้มองสวนสวยสีเขียวผสานกับดอกไม้จะทำให้เราดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น

หลักการจัดสวนที่ง่ายสามารถทำได้เลยด้วยตนเอง

สำหรับท่านใดที่กำลังนึกอยากจะจัดสวน
แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีวันนี้เรามีหลักการจัดสวนที่ง่ายมากมาแนะนำให้กับทุกท่าน
สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการจัดสวนในรูปแบบและสไตล์ของท่านได้เลย

การสำรวจพื้นที่ในการจัดสวน

ก่อนการจัดสวนแน่นอนเลยว่าควรมีการสำรวจพื้นที่คร่าวๆ ก่อน เราควรจะสวนไปในแนวไหน
ทิศทางของแดดและลมมาในแนวใดจึงจะทำให้ต้นไม้ของเราดูมีความสวยงาม

ดูต้นไม้ที่เราต้องการปลูก

หลังจากที่เราทำการสำรวจพื้นที่ในการจัดสวนเรียบร้อยแล้ว
เราควรดูต้นไม้ที่เราต้องการปลูกให้เหมาะกับขนาดพื้นที่สวนของเรา
หากพื้นที่ไม่เยอะแนะนำให้เป็นต้นไม้ต้นเล็กเพื่อที่จะไม่ทำให้บ้านดูอึดอัดมากเกินไปและพื้นที่สวนอย่างมีพื้นที่ใช้สอ
ยได้อีกด้วย

ร่างรูปแบบสวนว่าอยากได้ประมาณไหน

เมื่อดูต้นไม้ที่เราต้องการปลูกเรียบร้อยแล้วก็นำมาร่างรูปแบบสวน
จัดวางต้นไม้ตามรูปแบบที่เราต้องการเพื่อเป็นแนวทางในการจัดสวนให้ตรงไปตามความต้องการของเรา

ทำการปรับหน้าดินและเคลียร์พื้นที่ในสวน

ทำการปรับหน้าดินและเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่ต้องการปลูกต้นไม้และเตรียมขุดหลุมหรือเตรียมทำทางระบายน้ำการวางท่อน้ำไว้
ให้ดี เพื่อที่จะทำให้เราสะดวกสบายในการรดน้ำต้นไม้

จัดเตรียมปลูกต้นไม้ได้เลย

หลังจากที่ทำทั้ง 4 ข้อเสร็จสิ้นไม่ว่าจะเป็นดูต้นไม้ที่ปลูก การร่างรูปแบบสวน
และการเตรียมหน้าดินพร้อมกับวางท่อน้ำ หลังจากนั้นก็จะเตรียมปลูกต้นไม้ตามแผนที่เราวางไว้ได้เลย

แจกไอเดียการแต่งสวนครบทุกสไตล์ช่วยให้บ้านน่าอยู่

สวนบาหลี

1. การแต่งสวนในแบบสไตล์บาหลี

การแต่งสวนในสไตล์นี้จะเน้นในการใช้ต้นไม้ที่เป็นเขตของเมืองร้อน ไม่ว่าจะเป็นต้นลั่นทม ต้นไผ่
โดยนำมาผสมผสานกับตัวรูปปั้นที่ทำให้สวนดูมีความน่าสนใจมากขึ้น
การตกแต่งสวนในสไตล์บาหลีจะเน้นไปในส่วนของความลึกลับซับซ้อนและมีความน่าค้นหา
แต่บอกเลยว่าการตกแต่งสวนในสไตล์บาหลีนั้นให้ความร่มรื่นของบ้านได้เป็นอย่างดีมากเลยที่

สวนฝรั่งเศษ

2. การแต่งสวน ไอเดียจัดสวนหน้าบ้าน ในสไตล์ฝรั่งเศส

การตกแต่งสวน ไอเดียจัดสวนหน้าบ้าน ในสไตล์ฝรั่งเศสนั้น จะเน้นไปในรูปแบบของสวนที่มีความเป็นระเบียบ
มีความสบายตา ที่สำคัญยังผสมผสานมาด้วยรูปทรงของเรขาคณิตในรูปแบบต่างๆ
โดยส่วนในสไตล์ฝรั่งเศสนั้นจะมีการวางแบบแผนไว้เป็นอย่างดี
ทำให้สวนมีความสวยและมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
การตกแต่งสวนในสไตล์รูปแบบนี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยายเลยก็ว่าได้

3. การตกแต่งสวนในรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่น

การตกแต่งสวนในสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะเน้นในเรื่องของการทำสวนแบบแห้ง
มีความเรียบง่ายโดยส่วนของญี่ปุ่นนั้นมักจะปูพื้นไปด้วยหินกรวดหรือทรายที่เป็นก้อนเล็ก
ทำให้ดูมีความสบายตามีความสงบและมีเสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ของสวนในรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

สวนสไตล์โมเดิร์น

4. การแต่งสวนสไตล์โมเดิร์น

การแต่งสวนในรูปแบบนี้จะเลือกใช้เฉพาะต้นไม้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีรูปทรงพิเศษเมื่อนำมาจัดวางรวมกันจะทำให้ส่วนนั้นดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นการจัดสวนในรูปแบบนี้จะเน้นความทันสมัยและมีสไตล์ความเป็นตัวเองมีความเรียบง่ายสะอาดตาแต่แฝงไปด้วยความร่มรื่นและความน่าหลงใหล

5. สวน Tropical

เป็นการจัดสวนที่มีความคล้ายกับป่าธรรมชาติมาก เป็นสวนที่เหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ให้บรรยากาศที่มีความร่มรื่น พรรณไม้ที่นิยมนำมาใช้ในสไตล์ทรอปิคัล จะเน้นไปที่พืชพรรณรูปฟอร์มใบสวยงามแบบธรรมชาติ เช่น เฟิร์น, กล้วยไม้, ชายผ้าสีดา ร่มรื่นไปด้วยโทนสีเขียวหลากหลายเฉด และจะนิยมปลูกด้วยพรรณไม้ชนิดใบมากกว่าชนิดดอก พรรณไม้ส่วนใหญ่จึงเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศมีฟอร์มและรูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ต้องอาศัยการตัดแต่งมากนัก

สวนอังกฤษ

6. สวนอังกฤษ

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของสวนสไตล์อังกฤษกันก่อน การจัดสวนสไตล์อังกฤษจะเน้นการปลูกต้นไม้เป็นกลุ่มมีเนินเพื่อเล่นระดับสายตา การทำซุ้มไม้เลื้อย และปูหญ้าเป็นพื้นเขียวตัดด้วยสีสันของดอกไม้นานาชนิดและสีขาวจากเครื่องใช้หรือของตกแต่ง โดยเป็นการจัดสวนสไตล์อังกฤษที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ผสมผสานพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดให้ดูเป็นธรรมชาติ ตกแต่งด้วยประติมากรรม น้ำพุ หรือโต๊ะน้ำชาตามแบบยุโรป อีกทั้งยังเป็นการจัดสวนสไตล์อังกฤษที่ใช้พื้นที่ใช้สอยน้อยเหมาะกับการจัดสวนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก

7. สวนหิน ทราย

เป็นสวนที่ผสมผสานหินหลากหลายขนาด และต้นไม้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ เลือกรูปทรงหินให้มีความโดดเด่น และเพิ่มหินกรวดก้อนเล็กปูตามพื้น โดยเลือกเฉดสีที่เข้ากัน อาจจะก่อหินเป็นเนินให้มีระดับสูงต่ำ ให้อารมย์เหมือนประเทศที่มีอากาศร้อน และแห้งแล้ง หากจัดวางให้ดีก็เท่แวกแนวต่างจากสวนแบบอื่นๆ หรือบางคนจะเห็นได้ตามบ้านที่ชอบความเรียบหรู โดดเด่น

