ค่า R กระเบื้องคืออะไร? สำคัญยังไง?

ค่า R ของกระเบื้อง (1)

ค่า R กระเบื้องคืออะไร? สำคัญยังไง?

 

   โดยปกติแล้วการจะเลือกกระเบื้องมาใช้ปูพื้นและผนังบ้าน หรือใช้ในสถานที่ต่างๆ หลายคนอาจให้ความสำคัญในเรื่องของขนาด สีสัน ลวดลาย และความสวยงามเป็นหลัก เนื่องจากองค์ประกอบดังกล่าวเป็นลักษณะภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งสามารถใช้ตกแต่งพื้นที่ให้มีความสวยงามและสร้างความโดดเด่นในสไตล์ต่างๆ ได้อีกด้วย เช่นนี้เองจึงทำให้ใครหลายคนเลือกลักษณะภายนอกของกระเบื้องเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการเลือกกระเบื้องมาใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นหรือผนังในห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ใดก็ตามแต่ นอกจากขนาด สีสันและลวดลายแล้ว อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ควรคำนึงถึงก็คือ ค่ากันความลื่น หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “ค่า R” นั่นเอง ซึ่งบทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับค่า R ของกระเบื้อง มาดูกันว่าค่าดังกล่าวคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับการเลือกกระเบื้อง

 

ค่า R คืออะไร?

    ค่า R ในกระเบื้อง หรือ SLIP RESISTANCE RATING ที่แปลว่า ค่ากันความลื่นเป็นค่าที่ได้มา จากการทดสอบ Ramp Test โดยการปูกระเบื้องบนทางลาดชันในระดับองศาที่ต่างกัน เพื่อ ทดสอบความกันลื่นของพื้นผิวกระเบื้อง ซึ่งถ้าหาก องศาความลาดชันเพิ่มขึ้น ระดับของค่า R ของแต่ละพื้นผิวจะสูงขึ้นตามไปด้วย โดยมีการแบ่งระดับของค่า R กระเบื้องตามระดับองศาและ พื้นที่การใช้งานไว้ตามระดับต่างๆ 

   โดยส่วนใหญ่ที่จะเห็นกันอยู่ที่ R9-R13 ค่า R ยิ่งสูงก็ยิ่งกันลื่นได้ดี แต่ไม่ได้แปลว่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีนะ เพราะสำหรับการใช้งาน เราควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R ที่เหมาะสมไม่ใช่ค่า R เยอะเพียงอย่างเดียว เข้าใจตรงกันนะทุกคน.

 

แล้วค่า R สำคัญยังไงกับการเลือกกระเบื้อง?

เมื่อเราทราบแล้วว่าค่า R คือค่ากันความลื่นซึ่งหมายถึงว่าค่า R นั้นจะสามารถบอกเราได้ว่ากระเบื้องที่เราจะซื้อนั้นเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แบบใหน

  • กระเบื้องที่มีค่า R สูง โดยส่วนมากจะอยู่ที่ R11 – R13 จะเหมาะกับพื้นที่ที่มีความลื่นมาก เช่น พื้นที่เปียกน้ำ ห้องน้ำ รอบสระน้ำ พื้นที่หน้าบ้าน ทางลาดชัน ลานจอดรถ หรือพื้นที่ต้องโดนน้ำมันหรือไขมัน พื้นที่พวกนี้จำเป็นต้องใช้กระเบื้องที่มีความหยาบของกระเบื้องสูงเพราะจะช่วยให้ คนที่ใช้งานพื้นที่นั้นๆ ไม่ลื่นเวลาเดิน หรือ อย่างพื้นที่จอดรถหากเราใช้กระเบื้องที่มีค่า R ต่ำ เวลาที่โดนน้ำจะทำให้ยางรถไม่เกาะพื้นและทำให้เสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้.

 •  กระเบื้องที่มีค่า R ต่ำ อยู่ที่ R10 ลงไป กระเบื้องที่มีค่า R ต่ำจะเหมาะกับพื้นที่แห้งไม่โดนน้ำ เช่น พื้นที่ห้องโถง ห้องรับแขก ห้องนอน ทางเดิน หรือพื้นที่ในอาคารที่ไม่เปียกน้ำ ผิวหน้าจะมีความเรียบ เวลาถอดรองเท้าเดินจะให้ความสบายเท้า ไม่รู้สึกสาก กระด้าง 

   ส่วนจะเลือกเท่าไหร่นั้น ให้เราตัดสินใจเอาเองว่าเมื่อดูสินค้าจริงแล้ว ลองเทสดูแล้วค่า R ประมาณใหนที่เรารู้สึกว่าเพียงพอกับการใช้งานของเรา เราก็สามารถเลือกได้เลย.

ค่า R ของกระเบื้อง (3)

ประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเลือกกระเบื้องได้เหมาะสม

     • ความปลอดภัยในการใช้งาน

เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะหากเราใช้งานกระเบื้องผิดประเภท เอากระเบื้องลื่นๆมาใช้ในพื้นที่ที่มีความลื่นมาก อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาซึ่งอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้เลย ฉะนัั้นควรเลือกให้เหมาะสม.

     • ประหยัดงบประมาณ

เพราะหากเราเลือกกระเบื้องผิด แล้วไม่สามารถใช้งานได้สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการปูกระเบื้องใหม่ ซึ่งจะทำให้เราเสียเงินเสียเวลาแน่นอน
และอีกเรื่องคือหากเกิดอุบัติเหตุเราต้องมีค่ารักษาพยาบาลอีก ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องเสียหากเราเลือกกระเบื้องมาดีแล้วตั้งแต่แรก.

     ฉะนั้นการเลือกกระเบื้องที่มีค่า R ที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะมีผลกับการเกิดอุบัติเหตุในการใช้งานได้ และถึงแม้ว่าเราเลือกกระเบื้องที่มีค่า R เหมาะสมแล้วแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีการลื่นเลย แต่กระเบื้องที่มีความหยาบมากก็จะมีโอกาสลื่นน้อยกว่าแบบเรียบๆ อีกเรื่องก็คือการดูแลความสะอาด เราควรทำความสะอาดพื้นอยู่เสมอไม่ปล่อยให้เกิดคราบสะสม คราบตะไคร่ เพราะจะทำให้กระเบื้องลื่นได้เช่นกัน.

     ใครที่อยากใช้กระเบื้องพื้นที่มีค่า R สูงและคุณภาพดี กระเบื้องพื้นของทางบีเซนเรามีค่า R สูงถึง R12 เป็นกระเบื้องเนื้อพอร์ซเลน ดูดซึมน้ำต่ำ และยังรับประกันไม่เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องตลอดอายุการใช้งาน ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการกระเบื้องคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://bit.ly/40Bjw9G

  กระเบื้องบีเซน
โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
ค่า R ของกระเบื้อง (1)

ค่า R กระเบื้องคืออะไร? สำคัญยังไง?

   โดยปกติแล้วการจะเลือกกระเบื้องมาใช้ปูพื้นและผนังบ้าน หรือใช้ในสถานที่ต่างๆ หลายคนอาจให้ความสำคัญในเรื่องของขนาด สีสัน ลวดลาย และความสวยงามเป็นหลัก เนื่องจากองค์ประกอบดังกล่าวเป็นลักษณะภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งสามารถใช้ตกแต่งพื้นที่ให้มีความสวยงามและสร้างความโดดเด่นในสไตล์ต่างๆ ได้อีกด้วย เช่นนี้เองจึงทำให้ใครหลายคนเลือกลักษณะภายนอกของกระเบื้องเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการเลือกกระเบื้องมาใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นหรือผนังในห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ใดก็ตามแต่ นอกจากขนาด สีสันและลวดลายแล้ว อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ควรคำนึงถึงก็คือ ค่ากันความลื่น หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “ค่า R” นั่นเอง ซึ่งบทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับค่า R ของกระเบื้อง มาดูกันว่าค่าดังกล่าวคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับการเลือกกระเบื้อง

 

ค่า R คืออะไร?

    ค่า R ในกระเบื้อง หรือ SLIP RESISTANCE RATING ที่แปลว่า ค่ากันความลื่นเป็นค่าที่ได้มา จากการทดสอบ Ramp Test โดยการปูกระเบื้องบนทางลาดชันในระดับองศาที่ต่างกัน เพื่อ ทดสอบความกันลื่นของพื้นผิวกระเบื้อง ซึ่งถ้าหาก องศาความลาดชันเพิ่มขึ้น ระดับของค่า R ของแต่ละพื้นผิวจะสูงขึ้นตามไปด้วย โดยมีการแบ่งระดับของค่า R กระเบื้องตามระดับองศาและ พื้นที่การใช้งานไว้ตามระดับต่างๆ 

   โดยส่วนใหญ่ที่จะเห็นกันอยู่ที่ R9-R13 ค่า R ยิ่งสูงก็ยิ่งกันลื่นได้ดี แต่ไม่ได้แปลว่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีนะ เพราะสำหรับการใช้งาน เราควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R ที่เหมาะสมไม่ใช่ค่า R เยอะเพียงอย่างเดียว เข้าใจตรงกันนะทุกคน.

แล้วค่า R สำคัญยังไงกับการเลือกกระเบื้อง?

เมื่อเราทราบแล้วว่าค่า R คือค่ากันความลื่นซึ่งหมายถึงว่าค่า R นั้นจะสามารถบอกเราได้ว่ากระเบื้องที่เราจะซื้อนั้นเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แบบใหน

  • กระเบื้องที่มีค่า R สูง โดยส่วนมากจะอยู่ที่ R11 – R13 จะเหมาะกับพื้นที่ที่มีความลื่นมาก เช่น พื้นที่เปียกน้ำ ห้องน้ำ รอบสระน้ำ พื้นที่หน้าบ้าน ทางลาดชัน ลานจอดรถ หรือพื้นที่ต้องโดนน้ำมันหรือไขมัน พื้นที่พวกนี้จำเป็นต้องใช้กระเบื้องที่มีความหยาบของกระเบื้องสูงเพราะจะช่วยให้ คนที่ใช้งานพื้นที่นั้นๆ ไม่ลื่นเวลาเดิน หรือ อย่างพื้นที่จอดรถหากเราใช้กระเบื้องที่มีค่า R ต่ำ เวลาที่โดนน้ำจะทำให้ยางรถไม่เกาะพื้นและทำให้เสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้.

 •  กระเบื้องที่มีค่า R ต่ำ อยู่ที่ R10 ลงไป กระเบื้องที่มีค่า R ต่ำจะเหมาะกับพื้นที่แห้งไม่โดนน้ำ เช่น พื้นที่ห้องโถง ห้องรับแขก ห้องนอน ทางเดิน หรือพื้นที่ในอาคารที่ไม่เปียกน้ำ ผิวหน้าจะมีความเรียบ เวลาถอดรองเท้าเดินจะให้ความสบายเท้า ไม่รู้สึกสาก กระด้าง 

   ส่วนจะเลือกเท่าไหร่นั้น ให้เราตัดสินใจเอาเองว่าเมื่อดูสินค้าจริงแล้ว ลองเทสดูแล้วค่า R ประมาณใหนที่เรารู้สึกว่าเพียงพอกับการใช้งานของเรา เราก็สามารถเลือกได้เลย.

ค่า R ของกระเบื้อง (3)

ประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเลือกกระเบื้องได้เหมาะสม

     • ความปลอดภัยในการใช้งาน

เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะหากเราใช้งานกระเบื้องผิดประเภท เอากระเบื้องลื่นๆมาใช้ในพื้นที่ที่มีความลื่นมาก อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาซึ่งอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้เลย ฉะนัั้นควรเลือกให้เหมาะสม.

     • ประหยัดงบประมาณ

เพราะหากเราเลือกกระเบื้องผิด แล้วไม่สามารถใช้งานได้สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการปูกระเบื้องใหม่ ซึ่งจะทำให้เราเสียเงินเสียเวลาแน่นอน
และอีกเรื่องคือหากเกิดอุบัติเหตุเราต้องมีค่ารักษาพยาบาลอีก ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องเสียหากเราเลือกกระเบื้องมาดีแล้วตั้งแต่แรก.

     ฉะนั้นการเลือกกระเบื้องที่มีค่า R ที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะมีผลกับการเกิดอุบัติเหตุในการใช้งานได้ และถึงแม้ว่าเราเลือกกระเบื้องที่มีค่า R เหมาะสมแล้วแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีการลื่นเลย แต่กระเบื้องที่มีความหยาบมากก็จะมีโอกาสลื่นน้อยกว่าแบบเรียบๆ อีกเรื่องก็คือการดูแลความสะอาด เราควรทำความสะอาดพื้นอยู่เสมอไม่ปล่อยให้เกิดคราบสะสม คราบตะไคร่ เพราะจะทำให้กระเบื้องลื่นได้เช่นกัน.

     ใครที่อยากใช้กระเบื้องพื้นที่มีค่า R สูงและคุณภาพดี กระเบื้องพื้นของทางบีเซนเรามีค่า R สูงถึง R12 เป็นกระเบื้องเนื้อพอร์ซเลน ดูดซึมน้ำต่ำ และยังรับประกันไม่เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องตลอดอายุการใช้งาน ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการกระเบื้องคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://bit.ly/40Bjw9G

  กระเบื้องบีเซน
โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

ยาแนวกระเบื้องเพื่ออะไร? 10 เหตุผลทำไมคุณต้องยาแนวกระเบื้อง

ยาแนวกระเบื้อง (1)

ยาแนวกระเบื้องเพื่ออะไร? 10 เหตุผลทำไมคุณต้องยาแนวกระเบื้อง

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเมื่อปูกระเบื้องทุกครั้งต้องมีการยาแนวกระเบื้อง แล้วต้องยาแนวเพื่ออะไรในเมื่อตัวกระเบื้องนั้นก็มีการฉาบปูนและปิดทับลงไปที่พื้นเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านมารู้จักกับเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อปูกระเบื้องต้องมีการยาแนวกระเบื้องทุกครั้ง จะพาทุกท่านมาคลายทุกข์ข้อสงสัยและหาเหตุผลว่าทำไมจึงต้องปูกระเบื้องแล้วต้องยาแนวกระเบื้อง เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วท่านจะต้องเข้าใจไม่มีสิ่งใดมาติดขัดในด้านความสงสัยของทุกท่านอย่างแน่นอน การยาแนวกระเบื้องในปัจจุบันบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่ายเป็นอย่างมาก แม้ไม่ใช่ช่างที่มีความชำนาญการไม่ใช่ช่างมืออาชีพก็สามารถทำได้

 

ยาแนวคืออะไรทำไมต้องนำมาใช้เมื่อปูกระเบื้อง

     การยาแนวกระเบื้องหรือการยาแนวร่องเป็นขั้นตอนหนึ่งในขั้นตอนที่เมื่อมีการปูกระเบื้องแล้วจะต้องมีการปิดท้ายการยาแนวทุกครั้ง ทายาแนวนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านโครงสร้างของการใช้งานการสร้างบ้านให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ช่วยรองรับการยืดหยุ่นของกระเบื้อง และช่วยยึดติดกระเบื้องไม่ให้แตกหักออกจากกันได้ง่าย นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านโครงสร้างของตัวกระเบื้องแล้วนั้น ยังทำให้บ้านมีความสวยงาม และสามารถใช้กระเบื้องได้อย่างทนทานยาวนานมากยิ่งขึ้น การปูกระเบื้องพื้นส่วนใหญ่จะมีการยาแนว แต่ในงานผนังบางครั้งเราก็ไม่ยาแนว ขึ้นอยู่กับลักษณะของกระเบื้องที่เราใช้ด้วย อย่างของกระเบื้องบีเซนในบางรุ่นของเราก็ไม่ต้องยาแนว

ประเภทของมีกี่แบบและใช้งานแตกต่างอย่างไร

บอกเลยว่ายาแนวนั้นมีหลายประเภทเป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านมารู้จักกับประเภทของยาแล้วกระเบื้องว่ามีกี่ประเภทและใช้งานแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้จะสามารถนำไปปรับใช้กับการปูกระเบื้องของท่านได้ด้วยตัวของท่านเอง

 

  • ยาแนวกระเบื้องประเภทแบบกันเชื้อรา

โดยยาแนวในรูปแบบนี้นิยมใช้กับกระเบื้องผนังโดยทั่วไป ซึ่งตัวยาแนวจะมีสารเคมีที่มีประสิทธิภาพในด้านการป้องกันเชื้อราได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อราได้อีกด้วย ราคาของยาแนวประเภทนี้จะมีราคาที่สูงแต่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเพราะว่าทำความสะอาดง่ายและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกันเลยทีเดียว ประสิทธิภาพในการใช้งานยาวนานและคงทนขณะนี้บอกเลยว่าราคาเท่าไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหา

  • ยาแนวกระเบื้อง ประเภทกระเบื้องแบบร่องใหญ่

การเลือก ยาแนวกระเบื้อง ประเภทนี้ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบของการเลือกยาแนวที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก โดยเนื้อยาแนวที่ใช้กับกระเบื้องประเภทร่องใหญ่จะใช้ยาแนวที่เป็นเนื้อหยาบ ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กระเบื้องได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและช่วยเติมเต็มร่องกระเบื้องให้มีความสมบูรณ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยยาแนวประเภทนี้จะเหมาะกับการใช้งานในการปูกระเบื้องแผ่นใหญ่หรือขนาดใหญ่เพราะจะช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้งานยาวนานและมีความทนทานเป็นอย่างมาก

  • ยาแนวกระเบื้องยาแนวประเภทร่องเล็ก

การเลือกใช้ยาแนวประเภทกระเบื้องที่เป็นแบบร่องเล็กนี้แนะนำว่าควรใช้ยาแนวที่มีลักษณะเป็นเนื้อเหลว เพราะจะช่วยเติมเต็มร่องเล็กได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ยาแนวกระเบื้องประเภทนี้จะนิยมใช้กับกระเบื้องหินอ่อนเพราะจะสามารถทำการยาแนวตรงจุดช่องว่างได้เป็นอย่างนี้ ทำให้ตัวกระเบื้องมีประสิทธิภาพในด้านการใช้งานที่สูงมากยิ่งขึ้น

  • ยาแนวกระเบื้องประเภทธรรมดา

ยาแนวกระเบื้องในรูปแบบนี้สามารถใช้งานได้กับกระเบื้องประเภททั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้นผนัง ซึ่งกระเบื้องตัวนี้จะมีราคาที่ถูกและประหยัดเป็นอย่างมาก ข้อเสียคือจะไม่ป้องกันการรั่วซึมหรือไม่สามารถป้องกันเชื้อราต่าง ๆ ได้หรือหากป้องกันได้ก็สามารถป้องกันได้น้อยมาก

  • ยาแนวกระเบื้องประเภท Epoxy

ยาแนวประเภทนี้ค่อนข้างมีราคาสูงแต่มาพร้อมคุณภาพแบบจัดเต็ม นิยมใช้ในห้องน้ำหรือห้องครัวเพราะสามารถป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังป้องกันการรั่วซึมได้สูงเป็นอย่างมาก ทำให้มีความทนทานในด้านการใช้งานและมีความแข็งแรงสูงเป็นอย่างมาก ตอบโจทย์การใช้งานกับพื้นที่ที่ต้องพบเจอกับน้ำบ่อย

  • ยาแนวกระเบื้องประเภททนแรงอัดน้ำ

ยาแนวประเภทนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่นิยมใช้ในห้องน้ำ จะทนแรงอัดในการใช้งานได้ดียิ่งกว่าประเภท Epoxy เนื่องจากว่าตัวนี้จะนิยมใช้ใน ซาวน่า บ่อน้ำหรือสระว่ายน้ำ มีความทนทานสูงเป็นอย่างมากและที่สำคัญยังลดการเกิดเชื้อราต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

  • ยาแนวกระเบื้องประเภทหลอดสำเร็จรูป

ยาแนวประเภทนี้มีการบรรจุและผสมมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพิ่มความสะดวกสบายในด้านการใช้งานให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ยาแนวประเภทนี้จะไม่นิยมนำมายาแนวกระเบื้องที่ปูเสร็จใหม่ จะนำมาซ่อมแซมหรืออุดรูส่วนที่สึกหรอไปนั่นเอง

เมื่อได้รู้จักกับประเภทของยาแนวแล้วก็อย่าลืมเลือกใช้ให้ถูกต้องตามประเภทของการใช้งานและประเภทห้องของท่านด้วย เพื่ออายุในการใช้งานที่ยาวนานของกระเบื้องและยาแนวของท่าน

ยาแนวกระเบื้อง (2)

10 เหตุผลที่เมื่อปูกระเบื้องต้องทำการใช้ยาแนวทุกครั้ง

 

เหตุผลทำไมเมื่อปูกระเบื้องแล้วต้องการทำการยาแนวกระเบื้องทุกครั้ง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูเหตุผลของการยาแนวกระเบื้องกัน