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  BEZEN CERAMIC TILES

7 ไอเดียจัดสวนหน้าบ้าน

7 ไอเดียจัดสวน
การจัดสวนพื้นที่หน้าบ้านจะช่วยเพิ่มให้บ้านดูมีความน่าอยู่และทำให้บ้านมีความร่มรื่นมากยิ่งขึ้น
วันนี้เว็บไซต์ของเราจึงได้รวมไอเดียการจัดสวนหน้าบ้านมาเป็นแนวทางการจัดสวนให้ทุกท่าน
บอกเลยว่าพื้นที่กว้างหรือพื้นที่แคบก็สามารถจัดสวนได้
การจัดสวนยังเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าหลังการทำงานได้อีกด้วย
เพราะเมื่อได้มองสวนสวยสีเขียวผสานกับดอกไม้จะทำให้เราดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น

หลักการจัดสวนที่ง่ายสามารถทำได้เลยด้วยตนเอง

สำหรับท่านใดที่กำลังนึกอยากจะจัดสวน
แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีวันนี้เรามีหลักการจัดสวนที่ง่ายมากมาแนะนำให้กับทุกท่าน
สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการจัดสวนในรูปแบบและสไตล์ของท่านได้เลย

การสำรวจพื้นที่ในการจัดสวน

ก่อนการจัดสวนแน่นอนเลยว่าควรมีการสำรวจพื้นที่คร่าวๆ ก่อน เราควรจะสวนไปในแนวไหน
ทิศทางของแดดและลมมาในแนวใดจึงจะทำให้ต้นไม้ของเราดูมีความสวยงาม

ดูต้นไม้ที่เราต้องการปลูก

หลังจากที่เราทำการสำรวจพื้นที่ในการจัดสวนเรียบร้อยแล้ว
เราควรดูต้นไม้ที่เราต้องการปลูกให้เหมาะกับขนาดพื้นที่สวนของเรา
หากพื้นที่ไม่เยอะแนะนำให้เป็นต้นไม้ต้นเล็กเพื่อที่จะไม่ทำให้บ้านดูอึดอัดมากเกินไปและพื้นที่สวนอย่างมีพื้นที่ใช้สอ
ยได้อีกด้วย

ร่างรูปแบบสวนว่าอยากได้ประมาณไหน

เมื่อดูต้นไม้ที่เราต้องการปลูกเรียบร้อยแล้วก็นำมาร่างรูปแบบสวน
จัดวางต้นไม้ตามรูปแบบที่เราต้องการเพื่อเป็นแนวทางในการจัดสวนให้ตรงไปตามความต้องการของเรา

ทำการปรับหน้าดินและเคลียร์พื้นที่ในสวน

ทำการปรับหน้าดินและเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่ต้องการปลูกต้นไม้และเตรียมขุดหลุมหรือเตรียมทำทางระบายน้ำการวางท่อน้ำไว้
ให้ดี เพื่อที่จะทำให้เราสะดวกสบายในการรดน้ำต้นไม้

จัดเตรียมปลูกต้นไม้ได้เลย

หลังจากที่ทำทั้ง 4 ข้อเสร็จสิ้นไม่ว่าจะเป็นดูต้นไม้ที่ปลูก การร่างรูปแบบสวน
และการเตรียมหน้าดินพร้อมกับวางท่อน้ำ หลังจากนั้นก็จะเตรียมปลูกต้นไม้ตามแผนที่เราวางไว้ได้เลย

แจกไอเดียการแต่งสวนครบทุกสไตล์ช่วยให้บ้านน่าอยู่

สวนบาหลี

1. การแต่งสวนในแบบสไตล์บาหลี

การแต่งสวนในสไตล์นี้จะเน้นในการใช้ต้นไม้ที่เป็นเขตของเมืองร้อน ไม่ว่าจะเป็นต้นลั่นทม ต้นไผ่
โดยนำมาผสมผสานกับตัวรูปปั้นที่ทำให้สวนดูมีความน่าสนใจมากขึ้น
การตกแต่งสวนในสไตล์บาหลีจะเน้นไปในส่วนของความลึกลับซับซ้อนและมีความน่าค้นหา
แต่บอกเลยว่าการตกแต่งสวนในสไตล์บาหลีนั้นให้ความร่มรื่นของบ้านได้เป็นอย่างดีมากเลยที่

สวนฝรั่งเศษ

2. การแต่งสวน ไอเดียจัดสวนหน้าบ้าน ในสไตล์ฝรั่งเศส

การตกแต่งสวน ไอเดียจัดสวนหน้าบ้าน ในสไตล์ฝรั่งเศสนั้น จะเน้นไปในรูปแบบของสวนที่มีความเป็นระเบียบ
มีความสบายตา ที่สำคัญยังผสมผสานมาด้วยรูปทรงของเรขาคณิตในรูปแบบต่างๆ
โดยส่วนในสไตล์ฝรั่งเศสนั้นจะมีการวางแบบแผนไว้เป็นอย่างดี
ทำให้สวนมีความสวยและมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
การตกแต่งสวนในสไตล์รูปแบบนี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยายเลยก็ว่าได้

3. การตกแต่งสวนในรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่น

การตกแต่งสวนในสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะเน้นในเรื่องของการทำสวนแบบแห้ง
มีความเรียบง่ายโดยส่วนของญี่ปุ่นนั้นมักจะปูพื้นไปด้วยหินกรวดหรือทรายที่เป็นก้อนเล็ก
ทำให้ดูมีความสบายตามีความสงบและมีเสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ของสวนในรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

สวนสไตล์โมเดิร์น

4. การแต่งสวนสไตล์โมเดิร์น

การแต่งสวนในรูปแบบนี้จะเลือกใช้เฉพาะต้นไม้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีรูปทรงพิเศษเมื่อนำมาจัดวางรวมกันจะทำให้ส่วนนั้นดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นการจัดสวนในรูปแบบนี้จะเน้นความทันสมัยและมีสไตล์ความเป็นตัวเองมีความเรียบง่ายสะอาดตาแต่แฝงไปด้วยความร่มรื่นและความน่าหลงใหล

5. สวน Tropical

เป็นการจัดสวนที่มีความคล้ายกับป่าธรรมชาติมาก เป็นสวนที่เหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ให้บรรยากาศที่มีความร่มรื่น พรรณไม้ที่นิยมนำมาใช้ในสไตล์ทรอปิคัล จะเน้นไปที่พืชพรรณรูปฟอร์มใบสวยงามแบบธรรมชาติ เช่น เฟิร์น, กล้วยไม้, ชายผ้าสีดา ร่มรื่นไปด้วยโทนสีเขียวหลากหลายเฉด และจะนิยมปลูกด้วยพรรณไม้ชนิดใบมากกว่าชนิดดอก พรรณไม้ส่วนใหญ่จึงเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศมีฟอร์มและรูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ต้องอาศัยการตัดแต่งมากนัก

สวนอังกฤษ

6. สวนอังกฤษ

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของสวนสไตล์อังกฤษกันก่อน การจัดสวนสไตล์อังกฤษจะเน้นการปลูกต้นไม้เป็นกลุ่มมีเนินเพื่อเล่นระดับสายตา การทำซุ้มไม้เลื้อย และปูหญ้าเป็นพื้นเขียวตัดด้วยสีสันของดอกไม้นานาชนิดและสีขาวจากเครื่องใช้หรือของตกแต่ง โดยเป็นการจัดสวนสไตล์อังกฤษที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ผสมผสานพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดให้ดูเป็นธรรมชาติ ตกแต่งด้วยประติมากรรม น้ำพุ หรือโต๊ะน้ำชาตามแบบยุโรป อีกทั้งยังเป็นการจัดสวนสไตล์อังกฤษที่ใช้พื้นที่ใช้สอยน้อยเหมาะกับการจัดสวนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก

7. สวนหิน ทราย

เป็นสวนที่ผสมผสานหินหลากหลายขนาด และต้นไม้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ เลือกรูปทรงหินให้มีความโดดเด่น และเพิ่มหินกรวดก้อนเล็กปูตามพื้น โดยเลือกเฉดสีที่เข้ากัน อาจจะก่อหินเป็นเนินให้มีระดับสูงต่ำ ให้อารมย์เหมือนประเทศที่มีอากาศร้อน และแห้งแล้ง หากจัดวางให้ดีก็เท่แวกแนวต่างจากสวนแบบอื่นๆ หรือบางคนจะเห็นได้ตามบ้านที่ชอบความเรียบหรู โดดเด่น

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  BEZEN CERAMIC TILES

10 คู่สี แต่งบ้าน

10 คู่สี แต่งบ้าน

คู่สี
  การสร้างบ้านสักหลังนอกจากดีไซน์ที่มีความสวยงาม ฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแล้วนั้นการเลือกสีที่มาตกแต่งบ้านก็จะช่วยสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย สีเป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยทำให้อารมณ์หรือ mood ในบ้านมันมีความแตกต่างกันออกไปอยากให้อารมณ์ในบ้านสะท้อนออกมาเป็นรูปแบบใดสไตล์ไหนแนะนำว่าควรเลือกใช้คู่สีให้เป็น.

แนะนำเคล็ดลับการเลือกสีบ้านให้โดนใจ

   การเลือกสีบ้านให้โดนใจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากอยากให้บ้านมีความรู้สึกและบรรยากาศออกไปในรูปแบบไหนก็ควรเลือกสีบ้านให้เป็นไปตามสไตล์ที่ท่านต้องการวันนี้เราจึงจะมาแนะนำเคล็ดลับการเลือกสีบ้านให้โดนใจสามารถนำไปปรับใช้กับการสร้างบ้านในรูปแบบของท่านได้เลย.

1. การเลือกสีตามความสว่างของธรรมชาติ

สำหรับบ้านที่มีแดดส่องเข้ามาน้อยและบรรยากาศภายในบ้านค่อนข้างดูอึมครึม
แนะนำว่าควรเลือกสีสว่างตามธรรมชาติคนนั้นเป็นสีขาวเพราะจะทำให้บ้านดูกว้างขึ้น
ดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้นและทำให้ตัวบ้านไม่ดูน่าอึดอัด.

2. การเลือกสีบ้านตามประเภทของห้อง

ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกใช้สีทาบ้านตามประเภทของห้องที่ท่านต้องการได้เลยเลือกได้ความต้องการไม่ว่าจะเป็นสีห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องครัวก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเพื่อทำให้บ้านดูไม่น่าเบื่อมากเกินไปและดูไม่ซ้ำจำเจ.

3. การเลือกโทนสีบ้านให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์

เลือกสีบ้านให้เข้ากับตัวเฟอร์นิเจอร์มากที่สุด เพราะจะทำให้บ้านดูคุมโทนและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นหรือหากไม่อยากให้ภายในบ้านนั้นดูคุมโทนไปในแนวเดียวกันมากเกินไปมันก็สามารถเลือกสีที่ตัดกับสีเฟอร์นิเจอร์ของท่านได้โดยใช้หลักการทฤษฎีสี

โทนสีแต่งบ้านจับคู่อย่างไรให้ดูลงตัวที่สุด

  สำหรับท่านใดที่กำลังอยากตกแต่งบ้านใหม่หรือห้องใหม่แต่ยังเลือกโทนสีไม่ได้เลือกอย่างไรก็ไม่ตรงใจสักทีวันนี้เราจึงขอมาแนะนำไอเดียการจับคู่โทนสีให้กับทุกท่านเพื่อให้ท่านได้นำไปเป็นแนวทางในการใช้ตกแต่งบ้านหรือห้องนอนของท่านให้ดูตอบโจทย์และตรงใจของท่านมากที่สุดตามไปดูกับเรากันเลยว่าการจับคู่สีในรูปแบบไหนจะช่วยให้ดูตรงใจและนั่งอยู่มากที่สุด.

คู่สีแต่งบ้าน01

1. การจับคู่สีโดยใช้สีชมพูเข้ม – สีเทา

สำหรับการตกแต่งบ้านที่อยากให้บ้านเป็นในโทนชมพูแต่ไม่ได้อยากเป็นชมพูจ๋าจนดูเหรียญหรือหวานมากเกินไปดังนั้นการเลือกใช้สีชมพูเข้มมาตัดกับสีเทาจะช่วยให้บ้านดูดีมีสไตล์ดูมีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นแต่ยังแฝงไปด้วยความน่ารักมาค้นหาโดยสีชมพู.

คู่สีแต่งบ้าน02

2. การจับคู่สีโดยใช้สีเทา – สีน้ำตาล

สำหรับคนที่อยากให้บ้านหรือห้องนอนออกมามีสไตล์แท้ไม่จืดชืดจนเกินไปแนะนำว่าให้จับคู่สีโดยใช้สีเทากับสีน้ำตาล เพราะจะทำให้บ้านมีความสามารถมากยิ่งขึ้นดูอบอุ่นมากขึ้น การเลือกใช้ 2 สีนี้ยังทำให้บ้านดูมีเสน่ห์ชวนน่าค้นหาและน่าอยู่เป็นอย่างมาก.

คู่สีแต่งบ้าน03

3. การจับ คู่สีใช้แต่งบ้าน สีน้ำเงิน – สีส้ม

การเลือกใช้ทั้ง 2 สีนี้อาจดูมีความแตกต่างกันสุดขั้วบอกเลยว่าเมื่อนำมาผสมผสานกันแล้วมีความลงตัวเป็นอย่างมากเพราะตัวสีน้ำเงินที่นำมาตัดสินกับสีส้มนั้นจะทำให้ห้องดูมีความน่าสนใจและไม่อึมครึมมากเกินไปแล้วตัวสีส้มยังทำให้ห้องหรือบ้านของท่านโดดเด่นมากยิ่งขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นอีกด้วย.

คู่สีแต่งบ้าน04

4. การจับคู่สีโดยใช้สีแดง – สีเทา

การจับคู่สีในรูปแบบนี้จะทำให้บ้านดูเรียบหรูและมีสไตล์มากยิ่งขึ้น รู้จักว่าตัวสีเทาจะทำให้บ้านดูมีความ Modern และตัดไปด้วยสีแดงจะทำให้บ้านดูมีสไตล์มีความ Luxury มากขึ้นเป็นหนึ่งในคู่สีที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมากในการนำมาตกแต่งบ้าน.

คู่สีแต่งบ้าน05

5. การจับคู่สีเขียว – สีขาว

สำหรับท่านใดที่อยากให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติและมีความสบายตา แนะนำว่าควรเลือกใช้คู่สีเขียวกับสีขาวเพราะจะทำให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติแต่แนะนำว่าบ้านที่ตกแต่งโดยใช้คู่สีนี้ควรจะมีบรรยากาศภายในห้องเป็นสไตล์ไม้หรือตัดไปด้วยสีน้ำตาลสักนิดนึงจะช่วยให้บ้านดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.

คู่สีแต่งบ้าน06

6. การจับคู่สีโดยเลือกใช้สีฟ้า – สีขาว

สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบความเรียบหรูอยู่สบายต้องการให้บ้านหรือห้องมีความสบายตาแนะนำว่าให้เลือกโทนสีนี้เพราะจะทำให้บ้านดูมีความมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นดูเรียบง่ายสบายตาแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและความน่าอยู่ของตัวบ้านหากอยากให้บ้านมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกสักหน่อยแนะนำว่าให้ตัดไปด้วยสีเทาสักเล็กน้อย.

คู่สีแต่งบ้าน07

7. การจับ คู่สีใช้แต่งบ้าน สีขาว-ดำ

คู่สีขาว-ดำ คู่สีธรรมดาที่ไม่ธรรมดา และเป็นคู่สีที่คนนิยมใช้กันมาก โดยสามารถใช้ได้หลาหหลายแนวเราสามารถผสมสีของไม้ สีเข้ม-อ่อน เข้าไปเพิ่มเพื่อความลงตัวหรือจะใช้เป็นขาวล้วน ดำล้วนก็ได้

คู่สีแต่งบ้าน08

8. การจับคู่สีขาว-น้ำตาล

คู่สีให้ความรู้สึกอบอุ่น ใช้ในบ้านสไตล์มินิมอล โมเดิร์น ดูสบายตา เน้นใช้วัสดุสีอ่อน น้ำตาลอ่อนหรือขาวสลับกัน.