 

  1. ป้องกันกระเบื้องระเบิด โดยหากปูกระเบื้องแล้วไม่มีการยาแนวมีโอกาสสูงมากที่กระเบื้องจะระเบิดและอาจทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยภายในบ้านเกิดอาการบาดเจ็บได้
  2. ป้องกันกระเบื้องแตกร้าว การยาแนวกระเบื้องจะช่วยให้กระเบื้องนั้นลดความเสี่ยงในการแตกร้าวและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างยาวนาน
  3. ช่วยเพิ่มความสวยงามให้พื้นบ้าน หากพื้นบ้านที่ไม่มีการยาแนวก็ดูเหมือนจะไม่เสร็จสิ้นและมีช่องว่างที่ดูไม่สวยงามตาสักเท่าไหร่ การยาแนวจึงช่วยได้
  4. ช่วยลดการสะสมสิ่งสกปรก ช่องว่างของการปูกระเบื้องหากไม่มีการยาแนวบอกเลยว่านั่นคือแหล่งสะสมความสกปรกชั้นดี ดังนั้นเมื่อมีการย้ายแล้วจะช่วยลดในส่วนนี้ได้
  5. ช่วยลดการเกิดเชื้อราในกระเบื้อง ภายใต้กระเบื้องหากไม่มีการยาแนวอาจจะทำให้เกิดเชื้อราและตัวกระเบื้องอาจจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานลดลง
  6. ช่วยป้องกันการรั่วซึมของพื้น การยาแนวกระเบื้องนอกจากจะได้ความสวยงามแล้วยังช่วยป้องกันการรั่วซึมของพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวห้องน้ำ
  7. ช่วยป้องกันผู้คนจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ บางทีการมีช่องว่างระหว่างกระเบื้องที่ไม่ได้ยาแนวนั้นอาจเป็นแหล่งที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้รับเชิญ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง หรือสัตว์ร้ายชนิดอื่นอีกมากมาย
  8. ช่วยให้กระเบื้องใช้งานได้อย่างทนทาน เมื่อมีการยาแนวกระเบื้องก็จะทำให้กระเบื้องใช้งานได้อย่างทนทานเพราะเป็นการเก็บขอบกระเบื้องทำให้ไม่แตกหักไว
  9. ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย เมื่อมีการยาแนวไม่มีร่องของกระเบื้องก็จะทำให้การทำความสะอาดนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น
  10. ช่วยลดการเกิดน้ำขัง การยาแนวกระเบื้องสามารถช่วยลดการเกิดน้ำขังได้ เช่น ในห้องน้ำหรือห้องครัวหากมีการใช้น้ำแล้วไม่ได้ยาแนวกระเบื้องน้ำอาจจะขังในร่องกระเบื้องที่ปูก็เป็นได้

 

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  กระเบื้องบีเซน
ยาแนวกระเบื้อง (1)

ยาแนวกระเบื้องเพื่ออะไร? 10 เหตุผลทำไมคุณต้องยาแนวกระเบื้อง

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเมื่อปูกระเบื้องทุกครั้งต้องมีการยาแนวกระเบื้อง แล้วต้องยาแนวเพื่ออะไรในเมื่อตัวกระเบื้องนั้นก็มีการฉาบปูนและปิดทับลงไปที่พื้นเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านมารู้จักกับเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อปูกระเบื้องต้องมีการยาแนวกระเบื้องทุกครั้ง จะพาทุกท่านมาคลายทุกข์ข้อสงสัยและหาเหตุผลว่าทำไมจึงต้องปูกระเบื้องแล้วต้องยาแนวกระเบื้อง เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วท่านจะต้องเข้าใจไม่มีสิ่งใดมาติดขัดในด้านความสงสัยของทุกท่านอย่างแน่นอน การยาแนวกระเบื้องในปัจจุบันบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่ายเป็นอย่างมาก แม้ไม่ใช่ช่างที่มีความชำนาญการไม่ใช่ช่างมืออาชีพก็สามารถทำได้

ยาแนวคืออะไรทำไมต้องนำมาใช้เมื่อปูกระเบื้อง

     การยาแนวกระเบื้องหรือการยาแนวร่องเป็นขั้นตอนหนึ่งในขั้นตอนที่เมื่อมีการปูกระเบื้องแล้วจะต้องมีการปิดท้ายการยาแนวทุกครั้ง ทายาแนวนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านโครงสร้างของการใช้งานการสร้างบ้านให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ช่วยรองรับการยืดหยุ่นของกระเบื้อง และช่วยยึดติดกระเบื้องไม่ให้แตกหักออกจากกันได้ง่าย นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านโครงสร้างของตัวกระเบื้องแล้วนั้น ยังทำให้บ้านมีความสวยงาม และสามารถใช้กระเบื้องได้อย่างทนทานยาวนานมากยิ่งขึ้น การปูกระเบื้องพื้นส่วนใหญ่จะมีการยาแนว แต่ในงานผนังบางครั้งเราก็ไม่ยาแนว ขึ้นอยู่กับลักษณะของกระเบื้องที่เราใช้ด้วย อย่างของกระเบื้องบีเซนในบางรุ่นของเราก็ไม่ต้องยาแนว

ประเภทของมีกี่แบบและใช้งานแตกต่างอย่างไร

บอกเลยว่ายาแนวนั้นมีหลายประเภทเป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านมารู้จักกับประเภทของยาแล้วกระเบื้องว่ามีกี่ประเภทและใช้งานแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้จะสามารถนำไปปรับใช้กับการปูกระเบื้องของท่านได้ด้วยตัวของท่านเอง

     ยาแนวกระเบื้องประเภทแบบกันเชื้อรา

โดยยาแนวในรูปแบบนี้นิยมใช้กับกระเบื้องผนังโดยทั่วไป ซึ่งตัวยาแนวจะมีสารเคมีที่มีประสิทธิภาพในด้านการป้องกันเชื้อราได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อราได้อีกด้วย ราคาของยาแนวประเภทนี้จะมีราคาที่สูงแต่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเพราะว่าทำความสะอาดง่ายและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกันเลยทีเดียว ประสิทธิภาพในการใช้งานยาวนานและคงทนขณะนี้บอกเลยว่าราคาเท่าไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหา

     ยาแนวกระเบื้อง ประเภทกระเบื้องแบบร่องใหญ่

การเลือก ยาแนวกระเบื้อง ประเภทนี้ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบของการเลือกยาแนวที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก โดยเนื้อยาแนวที่ใช้กับกระเบื้องประเภทร่องใหญ่จะใช้ยาแนวที่เป็นเนื้อหยาบ ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กระเบื้องได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและช่วยเติมเต็มร่องกระเบื้องให้มีความสมบูรณ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยยาแนวประเภทนี้จะเหมาะกับการใช้งานในการปูกระเบื้องแผ่นใหญ่หรือขนาดใหญ่เพราะจะช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้งานยาวนานและมีความทนทานเป็นอย่างมาก

     ยาแนวกระเบื้องยาแนวประเภทร่องเล็ก

การเลือกใช้ยาแนวประเภทกระเบื้องที่เป็นแบบร่องเล็กนี้แนะนำว่าควรใช้ยาแนวที่มีลักษณะเป็นเนื้อเหลว เพราะจะช่วยเติมเต็มร่องเล็กได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ยาแนวกระเบื้องประเภทนี้จะนิยมใช้กับกระเบื้องหินอ่อนเพราะจะสามารถทำการยาแนวตรงจุดช่องว่างได้เป็นอย่างนี้ ทำให้ตัวกระเบื้องมีประสิทธิภาพในด้านการใช้งานที่สูงมากยิ่งขึ้น

     ยาแนวกระเบื้องประเภทธรรมดา

ยาแนวกระเบื้องในรูปแบบนี้สามารถใช้งานได้กับกระเบื้องประเภททั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้นผนัง ซึ่งกระเบื้องตัวนี้จะมีราคาที่ถูกและประหยัดเป็นอย่างมาก ข้อเสียคือจะไม่ป้องกันการรั่วซึมหรือไม่สามารถป้องกันเชื้อราต่าง ๆ ได้หรือหากป้องกันได้ก็สามารถป้องกันได้น้อยมาก

     ยาแนวกระเบื้องประเภท Epoxy

ยาแนวประเภทนี้ค่อนข้างมีราคาสูงแต่มาพร้อมคุณภาพแบบจัดเต็ม นิยมใช้ในห้องน้ำหรือห้องครัวเพราะสามารถป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังป้องกันการรั่วซึมได้สูงเป็นอย่างมาก ทำให้มีความทนทานในด้านการใช้งานและมีความแข็งแรงสูงเป็นอย่างมาก ตอบโจทย์การใช้งานกับพื้นที่ที่ต้องพบเจอกับน้ำบ่อย

     ยาแนวกระเบื้องประเภททนแรงอัดน้ำ

ยาแนวประเภทนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่นิยมใช้ในห้องน้ำ จะทนแรงอัดในการใช้งานได้ดียิ่งกว่าประเภท Epoxy เนื่องจากว่าตัวนี้จะนิยมใช้ใน ซาวน่า บ่อน้ำหรือสระว่ายน้ำ มีความทนทานสูงเป็นอย่างมากและที่สำคัญยังลดการเกิดเชื้อราต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

     ยาแนวกระเบื้องประเภทหลอดสำเร็จรูป

ยาแนวประเภทนี้มีการบรรจุและผสมมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพิ่มความสะดวกสบายในด้านการใช้งานให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ยาแนวประเภทนี้จะไม่นิยมนำมายาแนวกระเบื้องที่ปูเสร็จใหม่ จะนำมาซ่อมแซมหรืออุดรูส่วนที่สึกหรอไปนั่นเอง

เมื่อได้รู้จักกับประเภทของยาแนวแล้วก็อย่าลืมเลือกใช้ให้ถูกต้องตามประเภทของการใช้งานและประเภทห้องของท่านด้วย เพื่ออายุในการใช้งานที่ยาวนานของกระเบื้องและยาแนวของท่าน

ยาแนวกระเบื้อง (2)

10 เหตุผลที่เมื่อปูกระเบื้องต้องทำการใช้ยาแนวทุกครั้ง

เหตุผลทำไมเมื่อปูกระเบื้องแล้วต้องการทำการยาแนวกระเบื้องทุกครั้ง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูเหตุผลของการยาแนวกระเบื้องกัน

  1. ป้องกันกระเบื้องระเบิด โดยหากปูกระเบื้องแล้วไม่มีการยาแนวมีโอกาสสูงมากที่กระเบื้องจะระเบิดและอาจทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยภายในบ้านเกิดอาการบาดเจ็บได้
  2. ป้องกันกระเบื้องแตกร้าว การยาแนวกระเบื้องจะช่วยให้กระเบื้องนั้นลดความเสี่ยงในการแตกร้าวและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างยาวนาน
  3. ช่วยเพิ่มความสวยงามให้พื้นบ้าน หากพื้นบ้านที่ไม่มีการยาแนวก็ดูเหมือนจะไม่เสร็จสิ้นและมีช่องว่างที่ดูไม่สวยงามตาสักเท่าไหร่ การยาแนวจึงช่วยได้
  4. ช่วยลดการสะสมสิ่งสกปรก ช่องว่างของการปูกระเบื้องหากไม่มีการยาแนวบอกเลยว่านั่นคือแหล่งสะสมความสกปรกชั้นดี ดังนั้นเมื่อมีการย้ายแล้วจะช่วยลดในส่วนนี้ได้
  5. ช่วยลดการเกิดเชื้อราในกระเบื้อง ภายใต้กระเบื้องหากไม่มีการยาแนวอาจจะทำให้เกิดเชื้อราและตัวกระเบื้องอาจจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานลดลง
  6. ช่วยป้องกันการรั่วซึมของพื้น การยาแนวกระเบื้องนอกจากจะได้ความสวยงามแล้วยังช่วยป้องกันการรั่วซึมของพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวห้องน้ำ
  7. ช่วยป้องกันผู้คนจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ บางทีการมีช่องว่างระหว่างกระเบื้องที่ไม่ได้ยาแนวนั้นอาจเป็นแหล่งที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้รับเชิญ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง หรือสัตว์ร้ายชนิดอื่นอีกมากมาย
  8. ช่วยให้กระเบื้องใช้งานได้อย่างทนทาน เมื่อมีการยาแนวกระเบื้องก็จะทำให้กระเบื้องใช้งานได้อย่างทนทานเพราะเป็นการเก็บขอบกระเบื้องทำให้ไม่แตกหักไว
  9. ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย เมื่อมีการยาแนวไม่มีร่องของกระเบื้องก็จะทำให้การทำความสะอาดนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น
  10. ช่วยลดการเกิดน้ำขัง การยาแนวกระเบื้องสามารถช่วยลดการเกิดน้ำขังได้ เช่น ในห้องน้ำหรือห้องครัวหากมีการใช้น้ำแล้วไม่ได้ยาแนวกระเบื้องน้ำอาจจะขังในร่องกระเบื้องที่ปูก็เป็นได้
โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  กระเบื้องบีเซน

กรดเกลือคืออะไร? ข้อดีและข้อควรระวังของกรดเกลือเมื่อนำมาใช้งาน

กรดเกลือคืออะไร? กระเบื้องสะอาดภายใน 10 นาที

     สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาข้อมูลของกรดเกลือการใช้งานจริงวันนี้เรารวบรวมข้อมูลของกรดเกลือวิธีการใช้งาน ข้อดีเมื่อนำกรดเกลือมาใช้ในการใช้งานมาบอกต่อแก่ทุกท่าน เพื่อให้เป็นแนวทางในด้านการใช้งานได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่ามีไอเทมนี้แล้วจะช่วยให้ชีวิตของท่านง่ายขึ้นหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับกรดเกลือว่ามีข้อดีอย่างไรและนำไปใช้งานในส่วนใดได้บ้างบอกเลยว่าเมื่อได้เข้ามาอ่านที่กระทู้นี้แล้วท่านจะไขข้อสงสัยได้อย่างกระจ่างแจ้งแน่นอน บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในไอเทมอรรถประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

พาทุกท่านมารู้จักกับกรดเกลือหรือที่เรียกอีกชื่อว่าไฮโดรคลอริก กรดเกลือตัวนี้เป็นสารเคมีที่สามารถละลายน้ำได้ โดยส่วนใหญ่นิยมมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายเนื่องจากว่ากรดเกลือประเภทนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการกัดกร่อนได้ดีเป็นอย่างมาก โดยในอุตสาหกรรมจะนำมาใช้ทำความสะอาดชิ้นส่วนโลหะหรือช่วยกัดกร่อนสนิมเป็นต้น นอกจากในอุตสาหกรรมโรงงานกรดเกลือนี้ยังสามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมของเหมืองแร่ การฟอกหนัง อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำกรดเกลือไปใช้ในการทำงานได้แบบครบทุกรูปแบบ

กรดเกลือสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ

     เรียกได้ว่ากรดเกลือนั้นถูกใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายในปัจจุบันและสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบทั้งในภาคอุตสาหกรรมและทั่วไป นอกจากจะใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในปัจจุบันยังถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นในด้านของการก่อสร้างที่นำมาล้างกระเบื้องล้างวัสดุอุปกรณ์ในการใช้ก่อสร้างก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี กรดตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีในการทำงานเลยก็ว่าได้ เพราะมีประสิทธิภาพและคุณสมบัติในการใช้งานที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ จึงสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกรูปแบบ

กรดเกลือคืออะไร (2)

กรดเกลือล้างกระเบื้องสะอาดใน 10 นาที ใช้อย่างไร

กรดเกลือที่เราจะมาแนะนำวันนี้คือท่านสามารถนำไปล้างกระเบื้องให้สะอาดได้ภายใน 10 นาที บอกเลยว่าสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีและมีความรวดเร็วทันใจในด้านการล้างกระเบื้องเป็นอย่างมาก โดยวันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนและวิธีการการใช้กรดเกลือในการล้างกระเบื้องให้สะอาดภายใน 10 นาที

 

   จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสอนการลงมือล้างกระเบื้อง

   เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นแว่นตากันสารเคมีที่ปิดจมูก ถุงมือและที่สำคัญควรใช้รองเท้าบูตเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นในการใช้งานของกรดเกลือ

   ทำการผสม กรดเกลือ ล้าง คราบ ปูน ด้วยความระมัดระวัง

   ตวงน้ำไว้ให้เรียบร้อยโดยจะใช้น้ำทั้งหมด 10 ส่วนด้วยกัน กรดเกลือ ล้าง คราบ ปูน และหลังจากนั้นจะใช้กรดเกลือทั้งหมด 2 ส่วนค่อยๆ เทลงไปในน้ำและผสมให้เข้ากัน แนะนำว่าในขณะที่ละลายกรดเกลือให้ผสมกับน้ำนั้นไม่ควรให้ไอจากกรดเกลือโดนจมูกเป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้มีอาการแสบจมูกหรือคัดจมูกก็เป็นได้

   ล้างพื้นด้วยน้ำเปล่าก่อน 1 ครั้ง

   นำน้ำเปล่าไปล้างพื้นกระเบื้องที่ต้องการล้างก่อน 1 ครั้ง และหลังจากนั้นใช้กรดเกลือที่เราผสมไว้กับน้ำ 10 ส่วน มากเทราดบนกระเบื้องที่เราต้องการล้างได้เลยต่อด้วยการใช้แปรงทำความสะอาดขัดเบาๆ แนะนำว่าห้ามให้โดนมือหรืออวัยวะในร่างกาย หากโดนอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายให้รีบล้างในทันที

   ล้างทำความสะอาด กรดเกลือ ทำความสะอาดกระเบื้อง ด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ

   เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการขัดทำความสะอาดเรียบร้อยให้ล้างกรดเกลือด้วยน้ำสะอาดประมาณ 3-5 รอบ กรดเกลือ ทำความสะอาดกระเบื้อง หรือล้างไปจนกว่าจะหมดกลิ่น

เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านี้ก็สามารถล้างกระเบื้องได้อย่างสะอาด ทำความสะอาดไว้ภายในพริบตาเดียวใช้เวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้นก็ล้างกระเบื้องแบบสะอาดได้ทันใจ

 

กรดเกลือคืออะไร (1)

ข้อดีและข้อควรระวังของกรดเกลือเมื่อนำมาใช้งาน

กรดเกลือที่มีการผลิตมาให้เลือกซื้อและเลือกใช้ในอุตสาหกรรมและการก่อสร้างต่างๆ มากมายนั้น บอกเลยว่านอกจากจะมีข้อดีในด้านการใช้งาน กรดเกลือก็ยังมีข้อเสียและข้อควรระวังอีกหลายอย่างเช่นเดียวกัน นอกจากจะเป็นไอเทม อรรถประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ก็ยังมีข้อควรระวังหลากหลายเช่นเดียวกันเพราะกรดเกลือนั้นเรียกได้ว่าเป็นสารอันตรายอีกอันก็ว่าได้ ตามไปดูข้อดีและข้อเสียของกรดเกลือกับเราได้เลย

 

ข้อดีของการใช้ กรดเกลือคืออะไร ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง

สำหรับข้อดีของการเลือกใช้ กรดเกลือคืออะไร ในงานอุตสาหกรรมหรือการก่อสร้างหลากหลายรูปแบบมีด้วยกันทั้งหมดดังนี้

 

  1. สามารถทำความสะอาดพื้นที่หรืออุปกรณ์ที่เราต้องการได้อย่างหมดจด เพราะตัวกรดเกลือนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี ทำให้คราบสกปรกหรือคราบสนิมนั้นหลุดออกได้อย่างง่ายดาย
  2. กรดเกลือสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้ง่ายที่สำคัญมีราคาไม่แพง เก็บไว้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ซื้อ 1 ครั้งใช้ได้แบบจุใจกันเลยทีเดียว
  3. สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง เหล็ก หรือการนำมาขัดพื้นล้าง คราบสนิมคราบตะไคร่ก็สามารถทำได้
  4. กรดเกลือนั้นสามารถนำไปบำบัดน้ำเสียได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เหมาะกับการใช้ทำความสะอาดสระว่ายน้ำนอกจากจะช่วยขัดตะไคร่น้ำจากสระได้เป็นอย่างดียังลดความเป็นด่างของน้ำได้อีกด้วย

 

ข้อควรระวังในการเลือกใช้กรดเกลือ

นอกจากข้อดีในการใช้กรดเกลือที่ช่วยเพิ่มอรรถประโยชน์ในการทำงานได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การบำบัดน้ำเสีย และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อนำกรดเกลือมาใช้งานก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกันดังนี้

 