คู่สีแต่งบ้าน09

9. การจับคู่สีขาว-เหลือง

สีเหลือง เป็นสีแห่งสติปัญญา การหยั่งรู้  เป็นสีที่ให้ความสุข ความเบิกบาน มีชิวิตชีวา ใช้ในงานเฉลิมฉลองเป็นสีของความแจ่มใส

คู่สีแต่งบ้าน10

10. การจับคู่สีขาว-ส้ม

สีส้ม แสดงถึงความสดใส ร่าเริง อิสระทางความคิด เปี่ยมไปด้วยพลังงานและความทะเยอทะยาน ผสมกับสีขาวที่เป็นสีที่เข้ากับหลากหลายสีได้ดีก็เพิ่มความน่าสนใจให้กับคู่สีนี้ ใครที่จะใช้คู่สีนี้ลองใช้กับห้องนั่งเล่น ห้องทำงานดู น่าจะช่วยในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มพลังงานได้ดีทีเดียว.

เผยความเป็นตัวตนของท่านด้วยสไตล์การเลือกสี

การเลือกสีในการตกแต่งบ้านหรือการสร้างบ้านนั้นก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เผยความเป็นตัวตนของท่านได้เป็นอย่างนี้วันนี้หากท่านไหนที่มีแพลนอยากตกแต่งห้องหรือตกแต่งบ้านสามารถนำคู่สีที่เราแนะนำให้กับท่านไปปรับใช้ในรูปแบบการสร้างบ้านของท่านได้เลย การันตีว่าท่านจะได้บ้านที่มีความสวยงามลงตัวและไม่น่าเบื่ออีกต่อไปอย่างแน่นอน

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  BEZEN CERAMIC TILES

10 คู่สี แต่งบ้าน

คู่สี
  การสร้างบ้านสักหลังนอกจากดีไซน์ที่มีความสวยงาม ฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแล้วนั้นการเลือกสีที่มาตกแต่งบ้านก็จะช่วยสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย สีเป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยทำให้อารมณ์หรือ mood ในบ้านมันมีความแตกต่างกันออกไปอยากให้อารมณ์ในบ้านสะท้อนออกมาเป็นรูปแบบใดสไตล์ไหนแนะนำว่าควรเลือกใช้คู่สีให้เป็น.

แนะนำเคล็ดลับการเลือกสีบ้านให้โดนใจ

   การเลือกสีบ้านให้โดนใจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากอยากให้บ้านมีความรู้สึกและบรรยากาศออกไปในรูปแบบไหนก็ควรเลือกสีบ้านให้เป็นไปตามสไตล์ที่ท่านต้องการวันนี้เราจึงจะมาแนะนำเคล็ดลับการเลือกสีบ้านให้โดนใจสามารถนำไปปรับใช้กับการสร้างบ้านในรูปแบบของท่านได้เลย.

1. การเลือกสีตามความสว่างของธรรมชาติ

สำหรับบ้านที่มีแดดส่องเข้ามาน้อยและบรรยากาศภายในบ้านค่อนข้างดูอึมครึมแนะนำว่าควรเลือกสีสว่างตามธรรมชาติคนนั้นเป็นสีขาวเพราะจะทำให้บ้านดูกว้างขึ้นดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้นและทำให้ตัวบ้านไม่ดูน่าอึดอัด.

2. การเลือกสีบ้านตามประเภทของห้อง

ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกใช้สีทาบ้านตามประเภทของห้องที่ท่านต้องการได้เลยเลือกได้ความต้องการไม่ว่าจะเป็นสีห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องครัวก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเพื่อทำให้บ้านดูไม่น่าเบื่อมากเกินไปและดูไม่ซ้ำจำเจ.

3. การเลือกโทนสีบ้านให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์

เลือกสีบ้านให้เข้ากับตัวเฟอร์นิเจอร์มากที่สุด เพราะจะทำให้บ้านดูคุมโทนและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นหรือหากไม่อยากให้ภายในบ้านนั้นดูคุมโทนไปในแนวเดียวกันมากเกินไปมันก็สามารถเลือกสีที่ตัดกับสีเฟอร์นิเจอร์ของท่านได้โดยใช้หลักการทฤษฎีสี

โทนสีแต่งบ้านจับคู่อย่างไรให้ดูลงตัวที่สุด

  สำหรับท่านใดที่กำลังอยากตกแต่งบ้านใหม่หรือห้องใหม่แต่ยังเลือกโทนสีไม่ได้เลือกอย่างไรก็ไม่ตรงใจสักทีวันนี้เราจึงขอมาแนะนำไอเดียการจับคู่โทนสีให้กับทุกท่านเพื่อให้ท่านได้นำไปเป็นแนวทางในการใช้ตกแต่งบ้านหรือห้องนอนของท่านให้ดูตอบโจทย์และตรงใจของท่านมากที่สุดตามไปดูกับเรากันเลยว่าการจับคู่สีในรูปแบบไหนจะช่วยให้ดูตรงใจและนั่งอยู่มากที่สุด.

คู่สีแต่งบ้าน01

1. การจับคู่สีโดยใช้สีชมพูเข้ม – สีเทา

สำหรับการตกแต่งบ้านที่อยากให้บ้านเป็นในโทนชมพูแต่ไม่ได้อยากเป็นชมพูจ๋าจนดูเหรียญหรือหวานมากเกินไปดังนั้นการเลือกใช้สีชมพูเข้มมาตัดกับสีเทาจะช่วยให้บ้านดูดีมีสไตล์ดูมีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นแต่ยังแฝงไปด้วยความน่ารักมาค้นหาโดยสีชมพู.

คู่สีแต่งบ้าน02

2. การจับคู่สีโดยใช้สีเทา – สีน้ำตาล

สำหรับคนที่อยากให้บ้านหรือห้องนอนออกมามีสไตล์แท้ไม่จืดชืดจนเกินไปแนะนำว่าให้จับคู่สีโดยใช้สีเทากับสีน้ำตาล เพราะจะทำให้บ้านมีความสามารถมากยิ่งขึ้นดูอบอุ่นมากขึ้น การเลือกใช้ 2 สีนี้ยังทำให้บ้านดูมีเสน่ห์ชวนน่าค้นหาและน่าอยู่เป็นอย่างมาก.

คู่สีแต่งบ้าน03

3. การจับ คู่สีใช้แต่งบ้าน สีน้ำเงิน – สีส้ม

การเลือกใช้ทั้ง 2 สีนี้อาจดูมีความแตกต่างกันสุดขั้วบอกเลยว่าเมื่อนำมาผสมผสานกันแล้วมีความลงตัวเป็นอย่างมากเพราะตัวสีน้ำเงินที่นำมาตัดสินกับสีส้มนั้นจะทำให้ห้องดูมีความน่าสนใจและไม่อึมครึมมากเกินไปแล้วตัวสีส้มยังทำให้ห้องหรือบ้านของท่านโดดเด่นมากยิ่งขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นอีกด้วย.

คู่สีแต่งบ้าน04

4. การจับคู่สีโดยใช้สีแดง – สีเทา

การจับคู่สีในรูปแบบนี้จะทำให้บ้านดูเรียบหรูและมีสไตล์มากยิ่งขึ้น รู้จักว่าตัวสีเทาจะทำให้บ้านดูมีความ Modern และตัดไปด้วยสีแดงจะทำให้บ้านดูมีสไตล์มีความ Luxury มากขึ้นเป็นหนึ่งในคู่สีที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมากในการนำมาตกแต่งบ้าน.

คู่สีแต่งบ้าน05

5. การจับคู่สีเขียว – สีขาว

สำหรับท่านใดที่อยากให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติและมีความสบายตา แนะนำว่าควรเลือกใช้คู่สีเขียวกับสีขาวเพราะจะทำให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติแต่แนะนำว่าบ้านที่ตกแต่งโดยใช้คู่สีนี้ควรจะมีบรรยากาศภายในห้องเป็นสไตล์ไม้หรือตัดไปด้วยสีน้ำตาลสักนิดนึงจะช่วยให้บ้านดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.

คู่สีแต่งบ้าน06

6. การจับคู่สีโดยเลือกใช้สีฟ้า – สีขาว

สีฟ้า ดูแล้วสบายตา ให้ความรู้สึก สงบ ผ่อนคลาย
สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบความเรียบหรูอยู่สบายต้องการให้บ้านหรือห้องมีความสบายตาแนะนำว่าให้เลือกโทนสีนี้เพราะจะทำให้บ้านดูมีความมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นดูเรียบง่ายสบายตาแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและความน่าอยู่ของตัวบ้านหากอยากให้บ้านมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกสักหน่อยแนะนำว่าให้ตัดไปด้วยสีเทาสักเล็กน้อย.

คู่สีแต่งบ้าน07

7. การจับ คู่สีใช้แต่งบ้าน สีขาว-ดำ

คู่สีขาว-ดำ คู่สีธรรมดาที่ไม่ธรรมดา และเป็นคู่สีที่คนนิยมใช้กันมาก โดยสามารถใช้ได้หลาหหลายแนวเราสามารถผสมสีของไม้ สีเข้ม-อ่อน เข้าไปเพิ่มเพื่อความลงตัวหรือจะใช้เป็นขาวล้วน ดำล้วนก็ได้ สีขาวและดำ จะให้ความรู้สึกที่ สงบ เงียบ สะอาด เยือกเย็น เหมาะกับคนที่ชอบความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยดีเทล รายละเอียดข้างในที่ซ่อนอยู่

คู่สีแต่งบ้าน08

8. การจับคู่สีขาว-น้ำตาล

คู่สีให้ความรู้สึกอบอุ่น ใช้ในบ้านสไตล์มินิมอล โมเดิร์น ดูสบายตา เน้นใช้วัสดุสีอ่อน น้ำตาลอ่อนหรือขาวสลับกัน.

คู่สีแต่งบ้าน09

9. การจับคู่สีขาว-เหลือง

สีเหลือง เป็นสีแห่งสติปัญญา การหยั่งรู้  เป็นสีที่ให้ความสุข ความเบิกบาน มีชิวิตชีวา ใช้ในงานเฉลิมฉลองเป็นสีของความแจ่มใส

คู่สีแต่งบ้าน10

10. การจับคู่สีขาว-ส้ม

สีส้ม แสดงถึงความสดใส ร่าเริง อิสระทางความคิด เปี่ยมไปด้วยพลังงานและความทะเยอทะยาน ผสมกับสีขาวที่เป็นสีที่เข้ากับหลากหลายสีได้ดีก็เพิ่มความน่าสนใจให้กับคู่สีนี้ ใครที่จะใช้คู่สีนี้ลองใช้กับห้องนั่งเล่น ห้องทำงานดู น่าจะช่วยในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มพลังงานได้ดีทีเดียว.

เผยความเป็นตัวตนของท่านด้วยสไตล์การเลือกสี

การเลือกสีในการตกแต่งบ้านหรือการสร้างบ้านนั้นก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เผยความเป็นตัวตนของท่านได้เป็นอย่างนี้วันนี้หากท่านไหนที่มีแพลนอยากตกแต่งห้องหรือตกแต่งบ้านสามารถนำคู่สีที่เราแนะนำให้กับท่านไปปรับใช้ในรูปแบบการสร้างบ้านของท่านได้เลย การันตีว่าท่านจะได้บ้านที่มีความสวยงามลงตัวและไม่น่าเบื่ออีกต่อไปอย่างแน่นอน

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

10 ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury

10 ไอเดียสร้างบ้านสไตล์ Luxury

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury1
   บ้านที่พักอยู่อาศัยนอกจากความแข็งแรงทนทานและความพร้อมใช้งานในด้านมัลติฟังก์ชั่นแล้วนั้นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้บ้านดูน่าอยู่และมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือสไตล์การตกแต่งของบ้าน โดยในปัจจุบันมีการตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์และหลากหลายรูปแบบ
ซึ่งการตกแต่งบ้านนั้นก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและสไตล์ของผู้อยู่อาศัย สำหรับท่านใดที่กำลังสร้างบ้านใหม่มองหาสไตล์การสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ท่าน
 
   การตกแต่งบ้านในแนว luxury นั้นจะเน้นในเรื่องของความเรียบหรู ดูมีสไตล์และมีความสบายตา ส่วนใหญ่การสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้านแนวนี้จะเน้นในเรื่องการใช้สี โดยจะเน้นไปในการใช้สีขาวทองแล้ววัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในการตกแต่งบ้านก็จะเป็นวัสดุที่เป็นประเภทมันวาวมีความระยิบระยับเพื่อสะท้อนความหรูหราและความมีสไตล์ของผู้ที่ตกแต่งบ้าน เพื่อให้ท่านนำไปปรับใช้กับสไตล์การสร้างบ้านของท่านได้เป็นอย่างดี

แจกไอเดียการทำบ้านให้เรียบหรูดูแพงแบบ Luxury

   มาดูกันว่าไอเดียการสร้างบ้านให้เรียบหรูดูแพงในสไตล์ luxury นั้นจะมีรูปแบบการตกแต่งอย่างไรกันบ้างหากอยากได้ความเรียบหรูดูมีสไตล์ในการตกแต่งและการสร้างบ้านเพื่อให้เสริมลุคให้ดูมีออร่าของท่านสะท้อนความเพอร์เฟกต์ของผู้อยู่อาศัยนำไอเดียของเราไปใช้ในการสร้างบ้านและทำบ้านให้เรียบหรูดูแพงได้เลย.
ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury2

1. การสร้างบ้านสไตล์ Luxury ด้วยลวดลายหินอ่อน

แน่นอนว่าความ Luxury กับลวดลายหินอ่อนนั้นย่อมเป็นของคู่กันเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าลวดลายหินอ่อนนั้นมีความทันสมัยมีความหรูหรา และที่สำคัญเมื่อนำมาสร้างบ้านยังช่วยให้บ้านเสริมดูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งโทนสีของลายหินอ่อนนั้นจะช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น.

2. ทำให้บ้านเรียบหรูขึ้นด้วยการใช้เส้นสีทองมาตัด

หากจะใช้แค่ลวดลายหินอ่อนหรือสีขาวแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็อาจจะทำให้บ้านดูไม่ค่อยมีความน่าสนใจสักเท่าไหร่หนัก
ดังนั้นสามารถทำให้บ้านเรียบหรูขึ้นได้โดยการใช้เส้นสีทองมาตัดเป็นพร้อมตกแต่งตามผนังหรือตามชั้น
อีกอย่างการนำเส้นสีทองมาตัดภายในห้องหรือภายในบ้านนั้นจะช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้นดูมีพื้นที่การใช้สอยมากินขึ้นอี
กด้วย.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury3

3. เพิ่มความหรูหราในห้องอาหาร ตกแต่ง บ้าน luxury ด้วยโต๊ะหินอ่อน

หากต้องการให้ห้องโซนรับประทานดูมีความเรียบหรูและมีสไตล์ ตกแต่ง บ้าน luxury มากยิ่งขึ้นเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหารที่หรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยโต๊ะที่ท็อปด้วยวัสดุที่มาในรูปแบบของหินอ่อนพร้อมกับเพิ่มความหรูหราเข้าไปด้วยขาโต๊ะที่ตัดด้วยสีทองนอกจากนั้นในส่วนของเก้าอี้แนะนำให้ใช้เป็นผ้าบุกำมะหยี่ซึ่งเน้นใช้สีขาวทองเป็นหลัก.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury5

4. เพิ่มองค์ประกอบของห้องโดยสีเทาก็ทำให้ห้องหรูหราได้

นอกจากการใช้สีขาวทองเป็นหลักหากจะใช้หมดทั้งบ้านก็คงจะดูไม่ค่อยมีความน่าสนใจเท่าไหร่ดังนั้นหากต้องการเพิ่มจุดในบ้านให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและหรูหราที่เป็นสีเทา ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ชั้นวางของ

หรือสิ่งของที่ใช้ตกแต่งบ้านประเภทอื่นให้ตัดเป็นสีเทาจะทำให้บ้านดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นแนะนำว่าหากใช้สีเทามาเป็นตัวตัดในการตกแต่งบ้านให้ใช้เป็นผ้ากำมะหยี่ที่บุและดึงด้วยกระดุมจะช่วยเพิ่มความเรียบหรูและความน่าสนใจในบ้านมากกว่าเดิม.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury6

5. การสร้างบ้าน ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ luxury ให้ดูมีความอบอุ่น

สำหรับท่านใดที่ต้องการสร้างบ้านให้ดู luxury แต่ยังแฝงไปด้วยความอบอุ่น ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ luxury
แนะนำให้ท่านกลางบ้านหรือตกแต่งบ้านด้วยสีครีมเป็นหลักเพราะสีครีมนั้นจะแฝงไปด้วยความอบอุ่นทำให้บ้านน่าอยู่และที่สำคัญยังมีความสบายตามากยิ่งขึ้นอีกด้วย.