  1. ระวังการสูดดมกรดเกลือ เนื่องจากว่ากรดเกลือนั้นอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองจมูกลำคอ และอาจส่งผลต่อทางเดินหายใจของท่านได้ เนื่องจากเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นเมื่อใช้งานควรมีการปิดจมูกให้เรียบร้อย
  2. ระวังห้ามให้โดนผิวหนัง เพราะตัวกรดเกลือนั้นเป็นกรดเมื่อโดนผิวหนังอาจจะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนหรือเกิดการไหม้ของผิวหนังได้ และอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองของผิวหนังในขั้นรุนแรง
  3. ระวังการเป็นพิษต่อทางเดินอาหาร กรดเกลือหักเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะทำให้เป็นพิษต่อทางเดินอาหาร เนื่องจากว่าทำให้ร่างกายเกิดสภาวะความเป็นกรดและเบสไม่สมดุลกัน ดังนั้นจึงควรระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
  4. ระวังการเป็นพิษต่อหลอดเลือดและหัวใจ ในส่วนนี้หากได้รับกรดเกลือในปริมาณมากหรือกินกรดเกลือเข้าไปในร่างกายปริมาณที่มาก จะทำให้เกิดสภาวะความดันโลหิตต่ำทำให้หลอดเลือดทางเดินอาหารนั้นสูญเสียสมดุลและอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

 

เลือกใช้ให้เป็นและรู้จักป้องกันในเวลาการใช้งานให้เป็นอย่างดี จะช่วยให้การทำงานมีความสบายมากยิ่งขึ้นลดระยะเวลาในการทำงานน้อยลง แต่อย่าลืมเมื่อใช้กรดเกลืออย่าลืมป้องกันให้ดีเพราะตัวนี้นอกจากจะมีข้อดีก็มีข้อควรระวังมากมายเช่นเดียวกัน

 

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  กระเบื้องบีเซน

กรดเกลือคืออะไร? กระเบื้องสะอาดภายใน 10 นาที

     สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาข้อมูลของกรดเกลือการใช้งานจริงวันนี้เรารวบรวมข้อมูลของกรดเกลือวิธีการใช้งาน ข้อดีเมื่อนำกรดเกลือมาใช้ในการใช้งานมาบอกต่อแก่ทุกท่าน เพื่อให้เป็นแนวทางในด้านการใช้งานได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่ามีไอเทมนี้แล้วจะช่วยให้ชีวิตของท่านง่ายขึ้นหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับกรดเกลือว่ามีข้อดีอย่างไรและนำไปใช้งานในส่วนใดได้บ้างบอกเลยว่าเมื่อได้เข้ามาอ่านที่กระทู้นี้แล้วท่านจะไขข้อสงสัยได้อย่างกระจ่างแจ้งแน่นอน บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในไอเทมอรรถประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

พาทุกท่านมารู้จักกับกรดเกลือหรือที่เรียกอีกชื่อว่าไฮโดรคลอริก กรดเกลือตัวนี้เป็นสารเคมีที่สามารถละลายน้ำได้ โดยส่วนใหญ่นิยมมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายเนื่องจากว่ากรดเกลือประเภทนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการกัดกร่อนได้ดีเป็นอย่างมาก โดยในอุตสาหกรรมจะนำมาใช้ทำความสะอาดชิ้นส่วนโลหะหรือช่วยกัดกร่อนสนิมเป็นต้น นอกจากในอุตสาหกรรมโรงงานกรดเกลือนี้ยังสามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมของเหมืองแร่ การฟอกหนัง อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำกรดเกลือไปใช้ในการทำงานได้แบบครบทุกรูปแบบ

กรดเกลือสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ

     เรียกได้ว่ากรดเกลือนั้นถูกใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายในปัจจุบันและสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบทั้งในภาคอุตสาหกรรมและทั่วไป นอกจากจะใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในปัจจุบันยังถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นในด้านของการก่อสร้างที่นำมาล้างกระเบื้องล้างวัสดุอุปกรณ์ในการใช้ก่อสร้างก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี กรดตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีในการทำงานเลยก็ว่าได้ เพราะมีประสิทธิภาพและคุณสมบัติในการใช้งานที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ จึงสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกรูปแบบ

 

กรดเกลือคืออะไร (2)

กรดเกลือล้างกระเบื้องสะอาดใน 10 นาที ใช้อย่างไร

กรดเกลือที่เราจะมาแนะนำวันนี้คือท่านสามารถนำไปล้างกระเบื้องให้สะอาดได้ภายใน 10 นาที บอกเลยว่าสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีและมีความรวดเร็วทันใจในด้านการล้างกระเบื้องเป็นอย่างมาก โดยวันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนและวิธีการการใช้กรดเกลือในการล้างกระเบื้องให้สะอาดภายใน 10 นาที

   จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสอนการลงมือล้างกระเบื้อง

   เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นแว่นตากันสารเคมีที่ปิดจมูก ถุงมือและที่สำคัญควรใช้รองเท้าบูตเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นในการใช้งานของกรดเกลือ

   ทำการผสม กรดเกลือ ล้าง คราบ ปูน ด้วยความระมัดระวัง

   ตวงน้ำไว้ให้เรียบร้อยโดยจะใช้น้ำทั้งหมด 10 ส่วนด้วยกัน กรดเกลือ ล้าง คราบ ปูน และหลังจากนั้นจะใช้กรดเกลือทั้งหมด 2 ส่วนค่อยๆ เทลงไปในน้ำและผสมให้เข้ากัน แนะนำว่าในขณะที่ละลายกรดเกลือให้ผสมกับน้ำนั้นไม่ควรให้ไอจากกรดเกลือโดนจมูกเป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้มีอาการแสบจมูกหรือคัดจมูกก็เป็นได้

   ล้างพื้นด้วยน้ำเปล่าก่อน 1 ครั้ง

   นำน้ำเปล่าไปล้างพื้นกระเบื้องที่ต้องการล้างก่อน 1 ครั้ง และหลังจากนั้นใช้กรดเกลือที่เราผสมไว้กับน้ำ 10 ส่วน มากเทราดบนกระเบื้องที่เราต้องการล้างได้เลยต่อด้วยการใช้แปรงทำความสะอาดขัดเบาๆ แนะนำว่าห้ามให้โดนมือหรืออวัยวะในร่างกาย หากโดนอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายให้รีบล้างในทันที

   ล้างทำความสะอาด กรดเกลือ ทำความสะอาดกระเบื้อง ด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ

   เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการขัดทำความสะอาดเรียบร้อยให้ล้างกรดเกลือด้วยน้ำสะอาดประมาณ 3-5 รอบ กรดเกลือ ทำความสะอาดกระเบื้อง หรือล้างไปจนกว่าจะหมดกลิ่น

เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านี้ก็สามารถล้างกระเบื้องได้อย่างสะอาด ทำความสะอาดไว้ภายในพริบตาเดียวใช้เวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้นก็ล้างกระเบื้องแบบสะอาดได้ทันใจ

กรดเกลือคืออะไร (1)

ข้อดีและข้อควรระวังของกรดเกลือเมื่อนำมาใช้งาน

กรดเกลือที่มีการผลิตมาให้เลือกซื้อและเลือกใช้ในอุตสาหกรรมและการก่อสร้างต่างๆ มากมายนั้น บอกเลยว่านอกจากจะมีข้อดีในด้านการใช้งาน กรดเกลือก็ยังมีข้อเสียและข้อควรระวังอีกหลายอย่างเช่นเดียวกัน นอกจากจะเป็นไอเทม อรรถประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ก็ยังมีข้อควรระวังหลากหลายเช่นเดียวกันเพราะกรดเกลือนั้นเรียกได้ว่าเป็นสารอันตรายอีกอันก็ว่าได้ ตามไปดูข้อดีและข้อเสียของกรดเกลือกับเราได้เลย

ข้อดีของการใช้ กรดเกลือคืออะไร ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง

สำหรับข้อดีของการเลือกใช้ กรดเกลือคืออะไร ในงานอุตสาหกรรมหรือการก่อสร้างหลากหลายรูปแบบมีด้วยกันทั้งหมดดังนี้

  1. สามารถทำความสะอาดพื้นที่หรืออุปกรณ์ที่เราต้องการได้อย่างหมดจด เพราะตัวกรดเกลือนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี ทำให้คราบสกปรกหรือคราบสนิมนั้นหลุดออกได้อย่างง่ายดาย
  2. กรดเกลือสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้ง่ายที่สำคัญมีราคาไม่แพง เก็บไว้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ซื้อ 1 ครั้งใช้ได้แบบจุใจกันเลยทีเดียว
  3. สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง เหล็ก หรือการนำมาขัดพื้นล้าง คราบสนิมคราบตะไคร่ก็สามารถทำได้
  4. กรดเกลือนั้นสามารถนำไปบำบัดน้ำเสียได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เหมาะกับการใช้ทำความสะอาดสระว่ายน้ำนอกจากจะช่วยขัดตะไคร่น้ำจากสระได้เป็นอย่างดียังลดความเป็นด่างของน้ำได้อีกด้วย

 

ข้อควรระวังในการเลือกใช้กรดเกลือ

นอกจากข้อดีในการใช้กรดเกลือที่ช่วยเพิ่มอรรถประโยชน์ในการทำงานได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การบำบัดน้ำเสีย และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อนำกรดเกลือมาใช้งานก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกันดังนี้

  1. ระวังการสูดดมกรดเกลือ เนื่องจากว่ากรดเกลือนั้นอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองจมูกลำคอ และอาจส่งผลต่อทางเดินหายใจของท่านได้ เนื่องจากเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นเมื่อใช้งานควรมีการปิดจมูกให้เรียบร้อย
  2. ระวังห้ามให้โดนผิวหนัง เพราะตัวกรดเกลือนั้นเป็นกรดเมื่อโดนผิวหนังอาจจะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนหรือเกิดการไหม้ของผิวหนังได้ และอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองของผิวหนังในขั้นรุนแรง
  3. ระวังการเป็นพิษต่อทางเดินอาหาร กรดเกลือหักเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะทำให้เป็นพิษต่อทางเดินอาหาร เนื่องจากว่าทำให้ร่างกายเกิดสภาวะความเป็นกรดและเบสไม่สมดุลกัน ดังนั้นจึงควรระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
  4. ระวังการเป็นพิษต่อหลอดเลือดและหัวใจ ในส่วนนี้หากได้รับกรดเกลือในปริมาณมากหรือกินกรดเกลือเข้าไปในร่างกายปริมาณที่มาก จะทำให้เกิดสภาวะความดันโลหิตต่ำทำให้หลอดเลือดทางเดินอาหารนั้นสูญเสียสมดุลและอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

เลือกใช้ให้เป็นและรู้จักป้องกันในเวลาการใช้งานให้เป็นอย่างดี จะช่วยให้การทำงานมีความสบายมากยิ่งขึ้นลดระยะเวลาในการทำงานน้อยลง แต่อย่าลืมเมื่อใช้กรดเกลืออย่าลืมป้องกันให้ดีเพราะตัวนี้นอกจากจะมีข้อดีก็มีข้อควรระวังมากมายเช่นเดียวกัน

 

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  กระเบื้องบีเซน

5 ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง (คิดจะปูกระเบื้องต้องอ่าน)

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง และเรื่องอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนปูกระเบื้อง

ปัญหาการปูกระเบื้อง
วันนี้ทางเว็บไซต์ของเราจะมาแนะนำ ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง และเรื่องที่ควรรู้ก่อนการปูกระเบื้อง ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเองเพราะอาจจะทำให้เสียเวลาและอาจเสียทั้งเงินที่ซ่อมแซมตัวกระเบื้องไม่น้อยหากทำแล้วผิดวิธี เราจึงรวมทุกความรู้เกี่ยวกับการปูกระเบื้องมาแนะนำและบอกต่อให้กับทุกท่านเพื่อให้การดำเนินงานของท่านเป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีปัญหาตามมา ไม่ว่าจะปูกระเบื้องรูปแบบไหนภายในหรือภายนอกรับรองหรือว่าสามารถทำได้ง่าย เพราะเราพร้อมแท้ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปูกระเบื้องมาให้กับทุกท่าน เข้ามาค้นหาความรู้ที่ดีกับเราได้ในทุกวันเพราะเราพร้อมอัปเดตทุกความรู้ให้กับทุกท่านอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาที่พบบ่อย ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง กันไว้ดีกว่าแก้

แชร์ปัญหาที่พบบ่อยในงานปูกระเบื้องบอกเลยว่ารู้ไว้พร้อมป้องกันไว้ก่อนดีกว่ามาแก้ทีหลัง เพราะไม่เช่นนั้นงบประมาณบานปลายอย่างน้อยเพราะการซ่อมแซมกระเบื้องนั้นเสียทั้งเวลาและงบประมาณจำนวนมหาศาลเป็นอย่างมาก มารู้จักปัญหาที่พบบ่อยในงานปูกระเบื้องกับเราได้เลยเพื่อเป็นแนวทางป้องกันในการดำเนินงาน

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง พื้นผิวที่ไม่พร้อมใช้งาน 

การปูกระเบื้องบนพื้นผิวที่ไม่พร้อมต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็นตัวผิวที่ไม่เรียบเนียนไม่สม่ำเสมอหรือไม่ได้ระดับนี่คือหนึ่งปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยเป็นอย่างมากดังนั้นควรมีการตรวจเช็กให้ดีและมีการปรับพื้นระดับและเตรียมพร้อมพื้นผิวก่อนการปูกระเบื้อง

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง

ปัญหาการเลือกใช้กระเบื้องผิดประเภท 

เอากระเบื้องผนังมาใช้กับพื้น เอากระเบื้องพื้นไปใช้ผนัง หรือเอากระเบื้องที่ทีผิวหน้าลื่นๆ มาใช้กับพื้นที่ที่ไม่ควร เช่น โรงจอดรถ ทางเดิน รอบสระน้ำ หรือที่เจอกันบ่อยๆ เอากระเบื้องลื่นๆไปใช้ในห้องน้ำ บอกเลยว่าห้ามเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ที่เราได้ยินกันบ่อยๆคือ ลื่นล้มในห้องน้ำบ้าง รถลื่นเวลาจอดรถบ้าง ซึ่งอาจเกิดความเสียหายรุนแรงถึงชีวิตได้ ฉะนั้นเลือกกระเบื้องที่มีความหยาบให้เพียงพอกับพื้นที่นั้นๆ และในเรื่องการรับน้ำหนักที่เพียงพอกับการใช้งานด้วยเช่นกัน.

ในส่วนของการเลือกกระเบื้องเราก็ต้องดูว่าเราอยากใช้กระเบื้องประเภทใหน ซึ่งก็จะมีหลากหลายแบบ (กระเบื้องมีกี่ประเภท)

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง01

ปัญหากระเบื้องโก่ง กระเบื้องระเบิด

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มีปัจจัยมาจากหลายอย่างแต่ที่มีผลมากเลย จะเกี่ยวกับโครงสร้าง เช่น พื้นปูน เพราะพื้นปูน มีการ ยืด หด  ขยายตัว ทำให้กระเบื้องเคลือนตามไปด้วย หรืออีกปัจจัยมาจากการทำโครงสร้างไม่ดี ปูนไม่แข็งแรง ปูนเสื่อมสภาพ ทำให้ตัวกระเบื้องที่ปิดผิวอยู่เกิดการดันกระเบื้องกันเองจนเกิดอาการโก่ง หรือระเบิดออก

วิธีแก้ หากทราบเหตุผลว่าเป็นเรื่องโครงสร้าง ก็อาจจะต้องทำการรื้อพื้นปรับพื้นใหม่ก่อนจะทำการปูกระเบื้อง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีความยุ่งยากทีเดียว ฉะนั้นหากเราเป็นเจ้าของบ้านควรตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับช่างด้วยก่อนจะปูกระเบื้อง เพื่อความสบายใจ.

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง03

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้องผิดวิธี

• การปูกระเบื้องแบบซาลาเปา คือการปูแบบทาปูนกาวหลังกระเบื้องจุดเดียว ทำให้กระเบื้องปูไม่สม่ำเสมอทั่วแผ่น ทำให้เกิดโพรงช่องว่างหลังแผ่นกระเบื้อง เกิดการสะสมของน้ำและความชื้น ส่งผลให้เกิดปัญหากระเบื้องหลุดล่อน เกิดรอยร้าวที่มุม หรือขอบกระเบื้อง เนื่องจากไม่มีเนื้อปูนรองรับ.

• การปูแบบเปียกหรือบางคนเรียกปูสด คือการปูแบบใช้ ส่วนผสมจาก กาวซีเมนต์ผสมปูนทราย ผสมน้ำ ซึ่งก็จะเป็นการที่ให้ช่างเป็นคนผสมส่วนผสมก็จะคลาดคลื่อนกันไปแล้วแต่คน กระเบื้องก็จะไม่ยึดเกาะ เกิดปัญหากระเบื้องล่อนหลุดได้ง่าย.

ปูกระเบื้อง

วิธีการปูแบบที่แนะนำก็คือการปู แบบปาดปูนกาวเต็มแผ่นด้วยปูนกาวที่มีคุณภาพ ในปัจจุบันมีจำหน่ายกันหลายยี่ห้อ สามารถเลือกซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้าง ส่วนวิธีเลือกปูนกาวเบื้องต้นเราก็ต้องเลือกปูนกาวที่เหมาะกับขนาดกระเบื้องและชนิดกระเบื้องของเรา ซึ่งสามารถขอคำแนะนำจากทางร้านค้าได้เลย.

ปัญหาเลือกช่างที่ไม่มีความชำนาญ

 

การเลือกช่างก็เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย ช่างที่ปูกระเบื้องต้องมีความเข้าใจในการปู รู้จักวิธีการปู เข้าใจวัสดุในการปู รู้ว่ากระเบื้องแต่ละเเบบต้องปูยังไง และสามารถตอบคำถามเราได้ชัดเจน เพราะถ้าเราจ้างคนที่ไม่เข้าใจวิธีการปูไม่เข้าใจวัสดุต่างๆ ต่อให้ใช้กระเบื้องแพงๆ ก็อาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน.

ปูกระเบื้อง01

8 ข้อควรรู้ก่อนปูกระเบื้อง

อยากปูกระเบื้องให้เป็นมืออาชีพบอกเลยว่าทุกท่านควรเข้ามาศึกษาข้อควรรู้ก่อนปูกระเบื้องกับเราก่อน เพื่อให้การดำเนินงานของท่านนั้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ไม่ต้องมารื้อมาเสียค่าซ่อมแซมเพิ่มเติมอีกหลายต่อ ตามไปดูเขาควรรู้เกี่ยวกับการปูกระเบื้องกับเราได้เลย

  1. ก่อนการปูกระเบื้องต้องมีการทดสอบความแข็งแรงของพื้นที่เราต้องการปูกระเบื้องเสียก่อน หากตัวพื้นไม่มีความแข็งแรงก็อาจจะทำให้การปูกระเบื้องนั้นเกิดความเสียหายได้ง่าย เพื่อป้องกันความผิดพลาดนี้เราสามารถตรวจเช็กก่อนได้เพื่อการทำงานที่ง่ายมากยิ่งขึ้น
  2. ตรวจสอบระดับของพื้นผิวที่เราต้องการปูกระเบื้อง เพื่อให้ได้พื้นผิวที่มีความเรียบเนียนและมีความเสมอกันดังนั้นควรมีการตรวจสอบระดับพื้นผิวหากยังไม่ได้ระดับต้องมีการปรับพื้นผิวใหม่เพื่อให้ได้พื้นผิวที่มีความเสมอกัน
  3. ทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการปูกระเบื้อง ในการปูกระเบื้องต้องมีการทำความสะอาดพื้นผิวของพื้นที่ ที่เราต้องการปูกระเบื้องด้วย เพื่อการทำงานจะเป็นไปได้ง่ายและวางระดับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  4. เลือกใช้กันซึมที่ดีและมีมาตรฐานพร้อมกับทากันซึมไว้ที่พื้นผิวอย่างน้อย 2 รอบเพื่อไม่ให้ความชื้นนั้นขึ้นมาหลังจากที่ทำการปูกระเบื้อง
  5. เลือกใช้ประเภทกระเบื้องให้ถูกต้องตรงตามความเหมาะสมในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นตัวกระเบื้องภายในบ้าน กระเบื้องภายนอกบ้าน หรือกระเบื้องที่ใช้สำหรับสุขภัณฑ์เขาจะมีความแตกต่างกันออกไป
  6. เลือกใช้ซีเมนต์ที่ถูกประเภทเช่นเดียวกับตัวกระเบื้อง อีกทั้งต้องมีการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เกรียงหวีที่ถูกขนาดกับกระเบื้อง
  7. ในการปูกระเบื้องนั้นต้องมีการเว้นร่องสำหรับการทายาแนวอย่างน้อย 3 มิลลิเมตร
  8. หลังจากขั้นตอนการปูกระเบื้องเสร็จสิ้นควรมีการทิ้งกระเบื้องที่ปูไว้ให้แห้งอย่างน้อย 1 วันหลังจากนั้นก็ใช้ยาแนวมาปาดตามร่องที่เราเว้นว่างเอาไว้

นี่คือ 8 ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่ต้องการปูกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานปูพื้นกระเบื้องที่มีคุณภาพและตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด การปูกระเบื้องในรูปแบบที่เรานำมาแนะนำให้กับทุกท่านนั้นจะทำให้ตัวพื้นกระเบื้องมีความคงทนแข็งแรง ที่สำคัญคือไม่ต้องรื้อหรือไม่ต้องเสียค่าซ่อมแซมบ่อยเนื่องจากปูถูกวิธีก็จะมีอายุการใช้งานของพื้นกระเบื้องทียาวนานมากยิ่งขึ้น

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
  กระเบื้องบีเซน

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง และเรื่องอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนปูกระเบื้อง

ปัญหาการปูกระเบื้อง
วันนี้ทางเว็บไซต์ของเราจะมาแนะนำปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปูกระเบื้องและเรื่องที่ควรรู้ก่อนการปูกระเบื้อง ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเองเพราะอาจจะทำให้เสียเวลาและอาจเสียทั้งเงินที่ซ่อมแซมตัวกระเบื้องไม่น้อยหากทำแล้วผิดวิธี เราจึงรวมทุกความรู้เกี่ยวกับการปูกระเบื้องมาแนะนำและบอกต่อให้กับทุกท่านเพื่อให้การดำเนินงานของท่านเป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีปัญหาตามมา ไม่ว่าจะปูกระเบื้องรูปแบบไหนภายในหรือภายนอกรับรองหรือว่าสามารถทำได้ง่าย เพราะเราพร้อมแท้ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปูกระเบื้องมาให้กับทุกท่าน เข้ามาค้นหาความรู้ที่ดีกับเราได้ในทุกวันเพราะเราพร้อมอัปเดตทุกความรู้ให้กับทุกท่านอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาที่พบบ่อย ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง กันไว้ดีกว่าแก้

แชร์ปัญหาที่พบบ่อยในงานปูกระเบื้องบอกเลยว่ารู้ไว้พร้อมป้องกันไว้ก่อนดีกว่ามาแก้ทีหลัง เพราะไม่เช่นนั้นงบประมาณบานปลายอย่างน้อยเพราะการซ่อมแซมกระเบื้องนั้นเสียทั้งเวลาและงบประมาณจำนวนมหาศาลเป็นอย่างมาก มารู้จักปัญหาที่พบบ่อยในงานปูกระเบื้องกับเราได้เลยเพื่อเป็นแนวทางป้องกันในการดำเนินงาน

ปัญหาการปูกระเบื้องบนพื้นผิวที่ไม่พร้อมใช้งาน 

การปูกระเบื้องบนพื้นผิวที่ไม่พร้อมต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็นตัวผิวที่ไม่เรียบเนียนไม่สม่ำเสมอหรือไม่ได้ระดับนี่คือหนึ่งปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยเป็นอย่างมากดังนั้นควรมีการตรวจเช็กให้ดีและมีการปรับพื้นระดับและเตรียมพร้อมพื้นผิวก่อนการปูกระเบื้อง

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง

ปัญหาการเลือกใช้กระเบื้องผิดประเภท 

เอากระเบื้องผนังมาใช้กับพื้น เอากระเบื้องพื้นไปใช้ผนัง หรือเอากระเบื้องที่ทีผิวหน้าลื่นๆ มาใช้กับพื้นที่ที่ไม่ควร เช่น โรงจอดรถ ทางเดิน รอบสระน้ำ หรือที่เจอกันบ่อยๆ เอากระเบื้องลื่นๆไปใช้ในห้องน้ำ บอกเลยว่าห้ามเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ที่เราได้ยินกันบ่อยๆคือ ลื่นล้มในห้องน้ำบ้าง รถลื่นเวลาจอดรถบ้าง ซึ่งอาจเกิดความเสียหายรุนแรงถึงชีวิตได้ ฉะนั้นเลือกกระเบื้องที่มีความหยาบให้เพียงพอกับพื้นที่นั้นๆ และในเรื่องการรับน้ำหนักที่เพียงพอกับการใช้งานด้วยเช่นกัน.

ในส่วนของการเลือกกระเบื้องเราก็ต้องดูว่าเราอยากใช้กระเบื้องประเภทใหน ซึ่งก็จะมีหลากหลายแบบ (กระเบื้องมีกี่ประเภท)

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง01

ปัญหากระเบื้องโก่ง กระเบื้องระเบิด

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มีปัจจัยมาจากหลายอย่างแต่ที่มีผลมากเลย จะเกี่ยวกับโครงสร้าง เช่น พื้นปูน เพราะพื้นปูน มีการ ยืด หด  ขยายตัว ทำให้กระเบื้องเคลือนตามไปด้วย หรืออีกปัจจัยมาจากการทำโครงสร้างไม่ดี ปูนไม่แข็งแรง ปูนเสื่อมสภาพ ทำให้ตัวกระเบื้องที่ปิดผิวอยู่เกิดการดันกระเบื้องกันเองจนเกิดอาการโก่ง หรือระเบิดออก

วิธีแก้ หากทราบเหตุผลว่าเป็นเรื่องโครงสร้าง ก็อาจจะต้องทำการรื้อพื้นปรับพื้นใหม่ก่อนจะทำการปูกระเบื้อง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีความยุ่งยากทีเดียว ฉะนั้นหากเราเป็นเจ้าของบ้านควรตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับช่างด้วยก่อนจะปูกระเบื้อง เพื่อความสบายใจ.

ปัญหาเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง03

ปัญหาการปูกระเบื้องผิดวิธี 

• การปูกระเบื้องแบบซาลาเปา คือการปูแบบทาปูนกาวหลังกระเบื้องจุดเดียว ทำให้กระเบื้องปูไม่สม่ำเสมอทั่วแผ่น ทำให้เกิดโพรงช่องว่างหลังแผ่นกระเบื้อง เกิดการสะสมของน้ำและความชื้น ส่งผลให้เกิดปัญหากระเบื้องหลุดล่อน เกิดรอยร้าวที่มุม หรือขอบกระเบื้อง เนื่องจากไม่มีเนื้อปูนรองรับ.

• การปูแบบเปียกหรือบางคนเรียกปูสด คือการปูแบบใช้ ส่วนผสมจาก กาวซีเมนต์ผสมปูนทราย ผสมน้ำ ซึ่งก็จะเป็นการที่ให้ช่างเป็นคนผสมส่วนผสมก็จะคลาดคลื่อนกันไปแล้วแต่คน กระเบื้องก็จะไม่ยึดเกาะ เกิดปัญหากระเบื้องล่อนหลุดได้ง่าย.

ปูกระเบื้อง

วิธีการปูแบบที่แนะนำก็คือการปู แบบปาดปูนกาวเต็มแผ่นด้วยปูนกาวที่มีคุณภาพ ในปัจจุบันมีจำหน่ายกันหลายยี่ห้อ สามารถเลือกซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้าง ส่วนวิธีเลือกปูนกาวเบื้องต้นเราก็ต้องเลือกปูนกาวที่เหมาะกับขนาดกระเบื้องและชนิดกระเบื้องของเรา ซึ่งสามารถขอคำแนะนำจากทางร้านค้าได้เลย.

ปัญหาเลือกช่างที่ไม่มีความชำนาญ

การเลือกช่างก็เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย ช่างที่ปูกระเบื้องต้องมีความเข้าใจในการปู รู้จักวิธีการปู เข้าใจวัสดุในการปู รู้ว่ากระเบื้องแต่ละเเบบต้องปูยังไง และสามารถตอบคำถามเราได้ชัดเจน เพราะถ้าเราจ้างคนที่ไม่เข้าใจวิธีการปูไม่เข้าใจวัสดุต่างๆ ต่อให้ใช้กระเบื้องแพงๆ ก็อาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน.

ปูกระเบื้อง01

8 ข้อควรรู้ก่อนปูกระเบื้อง

อยากปูกระเบื้องให้เป็นมืออาชีพบอกเลยว่าทุกท่านควรเข้ามาศึกษาข้อควรรู้ก่อนปูกระเบื้องกับเราก่อน เพื่อให้การดำเนินงานของท่านนั้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ไม่ต้องมารื้อมาเสียค่าซ่อมแซมเพิ่มเติมอีกหลายต่อ ตามไปดูเขาควรรู้เกี่ยวกับการปูกระเบื้องกับเราได้เลย

  1. ก่อนการปูกระเบื้องต้องมีการทดสอบความแข็งแรงของพื้นที่เราต้องการปูกระเบื้องเสียก่อน หากตัวพื้นไม่มีความแข็งแรงก็อาจจะทำให้การปูกระเบื้องนั้นเกิดความเสียหายได้ง่าย เพื่อป้องกันความผิดพลาดนี้เราสามารถตรวจเช็กก่อนได้เพื่อการทำงานที่ง่ายมากยิ่งขึ้น
  2. ตรวจสอบระดับของพื้นผิวที่เราต้องการปูกระเบื้อง เพื่อให้ได้พื้นผิวที่มีความเรียบเนียนและมีความเสมอกันดังนั้นควรมีการตรวจสอบระดับพื้นผิวหากยังไม่ได้ระดับต้องมีการปรับพื้นผิวใหม่เพื่อให้ได้พื้นผิวที่มีความเสมอกัน
  3. ทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการปูกระเบื้อง ในการปูกระเบื้องต้องมีการทำความสะอาดพื้นผิวของพื้นที่ ที่เราต้องการปูกระเบื้องด้วย เพื่อการทำงานจะเป็นไปได้ง่ายและวางระดับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  4. เลือกใช้กันซึมที่ดีและมีมาตรฐานพร้อมกับทากันซึมไว้ที่พื้นผิวอย่างน้อย 2 รอบเพื่อไม่ให้ความชื้นนั้นขึ้นมาหลังจากที่ทำการปูกระเบื้อง
  5. เลือกใช้ประเภทกระเบื้องให้ถูกต้องตรงตามความเหมาะสมในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นตัวกระเบื้องภายในบ้าน กระเบื้องภายนอกบ้าน หรือกระเบื้องที่ใช้สำหรับสุขภัณฑ์เขาจะมีความแตกต่างกันออกไป
  6. เลือกใช้ซีเมนต์ที่ถูกประเภทเช่นเดียวกับตัวกระเบื้อง อีกทั้งต้องมีการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เกรียงหวีที่ถูกขนาดกับกระเบื้อง
  7. ในการปูกระเบื้องนั้นต้องมีการเว้นร่องสำหรับการทายาแนวอย่างน้อย 3 มิลลิเมตร
  8. หลังจากขั้นตอนการปูกระเบื้องเสร็จสิ้นควรมีการทิ้งกระเบื้องที่ปูไว้ให้แห้งอย่างน้อย 1 วันหลังจากนั้นก็ใช้ยาแนวมาปาดตามร่องที่เราเว้นว่างเอาไว้

นี่คือ 8 ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่ต้องการปูกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานปูพื้นกระเบื้องที่มีคุณภาพและตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด การปูกระเบื้องในรูปแบบที่เรานำมาแนะนำให้กับทุกท่านนั้นจะทำให้ตัวพื้นกระเบื้องมีความคงทนแข็งแรง ที่สำคัญคือไม่ต้องรื้อหรือไม่ต้องเสียค่าซ่อมแซมบ่อยเนื่องจากปูถูกวิธีก็จะมีอายุการใช้งานของพื้นกระเบื้องทียาวนานมากยิ่งขึ้น

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

เลือกกระเบื้องปูโรงรถ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

เลือกกระเบื้องปูโรงรถ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

กระเบื้องโรงรถ01

 ในการเลือก กระเบื้องปูโรงรถแบบต่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนกำลังสร้างบ้านต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าโรงรถนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเลยทีเดียว คนรักบ้านทั้งหลายจะต้องมีความคำนึงถึงคุณสมบัติในการรับน้ำหนักของกระเบื้อง เพราะถ้าหากมีปัญหาในส่วนของตรงนี้ขึ้นมา ก็อาจจะต้องทำให้เสียทั้งเวลาและเสียค่าในการซ่อมแซมปรับปรุง เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถได้เลือกกระเบื้องปูโรงรถได้ทั้งถูกใจ ทั้งดี ทางบีเซนก็ได้นำความรู้ดีๆ มาแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกัน

*ในบทความนี้เราเน้นเรื่อง”กระเบื้อง”และจะไม่ลงลึกเรื่องวัสดุอื่นๆ

ปูกระเบื้องปูโรงรถต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

การรับน้ำหนักของกระเบื้อง 

กระเบื้องแต่ละแบบจะมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน ฉะนั้นควรจะเลือกกระเบื้องที่สามารถรับน้ำหนักได้เพียงพอต่อการใช้งานเพราะถ้าไม่เช่นนั้นเมื่อใช้งานไปกระเบื้องจะแตก ซึ่งจะสร้างปัญหาให้เราแน่นอนเพราะวิธีที่จะแก้ไขคือเราต้องรื้อกระเบื้องปูใหม่ เท่ากับว่าเราต้อง เสียค่าช่าง เสียค่าของ เสียเวลา!! ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นเราต้องเลือกตั้งแต่ก่อนปูว่าเราจะใช้กระเบื้องแบบใหน.

ความหยาบของผิวกระเบื้อง

ห้ามนำกระเบื้องผิวลื่นมาปูโรงรถเด็ดขาด!! เนื่องจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ กระเบื้องผิวลื่นเหมาะกับการใช้งานในบ้านมากกว่าโรงจอดรถ เพราะโรงจอดรถหรือทางเดินจำเป็นต้องใช้กระเบื้องที่มีความหยาบ อาจจะไม่ต้องมากจนเกินไป เลือกที่มีความหยาบพอดีๆ เวลาพื้นเปียกน้ำแล้วไม่ลื่นมาก ก็ถือว่าใช้ได้

การดูดซึมน้ำ

เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราในกระเบื้องควรเลือกกระเบื้องที่มีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ เพราะเวลาเราปูกระเบื้องโรงจอดรถส่วนใหญ่จะต้องเจอกับความชื่นหรือเปียกน้ำอยู่บ่อยๆและถ้ากระเบื้องดูดซึมน้ำสูงจะทำให้เนื้อกระเบื้องเกิดเชื้อราได้.

เลือกสีสัน

เลือกโทนสีให้เข้ากับตัวบ้านหรือสภาพแวดล้อมโดยรวม เราสามารถดูตัวอย่างคู่สีสวยๆได้ในอินเตอร์เน็ตเพื่อเป็นตัวอย่างก่อนแล้วค่อยไปหาซื้อกระเบื้องที่ถูกใจ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านว่าชอบแบบใหน.

กระเบื้องปูโรงรถมีแบบใหนบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียยังไง?

กระเบื้องดินเผา

กระเบื้องดินเผา
ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้ปูโรงจอดรถ เพราะมีความแข็งแรงไม่สูงมาก หากใช้รับน้ำหนัดมากๆอาจเกิดการสึกกร่อนหรือแตกหักได้ การดูดซึมน้ำเยอะ 15-22% มีโอกาสในการเกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องง่าย.

ข้อดี

• ราคาถูก

• สีสันดูเป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย

• แตกร้าวง่าย

• รับน้ำหนักได้น้อย

• เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องง่าย

กระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิก
เป็นกระเบื้องที่มีคนนิยมใช้กันเยอะพอสมควร เนื่องจากราคาไม่สูงและมีลวดลายให้เลือกเยอะ แต่ในระยะยาวกระเบื้องจะแตกหรือร่อนออกมา ซึ่งจะเห็นกันได้บ่อยๆ ในบ้านที่ใช้มา 4-5ปีขึ้นไป หรือพื้นที่นั้นมีการรับน้ำหนักเยอะ เพราะคุณสมบัติการรับน้ำหนักไม่มาก ถ้าต้องการใช้ควรใช้ในพื้นที่ที่รับน้ำหนักไม่สูงมาก ก็สามารถใช้ได้ แต่หากใช้เป็นพื้นที่จอดรถจริงๆ ในระยะยาวมีโอกาสที่กระเบื้องจะแตกสูง.

ข้อดี

• ราคาถูก

• มีสีสันให้เลือกหลากหลาย

• ใช้งานได้หลากหลายแต่ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักเยอะๆ หรือพื้นที่เปียกน้ำ

ข้อเสีย

• รับน้ำหนักได้น้อย

• เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องง่าย

• เมื่อเปียกน้ำมักจะมีความลื่นมากควรต้องเลือกผิวหน้ากระเบื้องที่มีความหยาบ

กระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลน ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดในเรื่องของการ รับน้ำหนัก ความคงทนของผิวกระเบื้อง ความหยาบของผิวหน้ากระเบื้อง เพราะกระเบื้องพอร์ซเลนเป็นกระเบื้องที่ผ่านความร้อนสูงตั้งแต่ 1,300 องศาขึ้นไป มีค่าความแข็งที่สูง และเนื้อกระเบื้องจะมีค่าการดูดซึมน้ำที่ต่ำกว่า 0.5% ซึ่งหมายถึงกระเบื้องส่วนใหญ่จะไม่เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้อง.

ข้อดี

• คงทนแข็งแรง

• รับน้ำหนักได้เยอะ

• ดูดซึมน้ำต่ำกว่า 0.5% ทำให้ไม่เกิดเชื้อราในกระเบื้อง

• ทนรอยขูดขีด

ข้อเสีย

• ราคาสูง

• ลวดลายมีให้เลือกไม่เยอะเท่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป

• การผลิตต้องใช้ความพิถีพิถัน เรื่องสีของกระเบื้องอาจเกิดความไม่สม่ำเสมอได้ ส่วนใหญ่เวลาซื้อกระเบื้องพอร์ซเลนควรจะให้ทางบริษัทที่จำหน่ายควบคุมเรื่องลอตการผลิตด้วย

*กระเบื้องแกรนิโต้ก็จะมีคุณสมบัติคล้ายๆกับกระเบื้องพอร์ซเลน

วัสดุในการปูโรงรถอื่นๆนอกจากกระเบื้องที่นิยมกันในปัจจุบัน

ปูคอนกรีต

คอนกรีตพิมพ์ลาย

ทรายล้าง

บล็อกหญ้า

     ใครที่อยากได้กระเบื้องไปใช้งานก็ลองดูว่าแบบใหนคือสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานเรา สุดท้ายเราควรเลือกกระเบื้องที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการใช้งานและงบประมาณของเราก็จะดีที่สุด

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องพอร์ซเลนไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

เลือกกระเบื้องปูโรงรถ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

กระเบื้องโรงรถ01

 ในการเลือก กระเบื้องปูโรงรถแบบต่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนกำลังสร้างบ้านต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าโรงรถนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเลยทีเดียว คนรักบ้านทั้งหลายจะต้องมีความคำนึงถึงคุณสมบัติในการรับน้ำหนักของกระเบื้อง เพราะถ้าหากมีปัญหาในส่วนของตรงนี้ขึ้นมา ก็อาจจะต้องทำให้เสียทั้งเวลาและเสียค่าในการซ่อมแซมปรับปรุง เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถได้เลือกกระเบื้องปูโรงรถได้ทั้งถูกใจ ทั้งดี ทางบีเซนก็ได้นำความรู้ดีๆ มาแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกัน

*ในบทความนี้เราเน้นเรื่อง”กระเบื้อง”และจะไม่ลงลึกเรื่องวัสดุอื่นๆ

ปูกระเบื้องปูโรงรถต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

การรับน้ำหนักของกระเบื้อง 

กระเบื้องแต่ละแบบจะมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน ฉะนั้นควรจะเลือกกระเบื้องที่สามารถรับน้ำหนักได้เพียงพอต่อการใช้งานเพราะถ้าไม่เช่นนั้นเมื่อใช้งานไปกระเบื้องจะแตก ซึ่งจะสร้างปัญหาให้เราแน่นอนเพราะวิธีที่จะแก้ไขคือเราต้องรื้อกระเบื้องปูใหม่ เท่ากับว่าเราต้อง เสียค่าช่าง เสียค่าของ เสียเวลา!! ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นเราต้องเลือกตั้งแต่ก่อนปูว่าเราจะใช้กระเบื้องแบบใหน.

ความหยาบของผิวกระเบื้อง

ห้ามนำกระเบื้องผิวลื่นมาปูโรงรถเด็ดขาด!! เนื่องจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ กระเบื้องผิวลื่นเหมาะกับการใช้งานในบ้านมากกว่าโรงจอดรถ เพราะโรงจอดรถหรือทางเดินจำเป็นต้องใช้กระเบื้องที่มีความหยาบ อาจจะไม่ต้องมากจนเกินไป เลือกที่มีความหยาบพอดีๆ เวลาพื้นเปียกน้ำแล้วไม่ลื่นมาก ก็ถือว่าใช้ได้

การดูดซึมน้ำ

เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราในกระเบื้องควรเลือกกระเบื้องที่มีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ เพราะเวลาเราปูกระเบื้องโรงจอดรถส่วนใหญ่จะต้องเจอกับความชื่นหรือเปียกน้ำอยู่บ่อยๆและถ้ากระเบื้องดูดซึมน้ำสูงจะทำให้เนื้อกระเบื้องเกิดเชื้อราได้.