6. เพิ่มลูกเล่นของเฟอร์นิเจอร์หรือบิ้วอินที่มีความแวววาว

แน่นอนว่าหากอยากให้บ้านดูหรูหรามีสไตล์เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ริบบิ้นส่วนใหญ่จะต้องเป็นสิ่งของที่มีความแวววาวระยิบระยับ เราจะช่วยเพิ่มลูกเล่นในบ้านให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น หรือจะประดับแชนเดอเลียร์สวยๆสักอันก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก.

7. การใช้เฉดสีแบบไล่ระดับเข้ม-อ่อน

อีกหนึ่งสิ่งที่ให้บานดูมีความน่าสนใจนั้นก็คือการเลือกใช้เฉดสี ด้วยความที่บ้านสไตล์ลักชัวรี่นั้นจะเน้นไปในสีขาวทองแต่หากใช้สีขาวทองก็จะไม่สามารถไล่เฉดสีได้สักเท่าแนะนำว่าหากอยากไล่เฉดสีในบ้านให้มีความสวยงามควรใช้สีเทาเป็นหลักเพราะจะสามารถไล่เฉดสีได้ง่ายและทำให้ห้องดูมีสไตล์และมีมิติมากยิ่งขึ้น.

8. เพิ่มความละมุนของการตกแต่งภายในบ้านด้วยผ้าม่าน

นอกจากการตกแต่งเฉดสีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แน่นอนว่าผ้าม่านก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการทำให้บ้านเป็นสไตล์ลักชัวรี่ได้ แนะนำว่าตัวผ้าม่านที่ใช้ควรเป็นเส้นหรือลายเรียบที่มีเฉดสีเดียวกันไปทั้งพื้น เพื่อให้บ้านมีความเรียบหรูดูแพงและดูมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury7

9. สะท้อนความเรียบหรูในบ้านด้วยงานไม้

สำหรับใครที่ต้องการตกแต่งบ้านให้มีความ Luxury แต่ก็ไม่อยากได้บ้านที่มีสีขาวทองมากเกินไปท่านสามารถใช้งานไม้ชนิดนี้เพื่อสะท้อนความแข็งของวัสดุในบ้านได้โดยงานไม้นั้นจะช่วยให้บ้านดูมีความอบอุ่นและมีความละมุนตาแต่แนะนำว่าหากอยากให้บ้านเป็นสไตล์ลักชัวรี่ควรเลือกงานไม้ที่เป็นเส้นลายไม้ไม่ใหญ่และต้องใช้เฉดสีที่มีความเข้ากันกับตัวบ้านสีต้องไม่โดดเกินไปและไม่ดรอปมากเกินไป.

10. เพิ่มกระจกให้มีความโปร่งสบายในสไตล์แบบ luxury

การเพิ่มกระจกไว้ในบ้านจะทำให้ดูมีความโปร่งโล่งสบายและทำให้ดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้นแต่แนะนำว่ากระจกที่ใช้ควรเป็นวัสดุประเภทคริสตัลหรืออะคริลิคที่มีความแวววาวโดยตัวกระจกนั้นอาจจะเป็นการเลือกติดที่ผนังสักด้านหรือเป็นตัววัสดุตกแต่งบ้านก็ได้เช่นเดียวกัน.

Luxury Style ความหรูหราทันสมัย เสน่ห์ที่น่าหลงใหลในการตกแต่งบ้าน

สำหรับคนที่ชื่นชอบความหรูหราความทันสมัยและความมีเสน่ห์ทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้นนอกจากการตกแต่งบ้านที่ดีบอกเลยว่าควรเน้นในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ดี

มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ข้อสำคัญในการตกแต่งบ้านสไตล์ luxury มี 3 ข้อหลักที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หากขาด 3 ข้อหลักนี้ไปบอกเลยว่าบ้านของท่านอาจจะไม่ตรงใจตามสไตล์ลักชัวรี่ก็เป็นได้.

• การเลือกใช้โทนสี
การเลือกใช้โทนสีในสไตล์ luxury จะเน้นในสีขาวท้องหรือเป็นสีเอิร์ธโทน
ที่มาผสมผสานกันอย่างลงตัวและเพิ่มลูกเล่นความหรูหราด้วยลวดลายหินอ่อนจะทำให้บ้านดูมีสไตล์และมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น

• พื้นที่ภายในบ้านควรมีความโปร่ง
การจัดตกแต่งบ้านหรือการสร้างบ้านในสไตล์รูปแบบนี้จะเน้นในเรื่องของการโชว์ดีไซน์ของบ้านที่มีความสวยงามและมีความเรียบหรูดังนั้นพื้นที่ในบ้านควรมีความโปร่งโล่งสบายจะทำให้เห็นดีไซน์ของบ้านได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

• การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้
ควรเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความมันวาวหรือเป็นแบบกำมะหยี่พอจะช่วยให้ห้องดูมีมิติและดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  BEZEN CERAMIC TILES

10 ไอเดียสร้างบ้านสไตล์ Luxury

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury1
   บ้านที่พักอยู่อาศัยนอกจากความแข็งแรงทนทานและความพร้อมใช้งานในด้านมัลติฟังก์ชั่นแล้วนั้นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้บ้านดูน่าอยู่และมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือสไตล์การตกแต่งของบ้าน โดยในปัจจุบันมีการตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์และหลากหลายรูปแบบ
ซึ่งการตกแต่งบ้านนั้นก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและสไตล์ของผู้อยู่อาศัย สำหรับท่านใดที่กำลังสร้างบ้านใหม่มองหาสไตล์การสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ท่าน
 
   การตกแต่งบ้านสไตล์ luxury นั้นจะเน้นในเรื่องของความเรียบหรู ดูมีสไตล์และมีความสบายตา ส่วนใหญ่การสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้านแนวนี้จะเน้นในเรื่องการใช้สี โดยจะเน้นไปในการใช้สีขาวทองแล้ววัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในการตกแต่งบ้านก็จะเป็นวัสดุที่เป็นประเภทมันวาวมีความระยิบระยับเพื่อสะท้อนความหรูหราและความมีสไตล์ของผู้ที่ตกแต่งบ้าน เพื่อให้ท่านนำไปปรับใช้กับสไตล์การสร้างบ้านของท่านได้เป็นอย่างดี

แจกไอเดียการทำบ้านให้เรียบหรูดูแพงแบบ Luxury

   มาดูกันว่าไอเดียการสร้างบ้านให้เรียบหรูดูแพงในสไตล์ luxury นั้นจะมีรูปแบบการตกแต่งอย่างไรกันบ้างหากอยากได้ความเรียบหรูดูมีสไตล์ในการตกแต่งและการสร้างบ้านเพื่อให้เสริมลุคให้ดูมีออร่าของท่านสะท้อนความเพอร์เฟกต์ของผู้อยู่อาศัยนำไอเดียของเราไปใช้ในการสร้างบ้านและทำบ้านให้เรียบหรูดูแพงได้เลย.
ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury2

1. การสร้างบ้านสไตล์ Luxury ด้วยลวดลายหินอ่อน

แน่นอนว่าความ Luxury กับลวดลายหินอ่อนนั้นย่อมเป็นของคู่กันเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าลวดลายหินอ่อนนั้นมีความทันสมัยมีความหรูหรา และที่สำคัญเมื่อนำมาสร้างบ้านยังช่วยให้บ้านเสริมดูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งโทนสีของลายหินอ่อนนั้นจะช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น.