เลือกสีสัน

เลือกโทนสีให้เข้ากับตัวบ้านหรือสภาพแวดล้อมโดยรวม เราสามารถดูตัวอย่างคู่สีสวยๆได้ในอินเตอร์เน็ตเพื่อเป็นตัวอย่างก่อนแล้วค่อยไปหาซื้อกระเบื้องที่ถูกใจ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านว่าชอบแบบใหน.

กระเบื้องดินเผา

กระเบื้องปูโรงรถมีแบบใหนบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียยังไง?

กระเบื้องดินเผา

ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้ปูโรงจอดรถ เพราะมีความแข็งแรงไม่สูงมาก หากใช้รับน้ำหนัดมากๆอาจเกิดการสึกกร่อนหรือแตกหักได้ การดูดซึมน้ำเยอะ 15-22% มีโอกาสในการเกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องง่าย.

ข้อดี

• ราคาถูก

• สีสันดูเป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย

• แตกร้าวง่าย

• รับน้ำหนักได้น้อย

• เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องง่าย

กระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิก

เป็นกระเบื้องที่มีคนนิยมใช้กันเยอะพอสมควร เนื่องจากราคาไม่สูงและมีลวดลายให้เลือกเยอะ แต่ในระยะยาวกระเบื้องจะแตกหรือร่อนออกมา ซึ่งจะเห็นกันได้บ่อยๆ ในบ้านที่ใช้มา 4-5ปีขึ้นไป หรือพื้นที่นั้นมีการรับน้ำหนักเยอะ เพราะคุณสมบัติการรับน้ำหนักไม่มาก ถ้าต้องการใช้ควรใช้ในพื้นที่ที่รับน้ำหนักไม่สูงมาก ก็สามารถใช้ได้ แต่หากใช้เป็นพื้นที่จอดรถจริงๆ ในระยะยาวมีโอกาสที่กระเบื้องจะแตกสูง.

ข้อดี

• ราคาถูก

• มีสีสันให้เลือกหลากหลาย

• ใช้งานได้หลากหลายแต่ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักเยอะๆ หรือพื้นที่เปียกน้ำ

ข้อเสีย

• รับน้ำหนักได้น้อย

• เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องง่าย

• เมื่อเปียกน้ำมักจะมีความลื่นมากควรต้องเลือกผิวหน้ากระเบื้องที่มีความหยาบ

กระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลน

ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดในเรื่องของการ รับน้ำหนัก ความคงทนของผิวกระเบื้อง ความหยาบของผิวหน้ากระเบื้อง เพราะกระเบื้องพอร์ซเลนเป็นกระเบื้องที่ผ่านความร้อนสูงตั้งแต่ 1,300 องศาขึ้นไป มีค่าความแข็งที่สูง และเนื้อกระเบื้องจะมีค่าการดูดซึมน้ำที่ต่ำกว่า 0.5% ซึ่งหมายถึงกระเบื้องส่วนใหญ่จะไม่เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้อง.

ข้อดี

• คงทนแข็งแรง

• รับน้ำหนักได้เยอะ

• ดูดซึมน้ำต่ำกว่า 0.5% ทำให้ไม่เกิดเชื้อราในกระเบื้อง

• ทนรอยขูดขีด

ข้อเสีย

• ราคาสูง

• ลวดลายมีให้เลือกไม่เยอะเท่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป

• การผลิตต้องใช้ความพิถีพิถัน เรื่องสีของกระเบื้องอาจเกิดความไม่สม่ำเสมอได้ ส่วนใหญ่เวลาซื้อกระเบื้องพอร์ซเลนควรจะให้ทางบริษัทที่จำหน่ายควบคุมเรื่องลอตการผลิตด้วย

*กระเบื้องแกรนิโต้ก็จะมีคุณสมบัติคล้ายๆกับกระเบื้องพอร์ซเลน

วัสดุในการปูโรงรถอื่นๆนอกจากกระเบื้องที่นิยมกันในปัจจุบัน

ปูคอนกรีต

คอนกรีตพิมพ์ลาย

ทรายล้าง

บล็อกหญ้า

     ใครที่อยากได้กระเบื้องไปใช้งานก็ลองดูว่าแบบใหนคือสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานเรา สุดท้ายเราควรเลือกกระเบื้องที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการใช้งานและงบประมาณของเราก็จะดีที่สุด

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องพอร์ซเลนไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

กระเบื้องปูภายนอกเลือกอย่างไร

กระเบื้องปูภายนอก01

กระเบื้องปูพื้นภายนอก ต้องเลือกอย่างไร

ในการเลือก กระเบื้องปูภายนอก ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญของคนที่กำลังสร้างบ้าน เพราะนอกจากในเรื่องของลายที่ถูกใจ สไตล์ที่ชื่นชอบแล้ว คุณอาจจะยังต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสม ความแข็งแรงทนทานเพียงพอที่จะเป็นกระเบื้องสำหรับการใช้งานเพื่อป้องกันปัญหาจุกจิกที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักสำหรับคนรักบ้านทั้งหลาย

เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ BEZEN ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง จึงจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกกระเบื้องปูภายนอก และต้องอาศัยปัจจัยใดบ้างในการตัดสินใจเพื่อให้คุณนั้นได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในการปูพื้นภายนอก

คุณสมบัติที่สำคัญของกระเบื้องที่ใช้สำหรับการปูพื้นภายนอก(ไม่ลื่น)

การเลือก กระเบื้องปูภายนอกแบบต่าง ๆ Exterior Tile เป็นส่วนหนึ่งสำคัญในการสร้างบ้านเป็นอย่างมาก โดยกระเบื้องปูภายนอกจะจัดกลุ่มที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนในการเลือก จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

ความแข็งแรงทนทาน

   อันดับแรกที่สำคัญที่สุดก็คือในเรื่องของความแข็งแรงและความทนทานของกระเบื้อง เพราะกระเบื้องปูภายนอกต้องเจอทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทั้งแดด ฝน ฝุ่นละออง รวมถึงเมื่อใช้ในพื้นที่ที่มีคนเดินหรือทางรถผ่านก็ต้องมีการ สึกกร่อน เป็นรอย ถ้าใช้กระเบื้องประเภทที่ความแข็งแรงไม่เยอะ อาจจะเกิดการแตกร้าว สีเปลี่ยน เป็นรอยขูดขีด ซึ่งจะทำให้พื้นที่ตรงนั้นไม่สวยและเราก็ต้องรื้อกระเบื้องเปลี่ยนใหม่ เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา เพราะฉะนั้นต้องเลือกกระเบื้องให้ถูกประเภท สเปกต่างๆของกระเบื้องเพียงพอกับการใช้งาน

การดูดซึมน้ำของกระเบื้อง

   ซึ่งในกระเบื้องแต่ละประเภทจะมีการดูดซึมน้ำแตกต่างกัน กระเบื้องภายนอกเราแนะนำว่าควรใช้กระเบื้องประเภทที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ ตั้งแต่ 0.5% ลงไป เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องได้ยาก และผิวหน้ากระเบื้องจะสวยงามยาวนาน

ลวดลาย ดีไซน์

   เลือกลวดลายกระเบื้องให้เข้ากับสไตล์บ้าน โทนสี ผิวสัมพัสของกระเบื้อง เรื่องนี้เจ้าของบ้านสามารถเลือกได้ตามที่ชอบเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากให้ดูเปื้อนยากๆ ก็แนะนำเป็นโทนสีเข้มก็จะช่วยพรางสายตาได้

ความสามารถในการรับน้ำหนัก

   กระเบื้องปูพื้นภายนอก จำเป็นจะต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนักให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน เช่น ปูโรงรถ ปูพื้นที่ทางเข้าบ้าน ทางเดิน ซึ่งหากนำกระเบื้องที่รับน้ำหนักได้น้อยไปปูในพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักเยอะกระเบื้องจะแตกร้าวได้ 

ความลื่นของกระเบื้อง

   ผิวหน้าของกระเบื้องแต่ละแบบจะมีผิวสัมพัสที่แตกต่างกันทั้งแบบเรียบและแบบที่มีลวดลาย และจะมีความหยาบของผิวหน้าที่จะมีผลกับการใช้งาน ซึ่งกระเบื้องที่มีผิวหน้าเรียบหรือมีความหยาบน้อยๆ เวลาโดนน้ำจะลื่นมากและทำให้ รถ หรือ คนที่ใช้งาน เกิดอุบัติเหตุได้ หากพื้นที่ตรงนั้นที่เราจะใช้เป็นพื้นที่ที่ต้องมีรถหรือคนเดินผ่านแนะนำให้เลือกกระเบื้องที่มีความหยาบของผิวหน้าสูง เพราะเวลาโดนฝนหรือเปียกน้ำจะไม่ลื่น ลดการเกิดอุบัติเหตุได้

กระเบื้องปูภายนอก03

กระเบื้องที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในการปูหน้าบ้าน

กระเบื้องสำหรับการใช้ปูนหน้าบ้านเป็นเรื่องสำคัญของใครหลายๆ คน เพราะมันคือพื้นที่แรกที่คุณเดินเข้าบ้านมา เพราะฉะนั้นสำหรับการเลือกกระเบื้องปูหน้าบ้าน ต้องคำนึงหลายๆ อย่างทั้งในเรื่องของความสวยงาม คงทน และปลอดภัย ซึ่งวันนี้เราก็มีชนิดของกระเบื้องที่มาแนะนำกันดังนี้

กระเบื้องพอร์ซเลน

   เป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมมากในงานภายนอกเพราะด้วยคุณสมบัติของกระเบื้อง เนื้อกระเบื้องพอร์ซเลนที่มีคุณภาพจะเป็นเนื้อโฮโมจีเนียส หรือเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น หมายความว่าจะมีความแข็งแรงของกระเบื้องจะสูง รูพรุนน้อยดูดซึมน้ำต่ำราวๆ 0.5% และสามารถรับน้ำหนักได้สูง (ถ้าเป็นของทางบีเซนจะรับน้ำหนักได้กว่า 450 กก./ตารางเซนติเมตร) ซึ่งสเปกโดยรวมจะเหมาะกับงานภายนอกมาก.

กระเบื้องเซรามิก

   กระเบื้องเซรามิกเป็นอีกหนึ่งประเภทของกระเบื้องที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังสามารถหาเลือกซื้อได้ง่าย มีลวดลายหลายแบบตรงกับความต้องการของใครหลายๆ คน เช่นกราฟิกลายไม้ ลายหิน ลายหินอ่อนต่างๆ ซึ่งค่อนข้างเหมาะสมแก่การใช้ปูกระเบื้องบริเวณหน้าบ้าน แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าให้เช็คเรื่องสเปกกระเบื้องแต่ละรุ่นให้ดีก่อนว่าใช้ภายนอกได้ใหม รับน้ำหนักได้เท่าไหร่.

กระเบื้องปูภายนอก02
กระเบื้องปูโรงรถ01

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องพอร์ซเลน ใช้งานภายนอก ไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่
Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย
กระเบื้องปูภายนอก01

กระเบื้องปูพื้นภายนอก ต้องเลือกอย่างไร

ในการเลือก กระเบื้องปูภายนอก ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญของคนที่กำลังสร้างบ้าน เพราะนอกจากในเรื่องของลายที่ถูกใจ สไตล์ที่ชื่นชอบแล้ว คุณอาจจะยังต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสม ความแข็งแรงทนทานเพียงพอที่จะเป็นกระเบื้องสำหรับการใช้งานเพื่อป้องกันปัญหาจุกจิกที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักสำหรับคนรักบ้านทั้งหลาย

เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ BEZEN ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง จึงจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกกระเบื้องปูภายนอก ว่าควรเลือกอย่างไร และต้องอาศัยปัจจัยใดบ้างในการตัดสินใจเพื่อให้คุณนั้นได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในการปูพื้นภายนอก

กระเบื้องปูภายนอก09

คุณสมบัติสำคัญของกระเบื้องปูพื้นภายนอก (ไม่ลื่น)

การเลือก กระเบื้องปูภายนอกแบบต่าง ๆ Exterior Tile เป็นส่วนหนึ่งสำคัญในการสร้างบ้านเป็นอย่างมาก โดยกระเบื้องปูภายนอกจะจัดกลุ่มที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนในการเลือก จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

 

ความแข็งแรงทนทาน

อันดับแรกที่สำคัญที่สุดก็คือในเรื่องของความแข็งแรงและความทนทานของกระเบื้อง เพราะกระเบื้องปูภายนอกต้องเจอทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทั้งแดด ฝน ฝุ่นละออง รวมถึงเมื่อใช้ในพื้นที่ที่มีคนเดินหรือทางรถผ่านก็ต้องมีการ สึกกร่อน เป็นรอย ถ้าใช้กระเบื้องประเภทที่ความแข็งแรงไม่เยอะ อาจจะเกิดการแตกร้าว สีเปลี่ยน เป็นรอยขูดขีด ซึ่งจะทำให้พื้นที่ตรงนั้นไม่สวยและเราก็ต้องรื้อกระเบื้องเปลี่ยนใหม่ เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา เพราะฉะนั้นต้องเลือกกระเบื้องให้ถูกประเภท สเปกต่างๆของกระเบื้องเพียงพอกับการใช้งาน

การดูดซึมน้ำของกระเบื้อง

ซึ่งในกระเบื้องแต่ละประเภทจะมีการดูดซึมน้ำแตกต่างกัน กระเบื้องภายนอกเราแนะนำว่าควรใช้กระเบื้องประเภทที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ ตั้งแต่ 0.5% ลงไป เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราในเนื้อกระเบื้องได้ยาก และผิวหน้ากระเบื้องจะสวยงามยาวนาน

ลวดลาย ดีไซน์

เลือกลวดลายกระเบื้องให้เข้ากับสไตล์บ้าน โทนสี ผิวสัมพัสของกระเบื้อง เรื่องนี้เจ้าของบ้านสามารถเลือกได้ตามที่ชอบเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากให้ดูเปื้อนยากๆ ก็แนะนำเป็นโทนสีเข้มก็จะช่วยพรางสายตาได้

ความสามารถในการรับน้ำหนัก

กระเบื้องปูพื้นภายนอก จำเป็นจะต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนักให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน เช่น ปูโรงรถ ปูพื้นที่ทางเข้าบ้าน ทางเดิน ซึ่งหากนำกระเบื้องที่รับน้ำหนักได้น้อยไปปูในพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักเยอะกระเบื้องจะแตกร้าวได้ 

ความลื่นของกระเบื้อง

ผิวหน้าของกระเบื้องแต่ละแบบจะมีผิวสัมพัสที่แตกต่างกันทั้งแบบเรียบและแบบที่มีลวดลาย และจะมีความหยาบของผิวหน้าที่จะมีผลกับการใช้งาน ซึ่งกระเบื้องที่มีผิวหน้าเรียบหรือมีความหยาบน้อยๆ เวลาโดนน้ำจะลื่นมากและทำให้ รถ หรือ คนที่ใช้งาน เกิดอุบัติเหตุได้ หากพื้นที่ตรงนั้นที่เราจะใช้เป็นพื้นที่ที่ต้องมีรถหรือคนเดินผ่านแนะนำให้เลือกกระเบื้องที่มีความหยาบของผิวหน้าสูง เพราะเวลาโดนฝนหรือเปียกน้ำจะไม่ลื่น ลดการเกิดอุบัติเหตุได้

กระเบื้องปูภายนอก03

กระเบื้องที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานภายนอก

กระเบื้องสำหรับการใช้ปูนหน้าบ้านเป็นเรื่องสำคัญของใครหลายๆ คน เพราะมันคือพื้นที่แรกที่คุณเดินเข้าบ้านมา เพราะฉะนั้นสำหรับการเลือกกระเบื้องปูหน้าบ้าน ต้องคำนึงหลายๆ อย่างทั้งในเรื่องของความสวยงาม คงทน และปลอดภัย ซึ่งวันนี้เราก็มีชนิดของกระเบื้องที่มาแนะนำกันดังนี้

กระเบื้องพอร์ซเลน

เป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมมากในงานภายนอกเพราะด้วยคุณสมบัติของกระเบื้อง เนื้อกระเบื้องพอร์ซเลนที่มีคุณภาพจะเป็นเนื้อโฮโมจีเนียส หรือเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น หมายความว่าจะมีความแข็งแรงของกระเบื้องจะสูง รูพรุนน้อยดูดซึมน้ำต่ำราวๆ 0.5% และสามารถรับน้ำหนักได้สูง (ถ้าเป็นของทางบีเซนจะรับน้ำหนักได้กว่า 450 กก./ตารางเซนติเมตร) ซึ่งสเปกโดยรวมจะเหมาะกับงานภายนอกมาก.

กระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิกเป็นอีกหนึ่งประเภทของกระเบื้องที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังสามารถหาเลือกซื้อได้ง่าย มีลวดลายหลายแบบตรงกับความต้องการของใครหลายๆ คน เช่นกราฟิกลายไม้ ลายหิน ลายหินอ่อนต่างๆ ซึ่งค่อนข้างเหมาะสมแก่การใช้ปูกระเบื้องบริเวณหน้าบ้าน แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าให้เช็คเรื่องสเปกกระเบื้องแต่ละรุ่นให้ดีก่อนว่าใช้ภายนอกได้ใหม รับน้ำหนักได้เท่าไหร่.

กระเบื้องปูภายนอก02
กระเบื้องปูโรงรถ01

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องพอร์ซเลน ใช้งานภายนอก ไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่
Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

เชื้อราในกระเบื้องเกิดจากอะไร

เชื้อราในกระเบื้องเกิดจากอะไร ?

เชื้อราในกระเบื้อง01

เชื้อราในกระเบื้อง คือฝันร้ายของใครหลายคนที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับบ้านที่คุณรักอย่างแน่นอน ซึ่งมักจะมีสาเหตุที่เกิดจากความชื้นที่สะสมนาน และความสกปรกที่เกิดขึ้นจึงเกิดเป็นเชื้อรา.

ความชื้นส่งผลยังไง?
เพราะเจ้าตัวความชื้นเมื่อเกาะอยู่บนกระเบื้องและระเหยออกไป จะมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลือนั้นก็คือตะกอนแร่ธาตุ ที่ก่อให้เกิดปัญหารอยด่าง และรอยคราบผิวบนกระเบื้องตามมาหลังจากนั้น

มีปัจจัยอื่นหรือไม่ที่ก่อให้เกิดเชื้อรา
ปัจจัยอื่นๆ ที่ ทำให้เกิดเชื้อราในกระเบื้อง นั่นก็การยาแนว ที่ไม่ดีพอ จึงทำให้น้ำซึมเข้าไปกัดกร่อนตัวยาแนวและตัวกระเบื้อง และกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อรา

เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ บีเซน จะมาแนะนำวิธีที่คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้นได้บนบ้านของคุณและยังรวมถึงการแนะนำกระเบื้องเพื่อป้องกันปัญหาตั้งแต่ต้น เพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้นและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

วิธีการป้องกันหลีกเลี่ยงเชื้อราบนกระเบื้องในห้องน้ำ

ปัญหา การเกิดเชื้อราในกระเบื้อง ในห้องน้ำส่วนมากมักจะเกิดจากการที่ตัวยาแนว มีคราบสกปรกสะสมเช่นคราบอินทรีย์จากการอาบน้ำ และความชื้นของอุณหภูมิในห้องน้ำที่ส่งผลทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งวิธีการป้องกันเชื้อราในห้องน้ำสามารถทำได้ดังนี้

1.ห้องน้ำควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก มีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นที่มากเกินไปซึ่งเป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย
2.เช็ดทำความสะอาดพื้นกระเบื้องห้องน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อไม่ให้คราบสกปรกเหล่านั้นเกิดเป็นคราบฝั้งแน่น
3.คราบต่างๆ ที่ฝังแน่น กำจัดยากควรใช้ไฮเตอร์ 25% ผสมกับเบกกิ้งโซดา 75% แล้วทาลงไปตามคราบ ทิ้งไว้สักสิบห้านาทีแล้วจึงขัดซ้ำ

 

เชื้อราในเนื้อกระเบื้อง02

วิธีการป้องกันและหลีกเลี่ยงเชื้อราบนกระเบื้องในห้องครัว

พื้นในห้องครัวจัดเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่มักจะเกิดปัญหาเชื้อราบนกระเบื้องได้พอๆ กับห้องน้ำ ซึ่งสำหรับวิธีการดูแลรักษา เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นคุณสามารถทำตามได้ดังนี้

1.ทำความสะอาดกระเบื้องบ่อยครั้งเพื่อไม่ให้เกิดเป็นคราบสกปรกฝั้งแน่น
2.เช็ดทำความสะอาดตามซอกมุมต่างๆ 
3.ถ้ามีคราบฝังแน่นติดอยู่บนพื้นให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอุ่นแล้วนำมาถูพื้น ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับผนังในห้องครัวที่ปูด้วยเซรามิกเช่นกัน

วิธีการลดความชื้นในบ้าน สาเหตุหลักของการเกิดเชื้อรา

ในเมื่อความชื้นคือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเชื้อราบนกระเบื้อง เพราะฉะนั้นการรู้วิธีการจัดการกับความชื้นจึงเป็นเรื่องง่ายๆ เป็นการป้องกันเชื้อราในกระเบื้องที่ดี ที่คุณสามารถทำได้ในทุกๆ วันเพื่อดูแลบ้านที่คุณรัก ซึ่งคุณสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้

• ใช้ต้นไม้ลดความชื้น เช่น เฟิร์นบอสตัน ปาล์มใบไผ่ ไอวี่อังกฤษ มอนสเตอร่า เป็นต้น และยังมีต้นไม้ที่ช่วยในเรื่องของความชื่นได้อีกหลายต้น ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ต้นไม้จำพวกนี้จะมีการดูดซับความชื้นการพื้นที่ ในเวลาที่มีความชื้นมากๆ ส่วนในเวลาที่ห้องมีความแห้งเกินไปหรือร้อนเกินไปก็จะคลายความชื้นออกมา เพื่อช่วยปรับสมดุลในห้องนั้นเอง
• หมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพื้นห้องน้ำและผนัง ขัดตามร่องยาแนวด้วยแปรงสีฟันเก่า เพื่อป้องกันโรคราน้ำค้าง
• เปิดประตูบานเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่แดดจัดๆ โดยแนะนำว่าให้เปิดประตูเฉพาะ ในด้านที่หันไปทางทิศใต้หรือตะวันออกเท่านั้น หลีกเลี่ยงการปิดประตูหน้าต่างทึบอยู่ตลอดเวลา

เชื้อราในเนื้อกระเบื้อง03

เมื่อกระเบื้องเป็นเชื้อราแล้วสามารถแก้ไขได้อย่างไร

หลายคนที่เข้ามาอ่านในบทความนี้หลายคนคงจะเจอปัญหานี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นลองมาทำตามกันไปพร้อมๆกันเลย

1. ล้างทำความสะอาดพื้นที่โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำทั่วไปล้างและขัดออกก่อน ถ้าคราบสกปรกและเชื้อราสามารถล้างออกได้ก็แสดงว่าเชื้อรายังไม่เข้าเนื้อกระเบื้อง.
2. ถ้าล้างแล้วยังเหลือคราบสกปรกที่ตามร่องยาแนวให้ใช้เครื่องมือขูดร่องยาแนวหรือมีดคัตเตอร์ขูดยาแนวออกให้หมด แล้วยาแนวใหม่.
3. หากเชื้อรายังอยู่ที่ผิวกระเบื้องแต่น้ำยาล้างห้องน้ำล้างไม่ออกแล้ว ให้ใช้ กรดเกลือหรือกรดไฮโดรคลอริก ล้างทำความสะอาด **ต้องเช็คให้มั่นใจก่อนว่ากระเบื้องที่ใช้อยู่ปัจจุบันสามารถทนกรดได้มากน้อยขนาดใหน หากกระเบื้องที่ใช้เป็นกระเบื้องที่ไม่สามารถทนกรดได้ก็ห้ามใช้วิธีนี้เพราะกระเบื้องจะเป็นด่าง ผิวหน้ากระเบื้องจะไม่สวย.
4. สุดท้ายหากใช้ทุกวิธีข้างต้นแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ เชื้อราเข้าไปในเนื้อกระเบื้องแล้วไม่สามารถขัดออกต้องทำใจรื้อและปูใหม่ เพราะเราไม่สามารถขัดด้านในกระเบื้องได้.

กระเบื้องพอร์ซเลน02

เลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำ วิธีการป้องกันเชื้อราที่ดีที่สุด

การตัดไฟเสียแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราบนกระเบื้อง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันปัญหาเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้นบนพื้นบ้านของคุณ ซึ่งการเลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราน้อยที่สุด ถือเป็นความคิดที่ดี ที่จะช่วยให้คุณสบายใจไปอีกเปราะ โดยกระเบื้องที่มีความเหมาะสมได้แก่

• กระเบื้องพอร์ซเลน
กระเบื้องชนิดนี้ค่อนข้างมีความหนาแน่นสูงมาก ดูดซึมน้ำต่ำเฉลี่ย 0.5% ซึ่งมีการเผาด้วยอุณหภูมิที่สูง มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่นจึงทำให้คุณสมบัติในการดูดซึมน้ำนั้นต่ำมาก เหมาะแก่การนำมาทำเป็นพื้นห้องน้ำและพื้นห้องครัวได้สบาย

• กระเบื้องแกรนิตโต้
เป็นกระเบื้องแนะนำอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยให้คุณสบายใจในเรื่อง กระเบื้องเชื้อรา ได้เป็นอย่างดี เพราะกระเบื้องชนิดนี้มีส่วนผสมเป็นหินแกรนิต มีความหนาแน่นสูงและมีความทนทาน มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำ น้อยกว่า 0.1% ทนทานต่อความชื้นได้ดีเลยทีเดียว

เชื่อว่าทุกคนที่สร้างบ้านต้องการสิ่งที่ดีที่สุดและเกิดปัญหาภายหลังน้อยที่สุด ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาและรู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรทราบเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่ต้องการ ผลิตภัณฑ์ดีๆ และได้รับคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง วันนี้คุณสามารถ ติดต่อได้โดยตรงได้เลยที่

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

เชื้อราในกระเบื้องเกิดจากอะไร?

เชื้อราในกระเบื้อง01

เชื้อราในกระเบื้อง คือฝันร้ายของใครหลายคนที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับบ้านที่คุณรักอย่างแน่นอน ซึ่งมักจะมีสาเหตุที่เกิดจากความชื้นที่สะสมนาน และความสกปรกที่เกิดขึ้นจึงเกิดเป็นเชื้อรา.

ความชื้นส่งผลยังไง?
เพราะเจ้าตัวความชื้นเมื่อเกาะอยู่บนกระเบื้องและระเหยออกไป จะมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลือนั้นก็คือตะกอนแร่ธาตุ ที่ก่อให้เกิดปัญหารอยด่าง และรอยคราบผิวบนกระเบื้องตามมาหลังจากนั้น

มีปัจจัยอื่นหรือไม่ที่ก่อให้เกิดเชื้อรา
ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดเชื้อราในกระเบื้อง นั่นก็การยาแนว ที่ไม่ดีพอ จึงทำให้น้ำซึมเข้าไปกัดกร่อนตัวยาแนวและตัวกระเบื้อง และกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อรา

เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ บีเซน จะมาแนะนำวิธีที่คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้นได้บนบ้านของคุณและยังรวมถึงการแนะนำกระเบื้องเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความชื้นและเชื้อรา ตั้งแต่ต้นเพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้นและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

วิธีการป้องกันหลีกเลี่ยงเชื้อราบนกระเบื้องในห้องน้ำ

ปัญหาการเกิดเชื้อราในกระเบื้อง ในห้องน้ำส่วนมากมักจะเกิดจากการที่ตัวยาแนว มีคราบสกปรกสะสมเช่นคราบอินทรีย์จากการอาบน้ำ และความชื้นของอุณหภูมิในห้องน้ำที่ส่งผลทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งวิธีการป้องกันเชื้อราในห้องน้ำสามารถทำได้ดังนี้

1. ห้องน้ำควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก มีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นที่มากเกินไปซึ่งเป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย
2. เช็ดทำความสะอาดพื้นกระเบื้องห้องน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อไม่ให้คราบสกปรกเหล่านั้นเกิดเป็นคราบฝั้งแน่น
3. คราบต่างๆ ที่ฝังแน่น กำจัดยากควรใช้ไฮเตอร์ 25% ผสมกับเบกกิ้งโซดา 75% แล้วทาลงไปตามคราบ ทิ้งไว้สักสิบห้านาทีแล้วจึงขัดซ้ำ

 

เชื้อราในเนื้อกระเบื้อง02

วิธีการป้องกันและหลีกเลี่ยงเชื้อราบนกระเบื้องในห้องครัว

พื้นในห้องครัวจัดเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่มักจะเกิดปัญหาเชื้อราบนกระเบื้องได้พอๆ กับห้องน้ำ ซึ่งสำหรับวิธีการดูแลรักษา เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นคุณสามารถทำตามได้ดังนี้

1.ทำความสะอาดกระเบื้องบ่อยครั้งเพื่อไม่ให้เกิดเป็นคราบสกปรกฝั้งแน่น
2.เช็ดทำความสะอาดตามซอกมุมต่างๆ 
3.ถ้ามีคราบฝังแน่นติดอยู่บนพื้นให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอุ่นแล้วนำมาถูพื้น ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับผนังในห้องครัวที่ปูด้วยเซรามิกเช่นกัน

วิธีการลดความชื้นในบ้าน สาเหตุหลักของการเกิดเชื้อราบนพื้น

ในเมื่อความชื้นคือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเชื้อราบนกระเบื้อง เพราะฉะนั้นการรู้วิธีการจัดการกับความชื้นจึงเป็นเรื่องง่ายๆ เชื้อรากระเบื้องวิธีแก้ไข ที่ดี ที่คุณสามารถทำได้ในทุกๆ วันเพื่อดูแลบ้านที่คุณรัก ซึ่งคุณสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้

• ลองใช้ต้นไม้ลดความชื้นในพื้นที่ตรงนั้น เช่น เฟิร์นบอสตัน ปาล์มใบไผ่ ไอวี่อังกฤษ มอนสเตอร่า เป็นต้น และยังมีต้นไม้ที่ช่วยในเรื่องของความชื่นได้อีกหลายต้น ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ต้นไม้จำพวกนี้จะมีการดูดซับความชื้นการพื้นที่นั้นๆ ในเวลาที่มีความชื้นมากๆ ส่วนในเวลาที่ห้องมีความแห้งเกินไปหรือร้อนเกินไปก็จะคลายความชื้นออกมา เพื่อช่วยปรับสมดุลในห้องนั้นเอง
• หมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพื้นห้องน้ำและผนัง ขัดตามร่องยาแนวด้วยแปรงสีฟันเก่า เพื่อป้องกันโรคราน้ำค้าง
• เปิดประตูบานเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่แดดจัดๆ โดยแนะนำว่าให้เปิดประตูเฉพาะ ในด้านที่หันไปทางทิศใต้หรือตะวันออกเท่านั้น หลีกเลี่ยงการปิดประตูหน้าต่างทึบอยู่ตลอดเวลา

เชื้อราในเนื้อกระเบื้อง03

เมื่อกระเบื้องเป็นเชื้อราแล้วสามารถแก้ไขได้อย่างไร

หลายคนที่เข้ามาอ่านในบทความนี้หลายคนคงจะเจอปัญหานี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นลองมาทำตามกันไปพร้อมๆกันเลย

1. ล้างทำความสะอาดพื้นที่โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำทั่วไปล้างและขัดออกก่อน ถ้าคราบสกปรกและเชื้อราสามารถล้างออกได้ก็แสดงว่าเชื้อรายังไม่เข้าเนื้อกระเบื้อง.
2. ถ้าล้างแล้วยังเหลือคราบสกปรกที่ตามร่องยาแนวให้ใช้เครื่องมือขูดร่องยาแนวหรือมีดคัตเตอร์ขูดยาแนวออกให้หมด แล้วยาแนวใหม่.
3. หากเชื้อรายังอยู่ที่ผิวกระเบื้องแต่น้ำยาล้างห้องน้ำล้างไม่ออกแล้ว ให้ใช้ กรดเกลือหรือกรดไฮโดรคลอริก ล้างทำความสะอาด **ต้องเช็คให้มั่นใจก่อนว่ากระเบื้องที่ใช้อยู่ปัจจุบันสามารถทนกรดได้มากน้อยขนาดใหน หากกระเบื้องที่ใช้เป็นกระเบื้องที่ไม่สามารถทนกรดได้ก็ห้ามใช้วิธีนี้เพราะกระเบื้องจะเป็นด่าง ผิวหน้ากระเบื้องจะไม่สวย.
4. สุดท้ายหากใช้ทุกวิธีข้างต้นแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ เชื้อราเข้าไปในเนื้อกระเบื้องแล้วไม่สามารถขัดออกต้องทำใจรื้อและปูใหม่ เพราะเราไม่สามารถขัดด้านในกระเบื้องได้.

กระเบื้องพอร์ซเลน02

เลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำ วิธีการป้องกันเชื้อราที่ดีที่สุด

การตัดไฟเสียแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราบนกระเบื้อง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันปัญหาเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้นบนพื้นบ้านของคุณ ซึ่งการเลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราน้อยที่สุด ถือเป็นความคิดที่ดี ที่จะช่วยให้คุณสบายใจไปอีกเปราะ โดยกระเบื้องที่มีความเหมาะสมได้แก่

• กระเบื้องพอร์ซเลน
กระเบื้องชนิดนี้ค่อนข้างมีความหนาแน่นสูงมาก มีการเผาด้วยอุณหภูมิที่สูง มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่นจึงทำให้คุณสมบัติในการดูดซึมน้ำนั้นต่ำมาก เหมาะแก่การนำมาทำเป็นพื้นห้องน้ำและพื้นห้องครัวได้สบาย

• กระเบื้องแกรนิตโต้
เป็นกระเบื้องแนะนำอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยให้คุณสบายใจในเรื่อง กระเบื้องเชื้อรา ได้เป็นอย่างดี เพราะกระเบื้องชนิดนี้มีส่วนผสมเป็นหินแกรนิต มีความหนาแน่นสูงและมีความทนทาน มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำ น้อยกว่า 0.1% ทนทานต่อความชื้นได้ดีเลยทีเดียว

เชื่อว่าทุกคนที่สร้างบ้านต้องการสิ่งที่ดีที่สุดและเกิดปัญหาภายหลังน้อยที่สุด ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาและรู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรทราบเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่ต้องการ ผลิตภัณฑ์ดีๆ และได้รับคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง วันนี้คุณสามารถ ติดต่อได้โดยตรงได้เลยที่

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

กระเบื้องมีกี่ประเภท วิธีการใช้งานแบบใหน อยากปูกระเบื้องห้ามพลาด!

กระเบื้องมีกี่ประเภท เรื่องที่ต้องรู้ก่อนปลูกบ้าน

   ก่อนจะสร้างบ้านสิ่งสำคัญที่จะต้องรู้ก็คือ กระเบื้องมีกี่ชนิด เพราะกระเบื้องถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามการใช้งาน และตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยแต่ละประเภทนั้นก็ออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนสร้างบ้านที่ไม่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสีสัน ขนาด การเคลือบ และยังรวมถึงจุดประสงค์ของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ bezenceramictiles จึงจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักว่ากระเบื้องนั้นมีทั้งหมดกี่ชนิด เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

กระเบื้องดินเผา

1. กระเบื้องดินเผา ราคาถูก ดูดซึมน้ำสูง

มาเริ่มกันที่ชนิดแรกนั่นก็คือกระเบื้องดินเผา “Earthenware Flooring Tiles” ซึ่งเป็นกระเบื้องที่ค่อนข้างได้รับความนิยมน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ ในปัจจุบัน ส่วนมากแล้วกระเบื้องชนิดนี้มักจะถูกนำมาทำเป็นหลังคา สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านแบบเรือนไทย ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำค่อนข้างสูงถึง 15-22% เลยทีเดียว มีข้อดีคือวัสดุชนิดนี้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิก

2. กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องยอดนิยมในการสร้างบ้าน

กระเบื้องเซรามิก มีวัสดุทำมาจาก หิน แร่ และดิน นำมาผสมรวมกันและนำไปตากแดดให้แห้ง และหลังจากนั้นก็นำไปเผา ซึ่งกระเบื้องเซรามิกนี้ยิ่งเผาที่อุณหภูมิสูงมากยิ่งขึ้นก็จะส่งผลทำให้กระเบื้องเซรามิกนั้นมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องมีกี่ประเภท ก็แบ่งออกเป็นสองชนิดก็คือแบบเคลือบและแบบไม่เคลือบ

แบบเคลือบ กระเบื้องเซรามิกแบบเคลือบ ตัววัสดุจะเป็น Stone Ware ในการเผาจะต้องใช้อุณหภูมิที่สูงกว่ากระเบื้องแบบที่ไม่เคลือบ โดยส่วนมากแล้วผลิตภัณฑ์มักจะผลิตออกมาเป็นสีขาว มีคุณสมบัติค่อนข้างทึบแสง มักจะใช้เป็นวัสดุในการปูพื้น และมีคุณสมบัติทึบแสง สามารถป้องกันการดูดซึมน้ำได้ระดับปานกลาง

แบบไม่เคลือบ กระเบื้องแบบไม่เคลือบส่วนมากแล้วจะถูกใช้สำหรับการปูผนัง เนื้อค่อนข้างละเอียด ไม่มีคุณสมบัติป้องกันการดูดซึมของน้ำได้ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเคลือบ ซึ่งเซรามิกแบบไม่เคลือบ จะจัดอยู่ในประเภท Earthenware

กระเบื้องพอร์ซเลน

3. กระเบื้องพอร์ชเลน กระเบื้องที่มีคุณสมบัติทนทาน

กระเบื้องพอร์ชเลน คือกระเบื้องที่มีวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย รูพรุนค่อนข้างน้อย มีคุณสมบัติในการป้องกันการดูดซึมได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะแก่การใช้งานในการปูผนัง หรือปูพื้นทั่วไป กระเบื้องชนิดนี้จะมีวัสดุผลิตจากดินขาวเป็นหลัก บวกกับแร่ชนิดอื่นๆ และจะต้องได้มีการผ่านกระบวนการเผาที่เกิน 1,300 องศาเซลเซียส

กระเบื้องโมเสก

4. กระเบื้องโมเสก หรือ Mosaic Tiles สวยและทน

กระเบื้องโมเสกจะเป็นกระเบื้องที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งเหมาะแก่การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการปูพื้นหรือว่าการปูผนัง เพราะว่าสามารถเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี กระเบื้องชนิดนี้ค่อนข้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีคุณสมบัติทนสภาวะกรดด่าง สีไม่ซีดจางง่าย ขนาดของกระเบื้องชนิดนี้จะมีประมาณ 30x30cm ส่วนมากแล้วคนนิยมใช้กระเบื้องประเภทนี้ไว้สำหรับการตกแต่งเพื่อความสวยงาม

บล็อกแก้ว

5. บล็อกแก้ว กระเบื้องคุณสมบัติโปร่งแสง

กระเบื้องแก้วเป็นกระเบื้องที่มีคุณลักษณะโปร่งแสง มีความทนทานเมื่อเปรียบเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจมีความคล้ายคลึงกันกับกระเบื้องโมเสก ซึ่งอย่าจำสับสนกัน กระเบื้องมีกี่ชนิด แต่ว่าจะสังเกตได้จากความมันวาวที่สูงกว่า ผลิตจากชิ้นแก้วที่นำมาขึ้นงานเป็นแผ่นกระเบื้อง แต่มีคุณสมบัติแตกต่างจากกระเบื้องโมเสกก็คือไม่สามารถทนทานต่อแรงน้ำหนักได้ดีเท่าไหร่เหมาะทั้งสำหรับการปูพื้นและปูผนัง

แผ่นหินอ่อน

6. แผ่นหินอ่อน หรือ Marble หรูหราและสวยงาม

กระเบื้องประเภทแผ่นหินอ่อนมีหลากหลายโทนสีแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สีขาว ไปจนถึงสีเขียวเข้ม และค่อนข้างมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าเป็นของไทยลักษณะจะเป็นลายชมพูพรานกระต่าย เขางอบ และแดงปราจีนเป็นต้น แต่โดยส่วนมากแล้วหินอ่อนที่ได้รับความนิยมและมีลวดลายที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์มักจะนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี วัสดุชนิดนี้มีคุณสมบัติที่เงางาม แสดงออกถึงความหรูหรา อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างทนทาน เมื่อเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ เพราะมักจะไม่ผุ บวม หรือว่ากรอบ อีกทั้งยังสามารถดูแลรักษาได้ง่าย แต่มีข้อยกเว้นนั้นก็คือไม่มีคุณสมบัติทนต่อสภาวะกรด ซึ่งอาจจะต้องระวังในส่วนของตรงนี้

กระเบื้องยาง

7. กระเบื้องยาง หรือ Poly Vinyl Chloride ยืดหยุ่นสูง

กระเบื้องยางจะเป็นกระเบื้องประเภทที่สามารถทนแรงเสียดทานและแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับ กระเบื้องมีกี่ประเภท และอยากได้วัสดุที่ทนทาน กระเบื้องยางอาจจะตอบโจทย์เพราะมีคุณสมบัติคงทนต่อความชื้น และมีความหนืดสูง ดังนั้นวัสดุชนิดนี้จึงกันลื่นได้ดี การทำความสะอาดหรือการติดตั้งก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย วัสดุจะผลิตจาก PVC ซึ่งในปัจจุบันนี้กระเบื้องยางถูกนำไปใช้งานค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการ ปูพื้นคอนโด ปูพื้นบ้าน ปูคืนสำนักงานหรือแม้แต่การใช้งานในโรงพยาบาลต่างๆ

ทำไมจึงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ กระเบื้องมีกี่ประเภท ก่อนซื้อกระเบื้อง?