2. ทำให้บ้านเรียบหรูขึ้นด้วยการใช้เส้นสีทองมาตัด

หากจะใช้แค่ลวดลายหินอ่อนหรือสีขาวแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็อาจจะทำให้บ้านดูไม่ค่อยมีความน่าสนใจสักเท่าไหร่หนัก
ดังนั้นสามารถทำให้บ้านเรียบหรูขึ้นได้โดยการใช้เส้นสีทองมาตัดเป็นพร้อมตกแต่งตามผนังหรือตามชั้น
อีกอย่างการนำเส้นสีทองมาตัดภายในห้องหรือภายในบ้านนั้นจะช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้นดูมีพื้นที่การใช้สอยมากินขึ้นอี
กด้วย.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury3

3. เพิ่มความหรูหราในห้องอาหาร ตกแต่ง บ้าน luxury ด้วยโต๊ะหินอ่อน

หากต้องการให้ห้องโซนรับประทานดูมีความเรียบหรูและมีสไตล์ ตกแต่ง บ้าน luxury มากยิ่งขึ้นเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหารที่หรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยโต๊ะที่ท็อปด้วยวัสดุที่มาในรูปแบบของหินอ่อนพร้อมกับเพิ่มความหรูหราเข้าไปด้วยขาโต๊ะที่ตัดด้วยสีทองนอกจากนั้นในส่วนของเก้าอี้แนะนำให้ใช้เป็นผ้าบุกำมะหยี่ซึ่งเน้นใช้สีขาวทองเป็นหลัก.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury5

4. เพิ่มองค์ประกอบของห้องโดยสีเทาก็ทำให้ห้องหรูหราได้

นอกจากการใช้สีขาวทองเป็นหลักหากจะใช้หมดทั้งบ้านก็คงจะดูไม่ค่อยมีความน่าสนใจเท่าไหร่ดังนั้นหากต้องการเพิ่มจุดในบ้านให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและหรูหราที่เป็นสีเทา ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ชั้นวางของ

หรือสิ่งของที่ใช้ตกแต่งบ้านประเภทอื่นให้ตัดเป็นสีเทาจะทำให้บ้านดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นแนะนำว่าหากใช้สีเทามาเป็นตัวตัดในการตกแต่งบ้านให้ใช้เป็นผ้ากำมะหยี่ที่บุและดึงด้วยกระดุมจะช่วยเพิ่มความเรียบหรูและความน่าสนใจในบ้านมากกว่าเดิม.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury6

5. การสร้างบ้าน ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ luxury ให้ดูมีความอบอุ่น

สำหรับท่านใดที่ต้องการสร้างบ้านให้ดู luxury แต่ยังแฝงไปด้วยความอบอุ่น ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ luxury
แนะนำให้ท่านกลางบ้านหรือตกแต่งบ้านด้วยสีครีมเป็นหลักเพราะสีครีมนั้นจะแฝงไปด้วยความอบอุ่นทำให้บ้านน่าอยู่และที่สำคัญยังมีความสบายตามากยิ่งขึ้นอีกด้วย.

6. เพิ่มลูกเล่นของเฟอร์นิเจอร์หรือบิ้วอินที่มีความแวววาว

แน่นอนว่าหากอยากให้บ้านดูหรูหรามีสไตล์เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ริบบิ้นส่วนใหญ่จะต้องเป็นสิ่งของที่มีความแวววาวระยิบระยับ เราจะช่วยเพิ่มลูกเล่นในบ้านให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น หรือจะประดับแชนเดอเลียร์สวยๆสักอันก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก.

7. การใช้เฉดสีแบบไล่ระดับเข้ม-อ่อน

อีกหนึ่งสิ่งที่ให้บานดูมีความน่าสนใจนั้นก็คือการเลือกใช้เฉดสี ด้วยความที่บ้านสไตล์ลักชัวรี่นั้นจะเน้นไปในสีขาวทองแต่หากใช้สีขาวทองก็จะไม่สามารถไล่เฉดสีได้สักเท่าแนะนำว่าหากอยากไล่เฉดสีในบ้านให้มีความสวยงามควรใช้สีเทาเป็นหลักเพราะจะสามารถไล่เฉดสีได้ง่ายและทำให้ห้องดูมีสไตล์และมีมิติมากยิ่งขึ้น.

8. เพิ่มความละมุนของการตกแต่งภายในบ้านด้วยผ้าม่าน

นอกจากการตกแต่งเฉดสีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แน่นอนว่าผ้าม่านก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการทำให้บ้านเป็นสไตล์ลักชัวรี่ได้ แนะนำว่าตัวผ้าม่านที่ใช้ควรเป็นเส้นหรือลายเรียบที่มีเฉดสีเดียวกันไปทั้งพื้น เพื่อให้บ้านมีความเรียบหรูดูแพงและดูมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น.

ไอเดียบ้านสไตล์ Luxury7

9. สะท้อนความเรียบหรูในบ้านด้วยงานไม้

สำหรับใครที่ต้องการตกแต่งบ้านให้มีความ Luxury แต่ก็ไม่อยากได้บ้านที่มีสีขาวทองมากเกินไปท่านสามารถใช้งานไม้ชนิดนี้เพื่อสะท้อนความแข็งของวัสดุในบ้านได้โดยงานไม้นั้นจะช่วยให้บ้านดูมีความอบอุ่นและมีความละมุนตาแต่แนะนำว่าหากอยากให้บ้านเป็นสไตล์ลักชัวรี่ควรเลือกงานไม้ที่เป็นเส้นลายไม้ไม่ใหญ่และต้องใช้เฉดสีที่มีความเข้ากันกับตัวบ้านสีต้องไม่โดดเกินไปและไม่ดรอปมากเกินไป.

10. เพิ่มกระจกให้มีความโปร่งสบายในสไตล์แบบ luxury

การเพิ่มกระจกไว้ในบ้านจะทำให้ดูมีความโปร่งโล่งสบายและทำให้ดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้นแต่แนะนำว่ากระจกที่ใช้ควรเป็นวัสดุประเภทคริสตัลหรืออะคริลิคที่มีความแวววาวโดยตัวกระจกนั้นอาจจะเป็นการเลือกติดที่ผนังสักด้านหรือเป็นตัววัสดุตกแต่งบ้านก็ได้เช่นเดียวกัน.

Luxury Style ความหรูหราทันสมัย เสน่ห์ที่น่าหลงใหลในการตกแต่งบ้าน

สำหรับคนที่ชื่นชอบความหรูหราความทันสมัยและความมีเสน่ห์ทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้นนอกจากการตกแต่งบ้านที่ดีบอกเลยว่าควรเน้นในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ดี

มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ข้อสำคัญในการตกแต่งบ้านสไตล์ luxury มี 3 ข้อหลักที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หากขาด 3 ข้อหลักนี้ไปบอกเลยว่าบ้านของท่านอาจจะไม่ตรงใจตามสไตล์ลักชัวรี่ก็เป็นได้.