การจะสร้างบ้านหรือการสร้างที่อยู่อาศัย สำนักงานต่างๆ การเลือกกระเบื้องถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเลือกให้ตรงกับความต้องการ ตรงกับความชื่นชอบแล้ว การรู้จักประเภทของกระเบื้อง ยังทำให้คุณสามารถเลือกชนิดได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เหมาะสมแก่การใช้งาน การดูแลรักษาต่างก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดังนั้นแล้วก่อนจะตัดสินใจซื้อกระเบื้องอย่าลืมที่จะศึกษารายละเอียดให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาด้วยตนเองหรือแม้แต่การสอบถามจากเซลล์ หรือตัวแทนจำหน่ายที่ bezenceramictiles.com เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกระเบื้อง

กระเบื้องบีเซนเราเป็น กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพระดับยุโรป
หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

กระเบื้องมีกี่ประเภท? เรื่องที่ต้องรู้ก่อนปลูกบ้าน

   ก่อนจะสร้างบ้านสิ่งสำคัญที่จะต้องรู้ก็คือ กระเบื้องมีกี่ชนิด เพราะกระเบื้องถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามการใช้งาน และตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยแต่ละประเภทนั้นก็ออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนสร้างบ้านที่ไม่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสีสัน ขนาด การเคลือบ และยังรวมถึงจุดประสงค์ของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ bezenceramictiles จึงจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักว่ากระเบื้องนั้นมีทั้งหมดกี่ชนิด เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

กระเบื้องดินเผา

1. กระเบื้องดินเผา ราคาถูก ดูดซึมน้ำสูง

มาเริ่มกันที่ชนิดแรกนั่นก็คือกระเบื้องดินเผา “Earthenware Flooring Tiles” ซึ่งเป็นกระเบื้องที่ค่อนข้างได้รับความนิยมน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ ในปัจจุบัน ส่วนมากแล้วกระเบื้องชนิดนี้มักจะถูกนำมาทำเป็นหลังคา สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านแบบเรือนไทย ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำค่อนข้างสูงถึง 15-22% เลยทีเดียว มีข้อดีคือวัสดุชนิดนี้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิก

2. กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องยอดนิยมในการสร้างบ้าน

กระเบื้องเซรามิก มีวัสดุทำมาจาก หิน แร่ และดิน นำมาผสมรวมกันและนำไปตากแดดให้แห้ง และหลังจากนั้นก็นำไปเผา ซึ่งกระเบื้องเซรามิกนี้ยิ่งเผาที่อุณหภูมิสูงมากยิ่งขึ้นก็จะส่งผลทำให้กระเบื้องเซรามิกนั้นมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องมีกี่ประเภท ก็แบ่งออกเป็นสองชนิดก็คือแบบเคลือบและแบบไม่เคลือบ

แบบเคลือบ กระเบื้องเซรามิกแบบเคลือบ ตัววัสดุจะเป็น Stone Ware ในการเผาจะต้องใช้อุณหภูมิที่สูงกว่ากระเบื้องแบบที่ไม่เคลือบ โดยส่วนมากแล้วผลิตภัณฑ์มักจะผลิตออกมาเป็นสีขาว มีคุณสมบัติค่อนข้างทึบแสง มักจะใช้เป็นวัสดุในการปูพื้น และมีคุณสมบัติทึบแสง สามารถป้องกันการดูดซึมน้ำได้ระดับปานกลาง

แบบไม่เคลือบ กระเบื้องแบบไม่เคลือบส่วนมากแล้วจะถูกใช้สำหรับการปูผนัง เนื้อค่อนข้างละเอียด ไม่มีคุณสมบัติป้องกันการดูดซึมของน้ำได้ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเคลือบ ซึ่งเซรามิกแบบไม่เคลือบ จะจัดอยู่ในประเภท Earthenware

กระเบื้องพอร์ซเลน

3. กระเบื้องพอร์ชเลน กระเบื้องที่มีคุณสมบัติทนทาน

กระเบื้องพอร์ชเลน คือกระเบื้องที่มีวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย รูพรุนค่อนข้างน้อย มีคุณสมบัติในการป้องกันการดูดซึมได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะแก่การใช้งานในการปูผนัง หรือปูพื้นทั่วไป กระเบื้องชนิดนี้จะมีวัสดุผลิตจากดินขาวเป็นหลัก บวกกับแร่ชนิดอื่นๆ และจะต้องได้มีการผ่านกระบวนการเผาที่เกิน 1,300 องศาเซลเซียส

กระเบื้องโมเสก

4. กระเบื้องโมเสก หรือ Mosaic Tiles สวยและทน

กระเบื้องโมเสกจะเป็นกระเบื้องที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งเหมาะแก่การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการปูพื้นหรือว่าการปูผนัง เพราะว่าสามารถเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี กระเบื้องชนิดนี้ค่อนข้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีคุณสมบัติทนสภาวะกรดด่าง สีไม่ซีดจางง่าย ขนาดของกระเบื้องชนิดนี้จะมีประมาณ 30x30cm ส่วนมากแล้วคนนิยมใช้กระเบื้องประเภทนี้ไว้สำหรับการตกแต่งเพื่อความสวยงาม

บล็อกแก้ว

5. บล็อกแก้ว คุณสมบัติโปร่งแสง

กระเบื้องแก้วเป็นกระเบื้องที่มีคุณลักษณะโปร่งแสง มีความทนทานเมื่อเปรียบเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจมีความคล้ายคลึงกันกับกระเบื้องโมเสก ซึ่งอย่าจำสับสนกัน กระเบื้องมีกี่ชนิด แต่ว่าจะสังเกตได้จากความมันวาวที่สูงกว่า ผลิตจากชิ้นแก้วที่นำมาขึ้นงานเป็นแผ่นกระเบื้อง แต่มีคุณสมบัติแตกต่างจากกระเบื้องโมเสกก็คือไม่สามารถทนทานต่อแรงน้ำหนักได้ดีเท่าไหร่เหมาะทั้งสำหรับการปูพื้นและปูผนัง

แผ่นหินอ่อน

6. แผ่นหินอ่อน หรือ Marble หรูหราและสวยงาม

กระเบื้องประเภทแผ่นหินอ่อนมีหลากหลายโทนสีแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สีขาว ไปจนถึงสีเขียวเข้ม และค่อนข้างมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าเป็นของไทยลักษณะจะเป็นลายชมพูพรานกระต่าย เขางอบ และแดงปราจีนเป็นต้น แต่โดยส่วนมากแล้วหินอ่อนที่ได้รับความนิยมและมีลวดลายที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์มักจะนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี วัสดุชนิดนี้มีคุณสมบัติที่เงางาม แสดงออกถึงความหรูหรา อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างทนทาน เมื่อเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ เพราะมักจะไม่ผุ บวม หรือว่ากรอบ อีกทั้งยังสามารถดูแลรักษาได้ง่าย แต่มีข้อยกเว้นนั้นก็คือไม่มีคุณสมบัติทนต่อสภาวะกรด ซึ่งอาจจะต้องระวังในส่วนของตรงนี้

กระเบื้องยาง

7. กระเบื้องยาง หรือ Vinyl Tiles ยืดหยุ่นสูง

กระเบื้องยางจะเป็นกระเบื้องประเภทที่สามารถทนแรงเสียดทานและแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับ กระเบื้องมีกี่ประเภท และอยากได้วัสดุที่ทนทาน กระเบื้องยางอาจจะตอบโจทย์เพราะมีคุณสมบัติคงทนต่อความชื้น และมีความหนืดสูง ดังนั้นวัสดุชนิดนี้จึงกันลื่นได้ดี การทำความสะอาดหรือการติดตั้งก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย วัสดุจะผลิตจาก PVC ซึ่งในปัจจุบันนี้กระเบื้องยางถูกนำไปใช้งานค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการ ปูพื้นคอนโด ปูพื้นบ้าน ปูคืนสำนักงานหรือแม้แต่การใช้งานในโรงพยาบาลต่างๆ

ทำไมจึงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ กระเบื้องมีกี่ประเภท ก่อนซื้อกระเบื้อง?

การจะสร้างบ้านหรือการสร้างที่อยู่อาศัย สำนักงานต่างๆ การเลือกกระเบื้องถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเลือกให้ตรงกับความต้องการ ตรงกับความชื่นชอบแล้ว การรู้จักประเภทของกระเบื้อง ยังทำให้คุณสามารถเลือกชนิดได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เหมาะสมแก่การใช้งาน การดูแลรักษาต่างก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดังนั้นแล้วก่อนจะตัดสินใจซื้อกระเบื้องอย่าลืมที่จะศึกษารายละเอียดให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาด้วยตนเองหรือแม้แต่การสอบถามจากเซลล์ หรือตัวแทนจำหน่ายที่ bezenceramictiles.com เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกระเบื้อง

กระเบื้องบีเซนเราเป็น กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพระดับยุโรป
หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

กระเบื้องพอร์ซเลนคือ

กระเบื้องพอร์ซเลน “Porcelain Tiles” คืออะไร?

   เชื่อว่าคนที่กำลังจะสร้างบ้านและกำลังตัดสินใจเลือกกระเบื้องปูพื้น กระเบื้องผนัง น่าจะเคยได้ยินคำว่า กระเบื้องพอร์ซเลนกันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่ทราบว่ากระเบื้องพอร์ซเลน คืออะไร ใช้งานยังไง วันนี้ BEZEN จะมาแนะนำทุกๆคนให้รู้จักกับ”กระเบื้องพอร์ซเลน”ให้มากขึ้น ที่จะช่วยให้ทุกคน สามารถเลือกซื้อกระเบื้องได้อย่างถูกต้อง และตรงตามความต้องการมากที่สุด.
กระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลน คืออะไร ?

เป็นหนึ่งในกระเบื้องที่มีความทนทานที่สุดในบรรดากระเบื้องหลายๆแบบ ในส่วนของการผลิตนั้น จะมีส่วนผสมของดินขาวเป็นหลัก รวมกับแร่และส่วนผสมอื่นๆ (ขึ้นอยู่กับสูตรการผลิตของผู้ผลิตนั้นๆ) และผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1,300 องศาเซลเซียส จนเนื้อกระเบื้องถูกหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น หรือ กระเบื้องโฮโมจีเนียส กระเบื้องจึงมีความแข็งแรง ทนทาน  และมีค่าการดูดซึมน้ำอยู่เฉลี่ยประมาณ 0.5% ซึ่งกระเบื้องเซรามิกทั่วไปจะอยู่ที่ราวๆ 3-10% ส่วนพวกอิฐแดงก็จะมากกว่า 10% ขึ้นไป

การใช้งานกระเบื้องพอร์ซเลน

ใช้กรุผนัง ภายนอกและภายในอาคารได้ เพราะคุณสมบัติของพอร์ซเลนนั้นสามารถทนแดด ทนฝน ได้ดี ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กันทั้งกำแพงรั้ว เสาหน้าบ้าน กำแพงบ้านและยังสามารถใช้งานภายในอาคารได้ไม่ว่าจะใช้ปูผนังห้องน้ำหรือแม้แต่ผนังห้องนั่งเล่นได้ เนื้อกระเบื้องที่มีรูพรุนน้อย จึงไม่มีปัญหาดูดซึมความชื้น

ใช้ปูพื้น เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติกันน้ำและกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความทนทานสูง นอกจากความทนทานแล้ว ยังมีดีไซน์ที่หลากหลาย ช่วยให้คุณใช้ตกแต่งห้องน้ำหรือห้องครัวในฝันของคุณได้ สามารถใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นห้องน้ํา กระเบื้องปูพื้นห้องครัว และเหมาะอย่างยิ่งที่ใช้เป็น กระเบื้องปูพื้นภายนอก หรือกระเบื้องปูพื้นโรงรถก็ได้ (กระเบื้องบีเซนรับแรงกดได้เฉลี่ย 450 กก./ตารางเซนติเมตร)

สามารถจัดวางแพทเทิร์นในการปูให้มีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่นั้นๆ ลวดลายและผิวสัมพัสของกระเบื้องพอร์ซเลนสามารถทำให้เหมือนกับหินธรรมชาติหรือลายไม้ก็ได้ ซึ่งเมื่อนำไปปูภายนอกทำให้ได้รูปแบบที่สวยงามกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบๆตัวบ้านได้เป็นอย่างดี หรือการนำไปใช้ภายในอาคารก็สามารถสร้างความน่าสนใจหรือเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ความทนทานของกระเบื้องพอร์ซเลน

ทนทานต่อการขูดขีด เพราะมีค่าความแข็งสูง ซึ่งรอยขูดขีดจาก มีด กรรไกร จะไม่สามารถทำให้เป็นรอยได้ , ทนทานต่อความร้อนและแสงUV  ทนทานต่อความชื้น เชื้อรา คราบตะไคร่ เพราะเนื้อกระเบื้องที่มีรูพรุนน้อยและค่าการดูดซึมน้ำต่ำอยู่ราวๆ 0.5% , ทนทานต่อกรดด่าง และสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป ส่วนน้ำหนักที่แน่นอนขึ้นอยู่กับผู้ผลิตนั้นๆว่ารับได้มากเท่าไหร่

การดูแลรักษา

กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่ดูแลรักษาง่ายทั้งในเรื่องของรอยขูดขีดที่เกิดขึ้นยาก เชื้อราในเนื้อกระเบื้องที่เกิดยากเพราะค่าการดูดซึมน้ำต่ำ การดูแลรักษากระเบื้อง จึงมีแค่การดูแลความสะอาดจากคราบสกปรกและฝุ่นที่เกิดขึ้น โดย ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดก็เพียงพอแล้ว หรือหากเป็นคราบเปื้อนมากๆก็ควรเช็ดออกโดยทันทีไม่ให้เกิดคราบฝั้งลึก.

กระเบื้องพอร์ซเลน02

ข้อดี ข้อเสีย ของกระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แต่แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีข้อดีข้อเสีย จุดเด่นจุดด้อย เราจะมาดูกันว่ากระเบื้องพอร์ซเลนนั้น ดีไม่ดีอย่างไร

ข้อดี
1. มีความคงทนแข็งแรงสูง :  เพราะผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1,300 องศาเซลเซียส จนกระเบื้องมีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น เนื้อกระเบื้องจึงมีความแข็งแรง
2. การดูดซึมน้ำที่ต่ำกว่า 0.5% : ซึ่งหมายความว่าทำให้เกิดเชื้อรากระเบื้องได้ยาก สามารถใช้งานในที่ที่มีความชื้นหรือเปียกน้ำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเชื้อราในเนื้อกระเบื้อง
3. ทนทานต่อการขูดขีด : เพราะกระเบื้องมีค่าความแข็งแรงที่สูงจึงทำให้กระเบื้องประเภทนี้จะเป็นรอยยาก
4. รับน้ำหนักได้มาก : กระเบื้องผ่านความร้อนสูงเนื้อกระเบื้องจึงมีความแข็งแรงมากส่วนใหญ่กระเบื้องประเภทนี้จะรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องเซรามิกที่ผ่านความร้อนต่ำหรือกระเบื้องดินเผา
5. อายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุน

ข้อเสีย
1. มีราคาสูง เนื่องจากวัตถุดิบที่มีราคาสูงและกระบวนการในการผลิตที่ต้องเน้นเรื่องความพิถีพิถันอย่างมาก
2. ในประเทศไทยยังมีลวดลายให้เลือกไม่มากนักเมื่อเทียบกับกระเบื้องเซรามิก แต่ตลาดยุโรปนั้นกระเบื้องพอร์ซเลนเป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะอากาศที่สุดขั่วของประเทศในแทบยุโรป หรือแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น หลายๆที่
จะเลือกใช้ เป็นตัวเลือกแรกๆเลยก็ว่าได้.

  ที่นี้ทุกคนน่าจะได้เห็นแล้วว่ากระเบื้องพอร์ซเลนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวหากมองที่ความคุ้มค่า การใช้งานได้ยาวนาน และปัญหาจุกจิกน้อยหรือเรียกได้ว่า เจ็บแต่จบ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของทุกคนแล้วว่าต้องการเลือกกระเบื้องแบบใหน ใช้งานยังไง เพราะกระเบื้องแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสียด้วยกันทั้งสิ้น ดีที่สุดคือการเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของแต่ละคน

กระเบื้องบีเซนเราเป็น กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพระดับยุโรป ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่ Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981
โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

กระเบื้องพอร์ซเลน “Porcelain Tiles” คืออะไร?

   เชื่อว่าคนที่กำลังจะสร้างบ้านและกำลังตัดสินใจเลือกกระเบื้องปูพื้น กระเบื้องผนัง น่าจะเคยได้ยินคำว่า กระเบื้องพอร์ซเลนกันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่ทราบว่ากระเบื้องพอร์ซเลน คืออะไร ใช้งานยังไง วันนี้ BEZEN จะมาแนะนำทุกๆคนให้รู้จักกับ”กระเบื้องพอร์ซเลน”ให้มากขึ้น ที่จะช่วยให้ทุกคน สามารถเลือกซื้อกระเบื้องได้อย่างถูกต้อง และตรงตามความต้องการมากที่สุด.

กระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลน คืออะไร?

เป็นหนึ่งในกระเบื้องที่มีความทนทานที่สุดในบรรดากระเบื้องหลายๆแบบ ในส่วนของการผลิตนั้นจะมีส่วนผสมของดินขาวเป็นหลัก รวมกับแร่และส่วนผสมอื่นๆ

(ขึ้นอยู่กับสูตรการผลิตของผู้ผลิตนั้นๆ) และผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1,300 องศาเซลเซียส จนเนื้อกระเบื้องถูกหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น หรือ กระเบื้องโฮโมจีเนียส กระเบื้องจึงมีความแข็งแรง ทนทาน  และมีค่าการดูดซึมน้ำอยู่ราวๆ 0.5% ซึ่งกระเบื้องเซรามิกทั่วไปจะอยู่ที่ราวๆ 3-10% ส่วนพวกอิฐแดงก็จะมากกว่า 10% ขึ้นไป.