• การเลือกใช้โทนสี
การเลือกใช้โทนสีในสไตล์ luxury จะเน้นในสีขาวท้องหรือเป็นสีเอิร์ธโทน
ที่มาผสมผสานกันอย่างลงตัวและเพิ่มลูกเล่นความหรูหราด้วยลวดลายหินอ่อนจะทำให้บ้านดูมีสไตล์และมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น

• พื้นที่ภายในบ้านควรมีความโปร่ง
การจัดตกแต่งบ้านหรือการสร้างบ้านในสไตล์รูปแบบนี้จะเน้นในเรื่องของการโชว์ดีไซน์ของบ้านที่มีความสวยงามและมีความเรียบหรูดังนั้นพื้นที่ในบ้านควรมีความโปร่งโล่งสบายจะทำให้เห็นดีไซน์ของบ้านได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

• การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้
ควรเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความมันวาวหรือเป็นแบบกำมะหยี่พอจะช่วยให้ห้องดูมีมิติและดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

ทิศทางลมกับบ้าน ก่อนซื้อบ้านควรรู้

ทิศทางลมกับบ้าน ก่อนซื้อบ้าน ปลูกบ้าน ควรรู้

ทิศทางลมกับบ้าน
ลม ทิศทางลม เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คนที่กำลังซื้อบ้านหรือจะสร้างบ้าน ควรรู้เรื่องของลมไว้ เพราะจะช่วยให้เราสามารถเลือกทิศทางการวางประตู หน้าต่าง หันหน้าบ้านไปทางใหน และการจัดสรรพื้นที่แบบใหนถึงจะดี
เมื่อเรารู้จักทิศทางของลมแล้ว เราก็จะสามารถจัดวางพื้นที่ได้ถูกต้อง ส่งผลให้บ้านเย็นสบาย อากาศถ่ายเทดี ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน และบ้านเราก็จะหน้าอยู่มากขึ้น
ทิศทางลม01

ทิศทางลมในแต่ละฤดู

1. ฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ลมจะพัดมาทางทิศใต้ ถือว่าเป็นลมที่ดี ช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้
การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศใต้ ถือเป็นทิศที่ดี เพราะเป็นทิศที่มีลมพัดเข้าบ้านตลอด จึงควรเปิดหน้าบ้านให้โล่ง เพื่อดึงลมเข้าบ้านให้มากที่สุด รวมทั้งไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่บังหน้าบ้าน เพราะจะเป็นการบังทิศทางลม หากพื้นที่หน้าบ้านกว้างควรขุดบ่อน้ำ หรือทำสระน้ำไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ลดพัดความเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน.
2. ฤดูฝน (ช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน) ลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมนี้เรียกว่า “ลมมรสุม”
การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้รับอิทธิพลของลมมากที่สุด หากในแง่ของการวางทิศบ้านให้ถูกทิศทางลมแล้ว ถือว่าทิศนี้รับลมได้ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือบ้านตั้งอยู่ในแนวลมมรสุม ซึ่งเสี่ยงต่อการที่บ้านจะเสียหายจากลมพายุได้ง่ายเมื่อเกิดพายุฝน ควรหาต้นไม้ใหญ่หรือแนวกำแพงเพื่อป้องกันลมมรสุมในทิศนี้แต่ต้องเว้นระยะห่างจากตัวบ้านด้วย.
3. ฤดูหนาว (ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์) ทิศทางลมจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า “ลมหนาว”
แนะนำเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนจนเกินไป ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา และรับลมเย็นในช่วงหน้าหนาว.

ทางเข้า-ออกของลมที่เข้ามาในบ้าน

เมื่อลมเข้ามาในตัวบ้านแนะนำว่าต้องมีทางออกของลมด้วยเพื่อให้เกิดอากาศที่หมุนเวียนภายในบ้านซึ่งหากเป็นในห้องก็ต้องมีประตูหน้าต่างเพื่อให้ลมได้หมุนเวียน

ทิศทางลม02

ใช้อุปกรณ์ระบายความร้อน พัดลมระบายความร้อน

และในกรณีที่เราไปซื้อบ้านหรือคอนโดที่ในสถานการณ์จริงเราอาจจะเลือกทำเลไม่ได้ และไม่สามารถเจาะหรือแก้ไขพื้นที่นั้นๆไม่ได้แล้ว ให้ใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนช่วย เช่นลูกหมุนระบายอากาศ เครื่องดูดอากาศ หรือพัดลม ช่วยระบายลมร้อนออกจากบ้านและเมื่อลมร้อนออกไปลมเย็นจะเข้ามาทดแทน ช่วยให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น.

ทิศทางลม03

ขอบคุณข้อมูล : https://www.baanlaesuan.com
                        https://www.ddproperty.com
                        ช่อง คุยกับลุงช่าง

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องพอร์ซเลนไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES

ทิศทางลมกับบ้าน ก่อนซื้อบ้าน ปลูกบ้าน ควรรู้

ทิศทางลมกับบ้าน
ลม ทิศทางลม เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คนที่กำลังซื้อบ้านหรือจะสร้างบ้าน ควรรู้เรื่องของลมไว้ เพราะจะช่วยให้เราสามารถเลือกทิศทางการวางประตู หน้าต่าง หันหน้าบ้านไปทางใหน และการจัดสรรพื้นที่แบบใหนถึงจะดี
เมื่อเรารู้จักทิศทางของลมแล้ว เราก็จะสามารถจัดวางพื้นที่ได้ถูกต้อง ส่งผลให้บ้านเย็นสบาย อากาศถ่ายเทดี ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน และบ้านเราก็จะหน้าอยู่มากขึ้น
ทิศทางลม01

ทิศทางลมในแต่ละฤดู

1. ฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ลมจะพัดมาทางทิศใต้ ถือว่าเป็นลมที่ดี ช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้
การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศใต้ ถือเป็นทิศที่ดี เพราะเป็นทิศที่มีลมพัดเข้าบ้านตลอด จึงควรเปิดหน้าบ้านให้โล่ง เพื่อดึงลมเข้าบ้านให้มากที่สุด รวมทั้งไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่บังหน้าบ้าน เพราะจะเป็นการบังทิศทางลม หากพื้นที่หน้าบ้านกว้างควรขุดบ่อน้ำ หรือทำสระน้ำไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ลดพัดความเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน.
2. ฤดูฝน (ช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน) ลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมนี้เรียกว่า “ลมมรสุม”
การวางทิศบ้านให้หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้รับอิทธิพลของลมมากที่สุด หากในแง่ของการวางทิศบ้านให้ถูกทิศทางลมแล้ว ถือว่าทิศนี้รับลมได้ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือบ้านตั้งอยู่ในแนวลมมรสุม ซึ่งเสี่ยงต่อการที่บ้านจะเสียหายจากลมพายุได้ง่ายเมื่อเกิดพายุฝน ควรหาต้นไม้ใหญ่หรือแนวกำแพงเพื่อป้องกันลมมรสุมในทิศนี้แต่ต้องเว้นระยะห่างจากตัวบ้านด้วย.
3. ฤดูหนาว (ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์) ทิศทางลมจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า “ลมหนาว”
แนะนำเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนจนเกินไป ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา และรับลมเย็นในช่วงหน้าหนาว.

ทางเข้า-ออกของลมที่เข้ามาในบ้าน

เมื่อลมเข้ามาในตัวบ้านแนะนำว่าต้องมีทางออกของลมด้วยเพื่อให้เกิดอากาศที่หมุนเวียนภายในบ้านซึ่งหากเป็นในห้องก็ต้องมีประตูหน้าต่างเพื่อให้ลมได้หมุนเวียน

ทิศทางลม02

ใช้อุปกรณ์ระบายความร้อน พัดลมระบายความร้อน

และในกรณีที่เราไปซื้อบ้านหรือคอนโดที่ในสถานการณ์จริงเราอาจจะเลือกทำเลไม่ได้ และไม่สามารถเจาะหรือแก้ไขพื้นที่นั้นๆไม่ได้แล้ว ให้ใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนช่วย เช่นลูกหมุนระบายอากาศ เครื่องดูดอากาศ หรือพัดลม ช่วยระบายลมร้อนออกจากบ้านและเมื่อลมร้อนออกไปลมเย็นจะเข้ามาทดแทน ช่วยให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น.

ทิศทางลม03

ขอบคุณข้อมูล : https://www.baanlaesuan.com
                        https://www.ddproperty.com
                        ช่อง คุยกับลุงช่าง

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องพอร์ซเลนไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  BEZEN CERAMIC TILES