การใช้งาน กระเบื้องพอร์ซเลน

ใช้กรุผนัง ภายนอกและภายในอาคารได้ เพราะคุณสมบัติสามารถทนแดด ทนฝน ได้ดี ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กันทั้งกำแพงรั้ว เสาหน้าบ้าน กำแพงบ้านและยังสามารถใช้งานภายในอาคารได้ไม่ว่าจะใช้ปูผนังห้องน้ำหรือแม้แต่ผนังห้องนั่งเล่นได้ เนื้อกระเบื้องที่มีรูพรุนน้อย จึงไม่มีปัญหาดูดซึมความชื้น 

ใช้ปูพื้น เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติกันน้ำและกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความทนทานสูง นอกจากความทนทานแล้ว กระเบื้องปูพื้นพอร์ซเลนยังมีดีไซน์ที่หลากหลาย ช่วยให้คุณใช้ตกแต่งห้องน้ำหรือห้องครัวในฝันของคุณได้ สามารถใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นห้องน้ํา กระเบื้องปูพื้นห้องครัว เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นภายนอก หรือกระเบื้องปูพื้นโรงรถก็ได้ (กระเบื้องบีเซนรับน้ำหนักได้เฉลี่ย 450 กก./ตารางเซนติเมตร)

สามารถจัดวางแพทเทิร์นในการปูให้มีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่นั้นๆ ลวดลายและผิวสัมพัสของกระเบื้องพอร์ซเลนสามารถทำให้เหมือนกับหินธรรมชาติหรือลายไม้ก็ได้ ซึ่งเมื่อนำไปปูภายนอกทำให้ได้รูปแบบที่สวยงามกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบๆตัวบ้านได้เป็นอย่างดี หรือการนำไปใช้ภายในอาคารก็สามารถสร้างความน่าสนใจหรือเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ความทนทานของ กระเบื้องพอร์ซเลน

ทนทานต่อการขูดขีด เพราะจะมีค่าความแข็งสูง ซึ่งรอยขูดขีดจาก มีด กรรไกร จะไม่สามารถทำให้เป็นรอยได้ , ทนทานต่อความร้อนและแสงUV 

ทนทานต่อความชื้น เชื้อรา คราบตะไคร่ เพราะเนื้อกระเบื้องที่มีรูพรุนน้อยและค่าการดูดซึมน้ำต่ำอยู่ราวๆ 0.5% , ทนทานต่อกรดด่างและสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป ส่วนน้ำหนักที่แน่นอนขึ้นอยู่กับผู้ผลิตนั้นๆว่ารับได้มากเท่าไหร่

การดูแลรักษา

กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่ดูแลรักษาง่ายทั้งในเรื่องของรอยขูดขีดที่เกิดขึ้นยาก เชื้อราในเนื้อกระเบื้องที่เกิดยากเพราะค่าการดูดซึมน้ำต่ำ

การดูแลรักษาจึงมีแค่การดูแลความสะอาดจากคราบสกปรกและฝุ่นที่เกิดขึ้น

โดย ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดก็เพียงพอแล้ว หรือหากเป็นคราบเปื้อนมากๆก็ควรเช็ดออกโดยทันทีไม่ให้เกิดคราบฝั้งลึก

กระเบื้องพอร์ซเลน02

ข้อดี ข้อเสีย ของกระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แต่แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีข้อดีข้อเสีย จุดเด่นจุดด้อย เราจะมาดูกันว่ากระเบื้องพอร์ซเลนนั้น ดีไม่ดีอย่างไร

ข้อดี

มีความคงทนแข็งแรงสูง

เพราะผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1,300 องศาเซลเซียส จนกระเบื้องมีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น เนื้อกระเบื้องจึงมีความแข็งแรง

การดูดซึมน้ำที่ต่ำกว่า 0.5%

ซึ่งหมายความว่าทำให้เกิดเชื้อรากระเบื้องได้ยาก สามารถใช้งานในที่ที่มีความชื้นหรือเปียกน้ำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเชื้อราในเนื้อกระเบื้อง

ทนทานต่อการขูดขีด

เพราะกระเบื้องมีค่าความแข็งแรงที่สูงจึงทำให้กระเบื้องประเภทนี้จะเป็นรอยยาก

รับน้ำหนักได้มาก

กระเบื้องผ่านความร้อนสูงเนื้อกระเบื้องจึงมีความแข็งแรงมากส่วนใหญ่กระเบื้องประเภทนี้จะรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องเซรามิกที่ผ่านความร้อนต่ำหรือกระเบื้องดินเผา

อายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุน

เนื่องจากกระเบื้องมีราคาสูงแต่สามารถใช้งานได้ยาวนานปัญหาน้อย การลงทุนกับกระเบื้องพอร์ซเลนก็เป็นสิ่งที่น่าลงทุนกับบ้าน.

ข้อเสีย

มีราคาสูง

เนื่องจากวัตถุดิบที่มีราคาสูงและกระบวนการในการผลิตที่ต้องเน้นเรื่องความพิถีพิถันอย่างมาก

ในประเทศไทยยังมีลวดลายให้เลือกไม่มากนัก

เมื่อเทียบกับกระเบื้องเซรามิก แต่ตลาดยุโรปนั้นกระเบื้องพอร์ซเลนเป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะอากาศที่สุดขั่วของประเทศในแทบยุโรป หรือแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น หลายๆที่จะเลือกใช้ กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นตัวเลือกแรกๆเลยก็ว่าได้.

 

  ที่นี้ทุกคนน่าจะได้เห็นแล้วว่ากระเบื้องพอร์ซเลนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวหากมองที่ความคุ้มค่า การใช้งานได้ยาวนาน และปัญหาจุกจิกน้อยหรือเรียกได้ว่า เจ็บแต่จบ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของทุกคนแล้วว่าต้องการเลือกกระเบื้องแบบใหน ใช้งานยังไง เพราะกระเบื้องแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสียด้วยกันทั้งสิ้น ดีที่สุดคือการเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของแต่ละคน

กระเบื้องบีเซนเราเป็น กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพระดับยุโรปหากใครที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

กระเบื้อง Homogeneous คืออะไร คนรักบ้านต้องอ่าน

กระเบื้องโฮโมจีเนียส Homogeneous Tiles คืออะไร คนรักบ้านต้องอ่าน

    หลายคนอาจจะสงสัยว่า กระเบื้อง homogeneous คือ อะไรวันนี้เรามีคำตอบให้ กระเบื้องโฮโมจีเนียส ก็คือประเภทย่อยของกระเบื้องพอร์ซเลน ตัวกระเบื้องพอร์ซเลนจะเป็นกระเบื้องที่มีส่วนผสมหลักคือดินขาว ที่ผ่านอุณหภูมิการเผาไหม้ที่  1,300 องศาเซลเซียส จึงส่งผลทำให้เนื้อกระเบื้องค่อนข้างมีความเนียนละเอียดและมีความหนาแน่นสูง โดยกระเบื้องพอร์ซเลนจะถูกแบ่งออกเป็นสองชนิดก็คือแบบเนื้อเดียวและแบบเนื้อผสม

วันนี้ bezenceramictiles จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกระเบื้องพอร์ซเลนแบบเนื้อเดียว หรือที่เรียกกันว่า “Homogeneous” ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรง ไม่มีการเคลือบสี เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ซึ่งในกระบวนการผลิตนั้นจะมีการผสมสีเรียบร้อยแล้วในเนื้อดินก่อนที่จะนำไปเผา ซึ่งส่งผลให้เนื้อกระเบื้องและผิวหน้ากระเบื้องถูกหลอมรวมเป็นสีเดียวกันทั้งหมด

กระเบื้องโฮโมจีเนียส homogenous

กระเบื้องแบบใดบ้างที่เป็นกระเบื้องโฮโมจีเนียส

กระเบื้องแกรนิตโต้หรือกระเบื้องพอร์ซเลน คือกระเบื้องเซรามิก ที่มีการผลิตที่ผ่านกระบวนการเผาด้วยความร้อนที่สูงกว่า 1,300 องศาเซลเซียสจนเนื้อกระเบื้องหลอมละลายจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน  ดังนั้นกระเบื้องแกรนิตโต้และพอร์ซเลนจึงจัดอยู่ในประเภท กระเบื้องโฮโมจีเนียส แบบเนื้อเดียวหรือ Homogeneous Tile  ซึ่งมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างคงทนเป็นอย่างมาก แข็งแกร่งเท่ากับหินแกรนิตของจริง  ไม่เป็นรอยง่ายทนต่อการขีดข่วนได้ดี และสามารถใช้งานได้ดีกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป อีกทั้งยังมีเปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำต่ำน้อยกว่า 0.5%

เหมาะแก่การใช้งานแบบใดบ้าง

ด้วยความที่เนื้อกระเบื้องมีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกัน รูพรุนน้อย แข็งแกร่งและคงทน จึงเหมาะแก่การใช้งานไม่ว่าจะเป็นใช้เป็น กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องผนัง ภายนอกและภายในบ้าน การใช้ปูพื้นห้องน้ำ ห้องครัว บนทางเดิน โรงจอดรถนอกบ้าน และยังรวมถึงการใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นสำนักงานได้อีกด้วยเพราะว่าตัวกระเบื้องนั้นสามารถทนแรงกระแทกได้ดี ทนแดดทนฝน ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่จะต้องมีคนเดินผ่านสัญจรไปมาบ่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาอีกทั้งยังสามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่ายดาย

คุณสมบัติสำคัญ

คุณสมบัติที่สำคัญของ กระเบื้อง homogeneous คือ การเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด ตัวเนื้อของกระเบื้องจะต้องมีความละเอียดและแน่น เพื่อให้สามารถมีคุณสมบัติในการรับแรงได้สูง อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำที่ต่ำ ตัวอย่างเช่นเมื่อเทียบกับการใช้ กระเบื้องโฮโมจีเนียส และการใช้กระเบื้องแบบเซรามิกทั่วไป ในการปูพื้นกระเบื้องในห้องน้ำ กระเบื้องแบบโฮโมจีเนียส คือประเภทที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้น้ำยากันซึมเลย เพราะโอกาสในการรั่วไหลนั้นมีน้อยมาก นี่ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของกระเบื้องชนิด

กระเบื้องโฮโมจีเนียส มีกี่ประเภท มีแบบไหน

กระเบื้องโฮโมจีเนียส ก็สามารถแบ่งออกเป็นได้หลายแบบเช่นกัน โดยการจำแนกนั้นจะแบ่งตามวัสดุและเนื้อของกระเบื้อง ซึ่งวันนี้เรามาจำแนกให้เห็นกันอย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบุข้อดีและข้อเสียได้ดังนี้

   โฮโมจีเนียส Full Body คือกระเบื้องที่มีสีอยู่ในเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น มีข้อดีก็คือเหมาะสำหรับการใช้ในงานหนักๆ เพราะมีความทนทานมากกว่าชนิดอื่น แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง

   โฮโมจีเนียส Double Loading กระเบื้องโฮโมจีเนียสแบบดับเบิลโหลด จะถูกแบ่งออกเป็นสองเลเยอร์ โดยชั้นล่างสุดจะเป็นเนื้อแบบพอร์ซเลนที่ไม่มีลาย และชั้นบนจะเป็นเนื้อพอร์ซเลนที่มีส่วนผสมของเม็ดสี จึงทำให้มีลวดลายที่สวยงาม เมื่อเทียบกับแบบฟูลบอดี้แล้วมีราคาถูกกว่า มีความแข็งแรงทนทานพอกันแต่ว่าลายมีให้เลือกค่อนข้างน้อย

   โฮโมจีเนียส Glazed Porcelain กระเบื้อง Glazed Porcelain ชนิดนี้จะมีการทำลวดลายให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่จะนำไปเผา จึงทำให้เกิดลวดลายที่สวยงาม มีข้อดีคือเป็น กระเบื้อง homogeneous คือ ที่ทำความสะอาดง่ายเพราะว่ามีหน้าเงา แต่ว่าความทนทานนั้นจะน้อยกว่าแบบ Full Body

   โฮโมจีเนียส Polished Glazed Porcelain กระเบื้องชนิดนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ กระเบื้อง Glazed Porcelain แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ จะมีความเงางามมากกว่าเพราะว่าหลังจากที่เผาเรียบร้อยแล้วจะนำออกมาขัดอีกครั้ง มีข้อดีนั่นก็คือในเรื่องของลวดลายที่มีให้เลือกมากกว่าไม่ว่าจะเป็นลายหินธรรมชาติ หรือว่าลายหินอ่อน การทำความสะอาดนั้นง่ายกว่าชนิดอื่นๆ ทั้งหมด แต่มีข้อเสียในเรื่องของความทนทานที่น้อยกว่าชนิดอื่น และมีราคาสูงกว่า Glazed Porcelain

กระเบื้องโฮโมจีเนียส homogenous01

ข้อแตกต่างระหว่างกระเบื้องเซรามิกทั่วไป กับ กระเบื้องโฮโมจีเนียส Homogeneous 

เพื่อให้คุณสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงจะมาเปรียบเทียบกันระหว่างคุณสมบัติของกระเบื้องเซรามิกทั่วไปและ กระเบื้องโฮโมจีเนียส ดังนี้

กระเบื้องโฮโมจีเนียส คุณภาพดีที่มีความแข็งแรง ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อีกทั้งยังมีลักษณะพื้นผิวที่มีความคล้ายคลึงกับหินธรรมชาติ  และยังสามารถพิมพ์กราฟิกออกมา เลียนแบบวัสดุประเภทอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากกระเบื้องเซรามิกประเภททั่วไป

กระเบื้องเซรามิกทั่วไป มีความหนาแน่นที่น้อยกว่า มีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้งานที่สามารถใช้ได้ภายในอาคารเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ก็มีเทคโนโลยีมากมายในการผลิตน้ำยาเคลือบหน้ากระเบื้องที่ทำให้มีคุณสมบัติทนต่อความชื้นได้มากยิ่งขึ้น และมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย

    หวังว่าทุกคนน่าจะได้ความรู้กันแล้วว่า กระเบื้อง homogeneous คือ อะไร และสามารถนำไปเป็นช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้องได้ดีขึ้น กระเบื้องบีเซนเราเป็น กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพระดับยุโรป หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่

Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน

กระเบื้องโฮโมจีเนียส Homogeneous Tiles คืออะไร คนรักบ้านต้องอ่าน

กระเบื้องโฮโมจีเนียส คืออะไร?

    หลายคนอาจจะสงสัยว่า กระเบื้อง homogeneous คือ อะไรวันนี้เรามีคำตอบให้ “กระเบื้องโฮโมจีเนียส” ก็คือประเภทย่อยของกระเบื้องพอร์ซเลน ตัวกระเบื้องพอร์ซเลนจะเป็นกระเบื้องที่มีส่วนผสมหลักคือดินขาว ที่ผ่านอุณหภูมิการเผาไหม้ที่  1,300 องศาเซลเซียส จึงส่งผลทำให้เนื้อกระเบื้องค่อนข้างมีความเนียนละเอียด และมีความหนาแน่นสูง โดยกระเบื้องพอร์ซเลนจะถูกแบ่งออกเป็นสองชนิดก็คือแบบเนื้อเดียวและแบบเนื้อผสม

วันนี้ bezenceramictiles จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกระเบื้องพอร์ซเลนแบบเนื้อเดียว หรือที่เรียกกันว่า “Homogeneous” ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรง ไม่มีการเคลือบสี เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ซึ่งในกระบวนการผลิตนั้นจะมีการผสมสีเรียบร้อยแล้วในเนื้อดินก่อนที่จะนำไปเผา ซึ่งส่งผลให้เนื้อกระเบื้องและผิวหน้ากระเบื้องถูกหลอมรวมเป็นสีเดียวกันทั้งหมด

กระเบื้องโฮโมจีเนียส homogenous

กระเบื้องแบบใดบ้างที่เป็นโฮโมจีเนียส

กระเบื้องแกรนิตโต้หรือกระเบื้องพอร์ซเลน คือกระเบื้องเซรามิก ที่มีการผลิตที่ผ่านกระบวนการเผาด้วยความร้อนที่สูงกว่า 1,300 องศาเซลเซียสจนเนื้อกระเบื้องหลอมละลายจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน  ดังนั้นกระเบื้องแกรนิตโต้จึงจัดอยู่ในประเภทกระเบื้องแบบเนื้อเดียวหรือ Homogeneous Tile  ซึ่งมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างคงทนเป็นอย่างมาก แข็งแกร่งเท่ากับหินแกรนิตของจริง  ไม่เป็นรอยง่ายทนต่อการขีดข่วนได้ดี และสามารถใช้งานได้ดีกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป อีกทั้งยังมีเปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำต่ำน้อยกว่า 0.5%

เหมาะแก่การใช้งานแบบใดบ้าง

ด้วยความที่กระเบื้องแบบโฮโมจีเนียสเป็นเนื้อเดียวกันและมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและคงทน จึงเหมาะแก่การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการใช้ปูพื้นภายในบ้าน การใช้ปูพื้นห้องน้ำ ห้องครัว บนทางเดิน โรงจอดรถนอกบ้าน และยังรวมถึงการใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นสำนักงานได้อีกด้วยเพราะว่าตัวกระเบื้องนั้นสามารถทนแรงกระแทกได้ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่จะต้องมีคนเดินผ่านสัญจรไปมาบ่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาอีกทั้งยังสามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่ายดาย

คุณสมบัติสำคัญ

คุณสมบัติที่สำคัญของ กระเบื้อง homogeneous คือ การเป็นตัวเนื้อเดียวกันทั้งหมด ตัวเนื้อของกระเบื้องจะต้องมีความละเอียดและแน่น เพื่อให้สามารถมีคุณสมบัติในการรับแรงได้สูง อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำที่ต่ำ ตัวอย่างเช่นเมื่อเทียบกับการใช้กระเบื้องโฮโมจีเนียสและการใช้กระเบื้องแบบเซรามิกทั่วไป ในการปูพื้นกระเบื้องในห้องน้ำ กระเบื้องแบบโฮโมจีเนียส คือประเภทที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้น้ำยากันซึมเลย เพราะโอกาสในการรั่วไหลนั้นมีน้อยมาก นี่ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของกระเบื้องชนิด

กระเบื้องโฮโมจีเนียส มีกี่ประเภท มีแบบไหน

กระเบื้องโฮโมจีเนียส ก็สามารถแบ่งออกเป็นได้หลายแบบเช่นกัน โดยการจำแนกนั้นจะแบ่งตามวัสดุและเนื้อของกระเบื้อง ซึ่งวันนี้เรามาจำแนกให้เห็นกันอย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบุข้อดีและข้อเสียได้ดังนี้

   โฮโมจีเนียส Full Body คือกระเบื้องที่มีสีอยู่ในเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น มีข้อดีก็คือเหมาะสำหรับการใช้ในงานหนักๆ เพราะมีความทนทานมากกว่าชนิดอื่น แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง

   โฮโมจีเนียส Double Loading กระเบื้องโฮโมจีเนียสแบบดับเบิลโหลด จะถูกแบ่งออกเป็นสองเลเยอร์ โดยชั้นล่างสุดจะเป็นเนื้อแบบพอร์ซเลนที่ไม่มีลาย และชั้นบนจะเป็นเนื้อพอร์ซเลนที่มีส่วนผสมของเม็ดสี จึงทำให้มีลวดลายที่สวยงาม เมื่อเทียบกับแบบฟูลบอดี้แล้วมีราคาถูกกว่า มีความแข็งแรงทนทานพอกันแต่ว่าลายมีให้เลือกค่อนข้างน้อย

   โฮโมจีเนียส Glazed Porcelain กระเบื้อง Glazed Porcelain ชนิดนี้จะมีการทำลวดลายให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่จะนำไปเผา จึงทำให้เกิดลวดลายที่สวยงาม มีข้อดีคือเป็น กระเบื้อง homogeneous คือ ที่ทำความสะอาดง่ายเพราะว่ามีหน้าเงา แต่ว่าความทนทานนั้นจะน้อยกว่าแบบ Full Body

   โฮโมจีเนียส Polished Glazed Porcelain กระเบื้องชนิดนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ กระเบื้อง Glazed Porcelain แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ จะมีความเงางามมากกว่าเพราะว่าหลังจากที่เผาเรียบร้อยแล้วจะนำออกมาขัดอีกครั้ง มีข้อดีนั่นก็คือในเรื่องของลวดลายที่มีให้เลือกมากกว่าไม่ว่าจะเป็นลายหินธรรมชาติ หรือว่าลายหินอ่อน การทำความสะอาดนั้นง่ายกว่าชนิดอื่นๆ ทั้งหมด แต่มีข้อเสียในเรื่องของความทนทานที่น้อยกว่าชนิดอื่น และมีราคาสูงกว่า Glazed Porcelain

กระเบื้องโฮโมจีเนียส homogenous01

ข้อแตกต่างระหว่างกระเบื้องเซรามิกทั่วไป กับ กระเบื้อง Homogeneous

เพื่อให้คุณสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงจะมาเปรียบเทียบกันระหว่างคุณสมบัติของกระเบื้องเซรามิกทั่วไปและกระเบื้องแบบโฮโมจีเนียส ดังนี้

โฮโมจีเนียส คุณภาพดีที่มีความแข็งแรง ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อีกทั้งยังมีลักษณะพื้นผิวที่มีความคล้ายคลึงกับหินธรรมชาติ  และยังสามารถพิมพ์กราฟิกออกมา เลียนแบบวัสดุประเภทอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากกระเบื้องเซรามิกประเภททั่วไป

กระเบื้องเซรามิกทั่วไป มีความหนาแน่นที่น้อยกว่า มีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้งานที่สามารถใช้ได้ภายในอาคารเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ก็มีเทคโนโลยีมากมายในการผลิตน้ำยาเคลือบหน้ากระเบื้องที่ทำให้มีคุณสมบัติทนต่อความชื้นได้มากยิ่งขึ้น และมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย

    หวังว่าทุกคนน่าจะได้ความรู้กันแล้วว่า กระเบื้อง homogeneous คือ อะไร และสามารถนำไปเป็นช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้องได้ดีขึ้น กระเบื้องบีเซนเราเป็น กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพระดับยุโรป

หากใครที่ต้องการหา กระเบื้องโฮโมจีเนียส Porcelain ไปใช้หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องเพื่อความเข้าใจที่ดีมากยิ่งขึ้นสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่
Line : @Bezen | Facebook : Bezen Porcelain Ceramic Tiles กระเบื้องปูพื้น ผนัง | โทร : 02-422-5981

โลโก้ตัวแทนจำหน่าย

  กระเบื้องบีเซน